คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่ยินยอม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 41 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2269/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การก่อสร้างผิดแบบสัญญา แม้ผู้ควบคุมงานสั่ง แต่จำเลยไม่ยินยอม ถือเป็นฝ่ายผิดสัญญา
โจทก์เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารให้จำเลย โจทก์สร้างฐานรากอาคารบางกว่าแบบแปลนที่กำหนดไว้ แม้ได้กระทำไปตามที่ผู้ควบคุมงานของจำเลยเป็นผู้สั่ง แต่เมื่อผู้ควบคุมงานมีหน้าที่ควบคุมให้การก่อสร้างเป็นไปตามแบบแปลน ไม่มีอำนาจสั่งเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบแปลนโดยมิได้รับความยินยอมจากจำเลยหรือคณะกรรมการดูแลการก่อสร้างของจำเลยการที่โจทก์ก่อสร้างฐานรากอาคารบางกว่าแบบแปลนจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา และเมื่อโจทก์ไม่ยอมแก้ไขฐานรากให้ถูกต้อง จำเลยจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญา
ฐานรากที่โจทก์ก่อสร้างบางกว่าแบบแปลนจะแก้ไขให้ถูกต้องไม่ได้ นอกจากรื้อทิ้งแล้วก่อสร้างใหม่ ฐานรากที่โจทก์ก่อสร้างไว้จึงไม่เป็นประโยชน์แก่จำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดกำไร และค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้อง: ผลกระทบต่อลูกหนี้ที่ไม่ได้รับแจ้งหรือยินยอม
โอนสิทธิเรียกร้องโดยไม่บอกกล่าวลูกหนี้หรือลูกหนี้มิได้ยินยอมด้วย มิใช่ว่าการโอนนั้นไม่สมบูรณ์ เป็นแต่ยกขึ้นต่อสู้ลูกหนี้มิได้เท่านั้น
จำเลยให้การว่าโจทก์รับโอนสิทธิเรียกร้องมาหรือไม่จำเลยไม่รับรอง ดังนี้ จำเลยจะฎีกาว่าหนังสือโอนหนี้ไม่ถูกต้องเพราะกรรมการลงชื่อไม่ครบตามข้อบังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2213-2214/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำร่วมกันเพื่อเอาทรัพย์ผู้อื่นไปโดยไม่ยินยอม และข่มขู่คุกคามเพื่อป้องกันการทวงคืน ถือเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลยที่ 1 หยิบแว่นตาจากกระเป๋าเสื้อผู้เสียหายขณะนั่งอยู่ในร้านขายอาหารไปใส่ส่องกระจกดู แล้วจำเลยทั้งสามเดินออกจากร้านไป ไม่คืนแว่นตา เมื่อผู้เสียหายไปขอคืน จำเลยที่ 1 ไม่คืนให้ กลับให้จำเลยที่ 2 เอาแว่นตาไป ผู้เสียหายขอคืนจากจำเลยที่ 2 ๆ ไม่ให้ จำเลยที่ 3 คว้าเอาไปอีกต่อหนึ่งต่อหน้าผู้เสียหาย แล้วพากันขึ้นรถประจำทางไป ผู้เสียหายตามไปทวงคืนอีก จำเลยที่ 2 ที่ 3 พูดว่า อย่าตามมานะ ถ้าตามจะเจ็บตัว ต่อมาในวันเกิดเหตุนั้นเอง จำเลยที่ 3 เอาแว่นตาไปจำนำ ดังนี้ จำเลยทั้งสามต้องมีความผิดฐานปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งงานโดยไม่จดทะเบียน: สิทธิเรียกร้องสินสอดเมื่อฝ่ายหญิงไม่ยินยอมจดทะเบียน
ชายหญิงแต่งงานกันโดยไม่นำพาต่อการที่จะไปจดทะเบียนสมรสครั้นอยู่กินด้วยกันถึง 9 เดือนแล้วเกิดทะเลาะกัน ชายจึงไปแจ้งอำเภอให้เรียกหญิงไปและขอจดทะเบียนสมรส แต่หญิงก็ไม่ยอมจด เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างไม่นำพาต่อการไปจดทะเบียนสมรสมาแต่เดิมเช่นนี้ชายจึงไม่อาจอ้างได้ว่าฝ่ายหญิงผิดสัญญา จึงไม่อาจเรียกสินสอดทองหมั้นคืนจากฝ่ายหญิง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2059/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินบริคณห์-หนี้ส่วนตัว: ยึดเรือนพิพาทไม่ได้หากผู้ร้องไม่ยินยอมและบอกล้างโมฆียะกรรม
