คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำร้องคัดค้าน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 45 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2812/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งที่ไม่ชัดเจนข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ทำให้ศาลไม่รับพิจารณา
ปัญหาว่า คำร้องของผู้ร้องชอบด้วยมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การคัดค้านการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดเขตเลือกตั้งหนึ่งมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งฯ ได้จำกัดประเภทของบุคคลผู้มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านไว้ ได้แก่ ผู้เลือกตั้ง ผู้สมัคร และพรรคการเมืองซึ่งมีสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น โดยให้มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลภายในระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ในกรณีที่เห็นว่าการเลือกตั้งหรือการที่บุคคลใดได้รับการเลือกตั้ง เป็นไปโดยมิชอบ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 26,32,34,51 หรือมาตรา 52 ด้วย ซึ่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งฯ มาตรา 26 บัญญัติว่าห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเข้าสมัครรับเลือกตั้งและการฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 84 คำร้องของผู้ร้องมีใจความสำคัญเพียงว่า ในวันยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งผู้คัดค้านที่ 1 ผู้สมัครยังดำรงตำแหน่งกำนันตำบลอิสาณและนายทะเบียนตำบลอิสาณ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 96(7) ที่ว่าเป็นพนักงานของหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ขอให้มีคำสั่งว่าการได้รับการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่เท่านั้น คำร้องมิได้แสดงโดยแจ้งชัดแห่งข้อหาว่า การที่ผู้คัดค้านที่ 1 ได้รับการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ นั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 26 ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 78 อย่างไร กล่าวคือมิได้บรรยายข้อเท็จจริงว่าผู้คัดค้านที่ 1 ได้รู้แล้ว ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเป็นบุคคลต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญฯมาตรา 96(7) แล้วยังเข้าสมัครรับเลือกตั้งอีก ฉะนั้นคำร้องของผู้ร้องซึ่งบรรยายอ้างถึงแต่คุณสมบัติของบุคคลที่ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฯ แต่อย่างเดียว จึงเป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วย มาตรา 78 ไม่มีเหตุที่จะรับไว้เพื่อพิจารณาวินิจฉัย ชอบที่จะมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2081/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง และหลักฐานการกล่าวอ้างเหตุไม่ชอบ
กระทรวงมหาดไทยมิใช่เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง และกรณีไม่ต้องตามบทบัญญัติมาตรา 78 แห่ง พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯ ที่บัญญัติให้ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งได้เฉพาะกรณีตามมาตรา 26,32,34,51, และ 52 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งโดยอ้างเหตุว่ากระทรวงมหาดไทยโดยกรรมการปกครองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย
การกระทำที่อ้างว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ ควรจะได้กล่าวถึงรายละเอียดพอสมควรว่าเกิดขึ้นที่หน่วยเลือกตั้งใด ผู้ใดกระทำ กระทำอย่างไร ผู้ใดเสียหายอันเป็นสารสำคัญ เพื่อจะได้ให้ผู้คัดค้านเข้าใจข้อหาได้ดี เมื่อไม่ได้กล่าวไว้จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งที่เคลือบคลุม ขาดรายละเอียดข้อหาและพยานหลักฐาน ศาลฎีกายกคำร้อง
คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสมาผู้แทนราษฎรบรรยายว่า ในการตรวจนับคะแนน ถ้าบัตรนั้นเป็นคะแนนของผู้ร้อง กรรมการก็จงใจตัดสินให้เป็นบัตรเสีย แต่ถ้าบัตรนั้นเป็นคะแนนของผู้ได้รับเลือกตั้ง ถึงแม้จะเป็นบัตรเสีย กรรมการจงใจนับให้เป็นบัตรดี ซึ่งบัตรเสียบัตรดีเหล่านี้มีจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 บัตร มิได้กล่าวว่าบัตรเสียนั้นมีลักษณะอย่างไร เสียอย่างไร กรรมการนับบัตรเสียเป็นบัตรดีจำนวนเท่าไร นับบัตรดีเป็นบัตรเสียจำนวนเท่าไร และที่ว่าเพิ่มคะแนนเลือกตั้ง ใช้สิทธิลงคะแนนแทนผู้อื่น จงใจนับคะแนนให้ผิดพลาดจากความเป็นจริง ก็ไม่ได้กล่าวให้ชัดแจ้งว่าเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง กรรมการตรวจคะแนน และเสมียนคะแนน ผู้ควบคุมหน่วยเลือกตั้งหน่วยใดเพิ่มคะแนนเลือกตั้งให้ผู้สมัครคนใด จำนวนใด ใช้สิทธิลงคะแนนแทนผู้อื่นนั้นเป็นใครบ้างและที่ว่าจงใจนับคะแนนให้ผิดจากความจริง ผิดไปเป็นจำนวนเท่าใด จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งให้เงินแก่ผู้เลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ละคะแนนให้แก่ตนเอง มิได้กล่าวว่าให้เงินแก่ผู้ใด ในหน่วยเลือกตั้งใดบ้าง และที่ว่าผู้ได้รับเลือกตั้งจัดพาหนะ คือรถยนต์ให้แก่ผู้เลือกตั้งโดยไม่เสียค่าพาหนะนั้น ไม่ทราบว่ายานพาหนะจำนวนมากน้อยเพียงใด ผู้เลือกตั้งที่รับไปลงคะแนนมีจำนวนมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงของการเลือกตั้งหรือไม่ จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องบรรยาว่าผู้ได้รับเลือกตั้งได้ให้คำมั่นสัญญาแก่บรรดาเจ้าของรถยนต์โดยสารร่วมของบริษัทขนส่งจำกัด สาย 15 ซึ่งวิ่งรับส่งคนโดยสารระหว่างจังหวัดอ่างทองกับกรุงเทพมหานครว่า จะติดต่อวิ่งเต้นกับทางราชการไม่ให้รถยนต์โดยสารของบริษัทขนส่งจำกัด สาย 99 ซึ่งวิ่งรับส่งคนโดยสารระหว่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยากับกรุงเทพมหานครวิ่งรับคนโดยสารที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกต่อไป เพราะจะทำให้รถยนต์โดยสารสาย 15 ขาดผลประโยชน์ เพื่อจูงใจให้เจ้าของรถยนต์โดยสารเหล่านั้นลงคะแนนเลือกตั้งให้นั้นตามคำร้องมิได้กล่าวจูงใจใครบ้างที่ว่าเป็นเจ้าของรถยนต์โดยสาร จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่าผู้ได้รับเลือกตั้งต่อเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ในเขตอำเภอป่าโมก อำเภอโพธิ์ทอง ที่มีหน่วยเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้ง ตามคำร้องของผู้ร้องไม่ทราบว่าจะให้เงินแก่วัดใด จำนวนเท่าใด และเพียงแต่รับว่าจะให้เงินแก่วัดเหล่านั้น ไม่ทราบว่าวัดไหน หรือคณะกรรมการวัดไหนตกลงจะช่วยเหลือบ้าง หรือมีการช่วยเหลือกันอย่างไรบ้าง จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งต้องแสดงข้อเท็จจริงชัดเจนและครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มิฉะนั้นศาลจะยกคำร้อง
การพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น มาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2511 ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ฉะนั้น คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งจึงต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ด้วย
