คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความยุติธรรม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3414/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนการสืบพยาน: ศาลฎีกาพิจารณาเหตุผลความจำเป็นของทนายจำเลยควบคู่กับการดำเนินกระบวนพิจารณาเพื่อความยุติธรรม
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าต้องไปติดต่อธุระที่มีความจำเป็นและสำคัญแม้จะไม่ยิ่งไปกว่าที่ทนายจำเลยต้องมาดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลซึ่งนัดไว้ก่อนและควรมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีด้วยตนเองแต่เมื่อพิเคราะห์ถึงคำให้การและพฤติการณ์ตามฟ้องสำนวนประกอบด้วยแล้ว ควรให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์ออกไปเพื่อให้ความยุติธรรมดำเนินไปด้วยดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 805/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเลื่อนคดี: เหตุจำเป็น, ความยุติธรรม, และขอบเขตการอุทธรณ์คำสั่ง
โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์ ศาลไม่อนุญาต โจทก์ร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี โดยอ้างว่าเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ ศาลยกคำร้อง โจทก์แถลงคัดค้านคำสั่งที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี ศาลพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาใหม่โดยอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีได้ เป็นคนละกรณีกับที่โจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งซึ่งโจทก์ขอเมื่อพ้นเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 โจทก์ไม่มาศาลในวันชี้สองสถานแล้วมาร้องขอเลื่อนวันสืบพยานโจทก์ แต่เป็นการขอเลื่อนครั้งแรกเพราะทนายติดว่าความศาลอื่น ยังไม่พอถือเป็นประวิงความศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่โดยอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2405/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนการสืบพยานโดยคำร้องที่ไม่ถูกต้อง ศาลใช้ดุลพินิจตามมาตรา 39 เพื่อให้ความยุติธรรมดำเนินไปได้
แม้โจทก์จะมิได้มอบฉันทะให้ ว.ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี แต่การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดย ว.นำคำร้องมายื่น อันเป็นการไม่ถูกต้องนั้น อาจเป็นไปได้ว่าโจทก์ไม่จงใจขาดนัดและศาลอาจสั่งให้เลื่อนไปได้เองโดยไม่ต้องอาศัยคำร้องดังกล่าว แต่อาศัยประมาณกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 39 ในข้อที่ว่า ในกรณีอื่นใดซึ่งศาลเห็นว่าถ้าได้เลื่อนการพิจารณาไปจักทำให้ความยุติธรรมดำเนินไปด้วยดี เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะมีคำสั่งเลื่อนการพิจารณาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาประกัน: ศาลพิจารณาความเสียหายต่อความยุติธรรมและเจตนาของผู้ประกัน
ค่าปรับที่ศาลสั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกันนั้นมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ การที่จะลดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนลงมาเป็นจำนวนพอสมควรเท่าใดนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 119 ก็ดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ก็ดีศาลย่อมต้องพิเคราะห์ถึงทางได้เสียทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายไม่ใช่แต่เพียงทางได้เสียในเชิงทรัพย์สินแต่อย่างเดียวเท่านั้น
ในคดีอาญาที่จำเลยมีประกันตัวไปในระหว่างพิจารณา ต่อมานายประกันไม่นำตัวจำเลยมาส่งศาลตามนัด ทำให้ไม่ได้ตัวจำเลยมาทำการพิจารณาพิพากษา ย่อมทำให้เสียหายแก่ความยุติธรรมไม่ว่าจำเลยจะเป็นผู้กระทำผิดหรือไม่ก็ตาม และจะเป็นช่องทางให้จำเลยคดีอื่นใดกระทำเช่นคดีนี้บ้างความสงบเรียบร้อยก็จะหาได้ยาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับนายประกัน: ศาลพิจารณาความเสียหายต่อความยุติธรรมและเจตนาสมัครใจของนายประกันประกอบการลดค่าปรับ
ค่าปรับที่ศาลสั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกันนั้น มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ การที่จะลดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนลงมาเป็นจำนวนพอสมควรเท่าใดนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 119 ก็ดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ก็ดีศาลย่อมต้องพิเคราะห์ถึงทางได้เสียทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายไม่ใช่แต่เพียงทางได้เสียในเชิงทรัพย์สินแต่อย่างเดียวเท่านั้น
