พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของฟ้องคดีปล้นทรัพย์ ไม่ต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยพยายามปล้นทรัพย์ เป็นที่เข้าใจว่าในบ้านเจ้าทรัพย์ย่อมมีทรัพย์หลายสิ่งหลายอย่าง ถ้าระบุก็มากมายเกินความจำเป็นจำเลยย่อมเข้าใจฟ้องได้ดี ไม่จำต้องระบุว่าเป็นทรัพย์อะไรราคาเท่าใด ฟ้องของโจทก์ย่อมถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีลักทรัพย์: ผู้เสียหายที่แท้จริงและคำบรรยายฟ้องที่เพียงพอ
ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ของผู้มีชื่อ ทางพิจารณาได้ความว่าผู้นั้นเป็นเพียงผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นดังนี้ ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้เสียหายไม่ใช่ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
ฟ้องกล่าวถึงทรัพย์ที่ถูกคนร้ายลักไปแล้วกล่าวว่าจำเลยลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย แม้ไม่ระบุว่าจับได้จากจำเลยหรือจำเลยได้กระทำอย่างอื่นใดแก่ทรัพย์นั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องกล่าวถึงทรัพย์ที่ถูกคนร้ายลักไปแล้วกล่าวว่าจำเลยลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย แม้ไม่ระบุว่าจับได้จากจำเลยหรือจำเลยได้กระทำอย่างอื่นใดแก่ทรัพย์นั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงเจ้าของทรัพย์ที่ถูกลัก และความเพียงพอของคำฟ้องอาญา
ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ของผู้มีชื่อ ทางพิจารณาได้ความว่าผู้นั้นเป็นเพียงผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นดังนี้ ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
ฟ้องกล่าวถึงทรัพย์ที่ถูกคนร้ายลักไปแล้วกล่าวว่าจำเลยลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย แม้ไม่ระบุว่าจับได้จากจำเลยหรือจำเลยได้กระทำอย่างอื่นใดแก่ทรัพย์นั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องกล่าวถึงทรัพย์ที่ถูกคนร้ายลักไปแล้วกล่าวว่าจำเลยลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย แม้ไม่ระบุว่าจับได้จากจำเลยหรือจำเลยได้กระทำอย่างอื่นใดแก่ทรัพย์นั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของฟ้องอาญา: การระบุตัวผู้เสียหายไม่จำเป็น หากจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
ป.ม.วิธีพิจารณาความอาญา ม.158 (5) ใช้คำว่า "อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี คำว่า "หรือ" หมายถึงอย่างใดอย่างหนึ่ง สำคัญอยู่ที่ให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำโดยหาว่า จำเลยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา แม้ในฟ้องไม่ระบุชื่อผู้จำนำก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำโดยหาว่า จำเลยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา แม้ในฟ้องไม่ระบุชื่อผู้จำนำก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของฟ้องอาญา: การระบุรายละเอียดการเบียดบังเงิน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเบียดบังเงินค่าประกันสังคมจากลูกจ้างชั่วคราวเพื่อนำส่งประกันสังคม 1,558 บาท เงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายเพื่อนำส่งสรรพากร 6,733.33 บาท เงินภาษีบำรุงท้องที่ที่ต้องนำฝาก 7,871 บาท เงินสดที่ต้องมีไว้ให้ตรวจนับ 13,321.30 บาท รวมเป็นเงิน 29,483.63 บาท ซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลรักษาตามอำนาจหน้าที่ของจำเลยก่อนนำส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเป็นของจำเลยหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต ฟ้องโจทก์ได้กล่าวข้อเท็จจริงถึงประเภทเงินกับจำนวนเงินที่จำเลยได้รับไว้และยักยอกเอาไปพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่จำต้องกล่าวถึงรายละเอียดว่าจำเลยเบียดบังเงินค่าประกันสังคมลูกจ้างชั่วคราวคนใดเมื่อใด เงินภาษีบำรุงท้องที่เป็นเงินที่จำเลยได้รับมาจากบุคคลใด เมื่อใด และเงินสดที่ต้องมีไว้ให้ตรวจนับเป็นของผู้เสียหายหรือไม่ อย่างไร เพราะโจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของฟ้องอาญา: รายละเอียดการกระทำความผิดและพยานแวดล้อมเพียงพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้งมูลเหตุจูงใจที่ทำให้จำเลยทั้งสองกระทำความผิด โดยได้ระบุด้วยว่ามีผู้เห็นเหตุการณ์ที่บ่งชี้ว่าขณะที่เกิดเหตุการฆ่ามีจำเลยทั้งสองเท่านั้นที่อยู่ในที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่มีทางที่จะเป็นผู้อื่น แม้ไม่มีรายละเอียดโดยชัดแจ้งเกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองว่าร่วมยิงอย่างไร ใครเป็นผู้ยิง และผู้ตายถูกยิงที่ส่วนใดของร่างกาย ด้วยอาวุธปืนชนิดใดทั้งไม่มีข้อยืนยันว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันยิงผู้ตายก็เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ที่ประสงค์แต่เพียงให้มีรายละเอียดพอสมควรที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีก็พอแล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากันในชั้นสืบพยาน เมื่ออ่านฟ้องของโจทก์โดยตลอด จำเลยทั้งสองย่อมเข้าใจได้ว่าโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืนยิงและไตร่ตรองไว้ก่อน