คำร้องบรรยายว่าได้มีการให้และรับว่าจะให้ทรัพย์สินของผลประโยชน์แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหลายท้องที่ เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่ผู้ได้รับเลือกตั้ง จัดยานพาหนะให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปกลับยังหน่วยเลือกตั้งโดยไม่เสียค่าโดยสารหรือค่าจ้าง และทำการโฆษณาภายในเขตปริมณฑลเลือกตั้ง โดยมิได้กล่าวให้ชัดแจ้งว่าทรัพย์สินและผลประโยชน์นั้นคืออะไร ได้ให้หรือรับว่าจะให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนประมาณเท่าใด ในหน่วยเลือกตั้งใด การจัดยานพาหนะให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและการโฆษณาภายในเขตปริมณฑลเลือกตั้งได้ กระทำที่หน่วยเลือกตั้งใด เป็นเหตุให้ผลการลงคะแนนเปลี่ยนแปลงเพียงใดหรือไม่จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่ามีการใช้บัตรประจำตัวประชาชนและบัตรลงคะแนนปลอมใช้ใบแทนบัตรประจำตัวของผู้อื่น อ่านหมายเลขบัตรผิด นับจำนวนบัตรไม่ครบและไม่ตรงกับหมายเลขบัตร โดยมิได้บรรยายในคำร้องให้ชัดเจนว่าได้กระทำที่หน่วยเลือกตั้งใดเป็นจำนวนประมาณเท่าใด จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่าเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งแนะนำและจูงใจผู้ลงคะแนนให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ตนสนับสนุน โดยมิได้บรรยายว่าเป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งใด และแนะนำจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลขอะไรจำนวนประมาณเท่าใด เป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่า นายอำเภอได้แต่งตั้งผู้ไม่มีตัวตนเป็นกรรมการตรวจคะแนนประจำหน่วย โดยมิได้บรรยายว่าเป็นหน่วยตั้งใด และผู้ที่อ้างว่าไม่มีตัวตนนั้นเป็นเหตุให้กรรมการตรวจคะแนนมีจำนวนไม่ครบห้าคนดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสมาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2511 หรือไม่ จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่าเจ้าหน้าที่ในการเลือกตั้งจัดให้บุคคลอื่นลงคะแนนเลือกตั้งแทนผู้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ร่วมมือกันเจ้าหน้าที่เก็บบัตรสำคัญที่ใช้เป็นหลักฐานในการลงคะแนนโดยนำมากรอกในแบบพิพม์ ทั้ง ๆ ที่ผู้มีสิทธิลงคะแนนมิได้ลงคะแนน ลงบัตรดังกล่าวโดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งมิได้มาลงคะแนน มิได้ลงรายละเอียดของบัตรสำคัญของผู้ลงคะแนน เป็นการผิดระเบียบและไม่สุจริต คณะกรรมการตรวจคะแนนอ่านและนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริง โดยอ่านคะแนนของผู้ร้องให้ผิดความจริง คะแนนที่คณะกรรมการตรวจคะแนนประกาศในหน่วยเลือกตั้งหลายหน่วยไม่ตรงกับจำนวนบัตรในหีบเลือกตั้ง และจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่คณะกรรมการตรวจคะแนนบันทึกไว้ ไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งในหีบบัตรเลือกตั้ง โดยมิได้บรรยายข้อเท็จจริงให้แจ้งชัดว่าการกระทำดังกล่าวได้กระทำที่หน่วยเลือกตั้งใด และการกระทำที่อ้างว่ามิชอบนั้นเป็นเหตุให้คะแนนของผู้สิทธิรับเลือกตั้งผู้ใดผิดพลาดอย่างใด จำนวนประมาณเท่าใด และถึงแก่จะเป็นเหตุให้คะแนนของผู้รองเพิ่มมากน้อยขึ้นเพียงใด จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 25-27/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์และการวางเงินประกันความเสียหายจากการยื่นคำร้องคัดค้านการบังคับคดี
เมื่อผู้ร้องได้ยื่นคำร้องว่าทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้มิใช่ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษา และขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 288 วรรคแรก เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องงดการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินที่พิพาทนั้นไว้ระหว่างรอคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาล แม้ต่อมาศาลจะสั่งจำหน่ายคดีของผู้ร้องตามมาตรา 288(1) แต่ผู้ร้องก็ยังคงอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นอยู่ โจทก์จึงขอให้ขายทรัพย์พิพาทไม่ได้
