คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความเป็นเจ้าของ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 50 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายฝากที่ดินและโรงเรือน: หน้าที่การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของของผู้ถูกกล่าวหา
โจทก์ฟ้องว่ารับซื้อฝากที่ดินและโรงเรือนไว้จากผู้มีชื่อ 2 ห้องโดยทำสัญญาและจดทะเบียนกันที่อำเภอ จำเลยได้ทำละเมิดบังอาจปิดประตูใส่กุญแจโรงเรือนซึ่งรับซื้อฝากนั้น จึงขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่า ห้องที่โจทก์รับซื้อฝากไว้นั้นเดิมเป็นมรดกของบรรพบุรุษตกทอดมา ห้องที่จำเลยปิดได้แก่ทายาทอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ขายฝาก และทายาทผู้นั้นได้ให้จำเลยครอบครองเก็บค่าเช่าต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ เป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบก่อน เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยานกัน ก็ต้องตัดสินให้โจทก์ชนะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1034/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตั๋วรูปพรรณช้าง: การมีชื่อในตั๋วเป็นหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของได้ ไม่ตัดสิทธิ์การนำสืบ
ตั๋วพิมพ์รูปพรรณช้างมีชื่อ 2 คนเป็นเจ้าของ คนที่มีชื่อนั้นย่อมนำสืบถึงความจริงได้ว่าใครเป็นเจ้าของอันแท้จริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินจากการยึดถือต่างดอกเบี้ยและการเปลี่ยนแปลงฐานะทางกฎหมาย จำเป็นต้องมีการสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ
ข้อเท็จจริงได้ความว่า บิดาโจทก์ได้มอบที่พิพาท ซึ่งเป็นที่มือเปล่าให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ย บิดาโจทก์ตายแล้วนางแย้มขายที่พิพาทให้จำเลย จำเลยครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมา 4 ปี โจทก์ยังเถียงอยู่ว่า นางแย้มไม่ใช่ภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดาโจทก์ และยังเถียงอยู่ว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์มาแต่เดิม ได้ความเพียงนี้ยังไม่เพียงพอที่จะชี้ว่าจำเลยได้สิทธิครอบครอง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกคืน
บิดาโจทก์มอบให้จำเลยยึดถือที่นาทำต่างดอกเบี้ย จำเลยจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ก็แต่โดยมีกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 1381 ป.ม.แพ่ง ฯ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการขายทรัพย์สินของสหประชาชาติและการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของโกดังมีผลต่อการฟ้องละเมิด
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยจากที่ดินของโจทก์และสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ให้บริษัทมิตซุย ฯ ซึ่งเป็นชนชาติญี่ปุ่นเช่าที่ดินปลูกโกดัง โดยมีสัญญาว่าสิ่งปลูกสร้างนี้เป็นของบริษัทมิตซุย ฯ บริษัทรื้อถอนไปได้ และเมื่อประเทศญี่ปุ่นแพ้สงคราม สิ่งปลูกสร้างนี้ตกอยู่ในความครอบครองดูแลของ ก.ท.ส. โดยอำนาจแห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและควบคุมจัดการ ฯลฯ และจำเลยรับว่า ต่อมาสหประชาชาติได้ขายเลหลังโกดังหมายเลข 1,2,8,9 บนที่ดินพิพาทโดยโจทก์เป็นผู้ประมูลซื้อได้ แต่จำเลยยังเถียงว่าสหประชาชาติไม่มีอำนาจขายดังนี้ ถ้าหากเป็นจริงดังข้อเถียงของจำเลย โจทก์ก็ไม่ใช่เจ้าของโกดัง จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดฐานละเมิดในการใช้โกดังนั้นต่อโจทก์
ฉะนั้นการที่ศาลล่างชี้ขาดปัญหาเบื้องต้นตามมาตรา 24 ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ว่าโกดังหมายเลข 1,2,8,9 เป็นของโจทก์จึงไม่ชอบ
ส่วนปัญหาเกี่ยวกับที่ดินนั้น จำเลยไม่ได้แสดงว่ามีสิทธอย่างไร การห้ามจำเลยไม่ให้ใช้ที่ดินจึงเป็นการชอบแล้ว
ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลล่างโดยให้ยกคำชี้ขาดบางข้อเสียแล้ว ให้ดำเนินการพิจารณาใหม่ ส่วนนอกนั้นยืนตามได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายทรัพย์สินของรัฐ: การพิจารณาความเป็นทรัพย์ที่ใช้ในราชการหลังการขาย
ในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำให้ทรัพย์ของใช้ในราชการเสียหายตาม มาตรา 325 โดยให้จำคุก 2 เดือนแต่ให้รอการลงอาญาไว้นั้น จำเลยจะฎีกาว่า ทรัพย์ที่เสียหายนั้นไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในทางราชการไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีขับไล่: ศาลชี้ขาดประเด็นความเป็นเจ้าของที่ดินแล้ว แม้ไม่ได้ตัดสินว่าที่ดินเป็นของจำเลยหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยครั้งหนึ่ง ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะโจทก์สืบไม่ได้ความแน่นอนว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน โจทก์จึงกลับมาฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินรายเดียวกันอีก ดังนี้ เป็นการฟ้องซ้ำเพราะเมื่อโจทก์สืบไม่สมตามคำฟ้อง ศาลก็พิพากษายกฟ้องได้ โดยไม่จำเป็นต้องชี้ขาดว่า ที่ดินนั้นเป็นของจำเลยหรือของใคร จึงถือได้ว่าในคดีก่อนศาลได้ชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการนำสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกรื้อถอน แม้มีคำพิพากษาในคดีก่อนหน้า
ไนกรนีที่จำเลยรื้อเรือนนอกชานครัวและยุ้งข้าวที่ปลูกหยู่ไนที่ดินของโจทไปนั้น จำเลยมีสิทธิที่จะนำพยานบุคคลมาสืบว่าทรัพย์เหล่านั้นเปนของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 550/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินก่อนออกใบเหยียบย่ำเป็นหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของได้ ไม่เป็นการสืบนอกฟ้อง
ฟ้องกล่าวว่ามีนาฟาง 1 แปลงมีใบเหยียบย่ำ. สืบว่าได้ครอบครองมาก่อนออกใบเหยียบย่ำเพื่อแสดงประกอบว่าเป็นเจ้าของที่ดินได้. ไม่เป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็น. เพราะฟ้องมิได้กล่าวปิดประเด็น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องร้องคดีอาญาขึ้นอยู่กับความเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย
คดีที่ศาลชั้นต้นและ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยฟังข้อเท็จจริงไปคนละอย่างนั้น ฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 374/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกลักยืม เพื่อตัดสินความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
โจทก์ฟ้องว่ามีคนร้าย+ไปจับได้ที่ผู้มีชื่อ+ยืมมาจากจำเลย +จำเลยเปนผู้ลักหรือ+โจรเอาไว้ขอให้+โทษจำเลยให้การปฏิเสธว่าคราดเปนของโจทก์นำพะยานเข้า+ผู้มีขื่อขอยืมคราด+นี้ไปจากบุตร์ชายจำเลยดังนี้ศาลจะตัดสิน+โจทก์เสียทีเดียว
of 5