ถ้าหากจำเลยกู้เงินโจทก์โดยผู้ร้องผู้เป็นสามีมิได้ยินยอมอนุญาต และได้บอกล้างโมฆียะกรรมให้โจทก์ทราบจริงแล้ว หนี้ระหว่างจำเลยกับโจทก์ก็ย่อมไม่ผูกพันเรือนพิพาทซึ่งเป็นสินบริคณห์ โจทก์จะนำยึดเรือนพิพาทหาได้ไม่ เว้นแต่หนี้ตามคำพิพากษานั้นเป็นหนี้ร่วมกันระหว่างสมรส
แม้จำเลยผู้เป็นภริยาจะต้องรับผิดในหนี้เงินกู้เป็นส่วนตัวก็ตาม แต่ถ้าหากเรือนพิพาทเป็นสินบริคณห์แล้ว โจทก์ก็จะยึดเรือนพิพาทเพื่อขายชำระหนี้ทั้งหมดไม่ได้เช่นกัน โจทก์จะต้องดำเนินการขอต่อศาลให้แยกสินบริคณห์ส่วนของจำเลยออกชำระหนี้โจทก์เสียก่อน แล้วจึงจะบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับให้จดทะเบียนหย่าหลังทำหนังสือหย่าโดยสมัครใจ แม้ฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอม
สามีภริยาที่จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมายแล้ว ได้ทำหนังสือหย่ากันเองด้วยความสมัครใจ มีพยาน 2 คนลงชื่อในหนังสือหย่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมไปจดทะเบียนหย่าที่อำเภอ ศาลบังคับให้ไปจดทะเบียนหย่าได้ถ้าไม่ไปก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเพื่อค้าแล้วเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัยโดยไม่ยินยอม ผู้เช่ามิได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าตึกเพื่อทำการค้า แต่ก่อนจะหมดอายุสัญญาเช่า 1 ปีเศษ ผู้เช่าเลิกการค้าใช้ตึกเป็นที่อยู่อาศัยอย่างเดียว โดยผู้ให้เช่ามิได้รู้เห็นยินยอมด้วยเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าแล้วผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ ผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมของผู้ให้เช่า ทำให้ผู้เช่าช่วงเป็นบริวารของผู้เช่าเดิม ศาลมีอำนาจสั่งขับไล่
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เอานาไปให้จำเลยที่ 2-3 เช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ จำเลยที่ 2-3 มิได้ให้การต่อสู้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของโจทก์ดังกล่าวนั้น ก็ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัยถึงความข้อนั้น
ผู้เช่าช่วงที่ไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า ถือว่าเป็นบริวารของผู้เช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงโดยไม่ยินยอมของผู้ให้เช่า ทำให้ผู้เช่าช่วงเป็นบริวารของผู้เช่าเดิม ศาลมีอำนาจขับไล่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เอานาไปให้จำเลยที่ 2-3 เช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ จำเลยที่2-3 มิได้ให้การต่อสู้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของโจทก์ดังกล่าวนั้น. ก็ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัยถึงความข้อนั้น
ผู้เช่าช่วงที่ไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า ถือว่าเป็นบริวารของผู้เช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการรับช่วงสิทธิไถ่จำนอง: เจ้าหนี้จำเลยมีสิทธิแม้จำเลยไม่ยินยอม
ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำเลยย่อมมีสิทธิจะเข้ารับช่วงสิทธิไถ่การจำนองจากโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จำนองจำเลยเข้าเป็นผู้รับจำนองแทนที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนได้ตาม ม.229(1),230 แม้ว่าจำเลยจะตกลงด้วยหรือไม่ก็ตามที
of 5