เมื่อโจทก์เห็นว่าผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์สินที่พิพาทเข้ามานั้นไม่มีมูลและยื่นเข้ามาเพื่อประวิงคดีให้ชักช้า โจทก์ก็ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ผู้ร้องวางเงินเพื่อเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา สำหรับความเสียหายที่อาจได้รับนั้นได้และเมื่อศาลพิจารณาเป็นเช่นนั้น ศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้ผู้ร้องว่างเงินต่อศาลภายในเวลาที่ศาลกำหนดได้ตามที่เห็นสมควร เพื่อเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทน ฯลฯ ตามมาตรา 288 (1) (อ้างฎีกาที่ 1293/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งต้องแสดงข้อกล่าวหาที่ชัดเจนและครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2511 ได้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง บัญญัติว่า "คำฟ้องต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น " มาตรา 1(3) ได้บัญญัติคำว่า "คำฟ้อง" ให้หมายถึงกระบวนพิจารณาใด ๆ ที่โจทก์ได้เสนอข้อหาต่อศาล ฯลฯ ไม่ว่าจะได้เสนอในขณะเริ่มคดีโดยคำฟ้องหรือคำร้องขอ ฯลฯ ดังนี้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งจึงต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ด้วย
คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งกล่าวอ้างแต่ว่า คณะกรรมการตรวจคะแนนหลายหน่วยเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยไม่กล่าวให้แจ้งชัดว่าคณะกรรมการฯ หน่วยใดบ้างที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ - อ้างว่าคณะกรรมการฯ นับบัตรดีของหมายเลข 10 เป็นบัตรเสีย นับบัตรเสียของหมายเลขอื่นเป็นบัตรดี โดยไม่แสดงโดยแจ้งชัดว่าเป็นบัตรเสียเพราะเหตุใด - กล่าวอ้างว่ามีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยและบุคคลอื่น ๆ ได้กระทำการเพื่อประโยชน์แห่งการรับเลือกตั้งโดยประการที่เป็นคุณแก่ ข. ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 2 ด้วยการช่วยเหลือในด้านการเงินและทรัพย์สินอื่น ๆ โดยมิได้กล่าวให้ชัดเจนว่าบุคคลนั้น ๆ คือใคร ช่วยเหลือในด้านการเงินทรัพย์สินอื่น โดยกระทำอย่างใดอันจะถือได้ว่าเป็นการกระทำที่เป็นคุณ - กล่าวอ้างว่า ช. ผู้สมัครหมายเลข 2 และตัวแทนได้ให้เงินและทรัพย์สินและสัญญาว่าจะให้เงินแก่ผู้เลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตน และไม่ให้ลงคะแนนแก่ ล.กับผู้สมัครฯ หมายเลขอื่น โดยมิได้กล่าวให้แจ้งชัดว่าผู้เลือกตั้งที่ได้เงินและทรัพย์สินกับที่ได้รับสัญญาว่าจะรับเงินนั้นมีจำนวนเท่าใด เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งใด ซึ่งถ้ามีจำนวนน้อยก็ไม่เป็นเหตุที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ - อ้างว่า ช.จัดยานพาหนะนำผู้เลือกตั้งไปกลับจากที่เลือกตั้งโดยไม่ต้องเสียค่าพาหนะโดยไม่กล่าวให้ชัดแจ้งว่าเป็นหน่วยเลือกตั้งใด และเป็นเหตุให้การลงคะแนนเปลี่ยนแปลงไปอย่างใด - กล่าวอ้างว่าคณะกรรมการตรวจคะแนนบางหน่วยนับคะแนนโดยมิชอบ คือไม่ยอมอ่านบัตรที่มีผู้กาเครื่องหมายหมายเลข 10 และหมายเลขอื่น ทำให้คะแนนของ ล.หมายเลข 10 และหมายเลขอื่นน้อยกว่าความเป็นจริง โดยไม่ระบุให้แจ้งชัดว่าเป็นคณะกรรมการฯ หน่วยใด ไม่อ่านบัตรที่กาเครื่องหมายหมายเลข 10 เป็นจำนวนประมาณเท่าใด หมายเลขอื่น ๆ คือหมายเลขใด มีจำนวนประมาณเท่าใด และการไม่อ่านเช่นนี้เป็นเหตุให้คะแนนของ ล. และหมายเลขอื่นน้อยกว่าความเป็นจริงประมาณเท่าใด ซึ่งถ้าน้อยกว่าความเป็นจริงเพียงเล็กน้อยก็จะไม่เป็นเหตุที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ - และกล่าวอ้างว่า กรรมการตรวจคะแนนบางคนมิได้ไปปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้ต้องตั้งบุคคลอื่นแทน การตั้งแทนก็กระทำโดยมิชอบ โดยมิได้กล่าวให้แจ้งชัดว่ากรรมการที่มิได้มานั้นคือใคร หรือประจำหน่วยใด การตั้งบุคคลอื่นแทนนั้นฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรา 40 แต่อย่างใด เหล่านี้ ย่อมถือว่าไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