ในคดีอาญาที่จำเลยมีประกันตัวไปในระหว่างพิจารณา ต่อมานายประกันไม่นำตัวจำเลยมาส่งศาลตามนัด ทำให้ไม่ได้ตัวจำเลยมาทำการพิจารณาพิพากษา ย่อมทำให้เสียหายแก่ความยุติธรรมไม่ว่าจำเลยจะเป็นผู้กระทำผิดหรือไม่ก็ตาม และจะเป็นช่องทางให้จำเลยคดีอื่นใดกระทำเช่นคดีนี้บ้างความสงบเรียบร้อยก็จะหาได้ยาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระบวนการสอบถามคู่ความเพื่อเลื่อนการขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย แม้โจทก์ไม่เข้าใจภาษาไทยและไม่มีทนาย
การที่ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาสอบถามคู่ความเรื่องที่ว่าควรจะเลื่อนการขายทอดลาดต่อไปอีกหรือไม่ เป็นการบวนพิจารณาที่ชอบ เพราะโจทก์จำเลยต่างไม่ตกลงกันว่าควรเลื่อนหรือไม่ และเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ดำเนินการขายทอดตลาดได้รายงานศาลขอคำสั่ง การที่ศาลสอบถามคู่ความก็เพื่อที่จะยังให้เป็นไปด้วยความยุติธรรม เมื่อคู่ความได้ตกลงกันและข้อตกลงนั่น ไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ทั้งสองฝ่ายได้ลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน กระบวนพิจารณาของศาลจึงชอบด้วยกฎหมาย การที่โจทก์อ้างว่าโจทก์ไม่เข้าใจภาษาไทยดี และไม่มีทนายความ ก็ปรากฏว่าโจทก์มิได้โต้แย้งหรือร้องขอต่อศาลเพื่อจัดหาล่าม ตามรายงานกระบวนพิจารณาไม่ปรากฏเหตุที่จะแสดงว่าโจทก์หลงผิดเพราะไม่เข้าใจภาษาไทย โจทก์เป็นตัวความย่อมมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาเองได้โดยลำพัง เพียงแต่โจทก์ไม่มีทนายความ ไม่เป็นเหตุที่จะทำให้กระบวนพิจารณาเสียไป กรณีไม่ต้องประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ที่จะขอให้ศาลสั่งเพิกถอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการมีทนาย - ความจำเป็นในการพิจารณาคดีใหม่ หากจำเลยไม่ได้รับการสอบถามเรื่องทนาย
คดีอาญาที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยซึ่งมีอัตราโทษจำคุกถึง10 ปี เมื่อศาลชั้นต้นมิได้สอบถามจำเลยในเรื่องทนายความ และพิพากษาลงโทษจำคุก ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการดำเนินคดี ย่อมเป็นการจำเป็นที่จะให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จต่อศาล ไม่จำเป็นต้องสาบานตนก่อน หากความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 มิได้วางเกณฑ์องค์ประกอบความผิดไว้ว่า พยานที่เบิกความเท็จนั้นจะต้องได้สาบานหรือปฏิญาณตัวแล้วด้วยจึงจะมีความผิดดังเช่นในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 155ความมุ่งหมายอันเป็นสารสำคัญของมาตรา 177 อยู่ที่จะเอาผิดกับผู้เบิกความในข้อสำคัญแห่งคดีด้วยความเท็จเป็นสำคัญเพราะการเบิกความเท็จต่อศาลย่อมมีส่วนทำให้เสื่อมเสียความยุติธรรมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1081/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: ถ้อยคำแสดงเจตนาดูหมิ่นหรือไม่?
เจ้าพนักงานตำรวจจราจรอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน จับจำเลยในข้อหาว่าขับรถรับจ้างรับคนโดยสารเกินจำนวน มีรถยนต์ส่วนบุคคลคันหนึ่งบรรทุกคนวิ่งผ่านไป จำเลยกล่าวดูหมิ่นตำรวจผู้จับจำเลยว่า"รถคันนี้ทำไมไม่จับกุม คนก็แน่นเหมือนกัน หรือจะแกล้งจับเฉพาะผมคนเดียวเท่านั้น จราจรลำพูนไม่ให้ความยุติธรรม" ดังนี้แสดงว่า จำเลยกล่าวโดยตั้งใจเป็นการกล่าวดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ไม่ใช่กล่าวในลักษณะปรับทุกข์ ติชมปรารภ หรือขอความเห็นใจจำเลยจึงมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามมาตรา 136

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการเลื่อนคดีและตัดพยานเมื่อพยานไม่มาศาล และการพิจารณาความยุติธรรมในคดีอาญา
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 111 พยานได้รับหมายเรียกแล้วไม่มาศาล ศาลจะเลื่อนการพิจารณาไปและออกหมายจับก็ได้ บทบัญญัตินี้ให้อำนาจแก่ศาลจะหยิบยกขึ้นเอง โดยศาลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความร้องขอ คดีอาญาเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำพยานหลักฐานมาแสดงว่าจำเลยกระทำผิดดังฟ้อง สำหรับคดีนี้ ต้องเลื่อนคดีมาหลายครั้งก็จริง แต่โจทก์ก็พยายามที่จะเอาตัวพยานตลอดมา ถ้าจำเลยต้องขัง ศาลฎีกาก็เห็นควรตัดพยานโจทก์ แต่เนื่องจากจำเลยมีประกันตัวไป หากจะให้เลื่อนก็ไม่ลำบากแก่จำเลยและไม่เสียความยุติธรรม เมื่อพิจารณาถึงข้อนี้ประกอบพฤติการณ์ต่าง ๆ ในสำนวน ควรให้โอกาศโจทก์เลื่อนการพิจารณาไปอีกครั้งหนึ่ง
of 7