ผู้ร้องได้ขอแก้ไขคำร้องให้แจ้งชัดขึ้นหลังจากที่ผู้คัดค้านได้คัดค้านไว้แล้วว่าคำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม ยิ่งกว่านั้นผู้คัดค้านก็ได้ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อนี้ไว้ก่อนแล้ว ย่อมไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้ผู้ร้องแก้ไขคำร้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งต้องชัดเจนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 หากไม่ชัดเจนศาลไม่รับพิจารณา
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2511 ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสองบัญญัติว่า "คำฟ้องต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น" มาตรา 1(3) ได้บัญญัติคำว่า "คำฟ้อง"ให้หมายถึงกระบวนพิจารณาใดๆ ที่โจทก์ได้เสนอข้อหาต่อศาลฯลฯ ไม่ว่าจะได้เสนอในขณะเริ่มคดีโดยคำฟ้องหรือคำร้องขอ ฯลฯ ดังนี้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งจึงต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ด้วย
คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งกล่าวอ้างแต่ว่า คณะกรรมการตรวจคะแนนหลายหน่วยเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยไม่กล่าวให้แจ้งชัดว่าคณะกรรมการฯหน่วยใดบ้างที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อ้างว่าคณะกรรมการฯนับบัตรดีของหมายเลข 10 เป็นบัตรเสีย นับบัตรเสียของหมายเลขอื่นเป็นบัตรดี โดยไม่แสดงโดยแจ้งชัดว่าเป็นบัตรเสียเพราะเหตุใด กล่าวอ้างว่ามีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยและบุคคลอื่นๆ ได้กระทำการเพื่อประโยชน์แห่งการรับเลือกตั้งโดยประการที่เป็นคุณแก่ ช.ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 2 ด้วยการช่วยเหลือในด้านการเงินและทรัพย์สินอื่นๆ โดยมิได้กล่าวให้ชัดเจนว่าบุคคลนั้นๆ คือใคร ช่วยเหลือในด้านการเงินและทรัพย์สินอื่น โดยกระทำอย่างใดอันจะถือได้ว่าเป็นการกระทำที่เป็นคุณ กล่าวอ้างว่าช.ผู้สมัครหมายเลข2และตัวแทนได้ให้เงินและทรพัย์สินและสัญญาว่าจะให้เงินแก่ผู้เลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตน และไม่ให้ลงคะแนนแก่ล.กับผู้สมัครฯ หมายเลขอื่นโดยมิได้กล่าวให้แจ้งชัดว่าผู้เลือกตั้งที่ได้เงินและทรัพย์สินกับที่ได้รับสัญญาว่าจะรับเงินนั้นมีจำนวนเท่าใด เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งใด ซึ่งถ้ามีจำนวนน้อยก็ไม่เป็นเหตุที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ อ้างว่า ช.จัดยานพาหนะนำผู้เลือกตั้งไปกลับจากที่เลือกตั้งโดยไม่ต้องเสียค่าพาหนะ โดยไม่กล่าวให้ชัดแจ้งว่าเป็นหน่วยเลือกตั้งใด และเป็นเหตุให้การลงคะแนนเปลี่ยนแปลงไปอย่างใด กล่าวอ้างว่าคณะกรรมการตรวจคะแนนบางหน่วยนับคะแนนโดยมิชอบ คือไม่ยอมอ่านบัตรที่มีผู้กาเครื่องหมายหมายเลข 10 และหมายเลขอื่น ทำให้คะแนนของ ล.หมายเลข 10 และหมายเลขอื่นน้อยกว่าความเป็นจริง โดยไม่ระบุให้แจ้งชัดว่าเป็นคณะกรรมการฯหน่วยใด ไม่อ่านบัตรที่กาเครื่องหมายหมายเลข10 เป็นจำนวนประมาณเท่าใด หมายเลขอื่น ๆ คือหมายเลขใดมีจำนวนประมาณเท่าใด และการไม่อ่านเช่นนี้เป็นเหตุให้คะแนนของ ล. และหมายเลขอื่นน้อยกว่าความเป็นจริงประมาณเท่าใด ซึ่งถ้าน้อยกว่าความเป็นจริงเพียงเล็กน้อยก็จะไม่ เป็นเหตุที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ และกล่าวอ้างว่ากรรมการตรวจคะแนนบางคนมิได้ไปปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้ต้องตั้งบุคคลอื่นแทน การตั้งแทนก็กระทำโดยมิชอบ โดยมิได้กล่าวให้แจ้งชัดว่ากรรมการที่มิได้มานั้นคือใคร หรือประจำหน่วยใด การตั้งบุคคลอื่นแทนนั้นฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรา 40 อย่างใด เหล่านี้ ย่อมถือว่าไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
ผู้ร้องได้ขอแก้ไขคำร้องให้แจ้งชัดขึ้นหลังจากที่ผู้คัดค้านได้คัดค้านไว้แล้วว่าคำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม ยิ่งกว่านั้นผู้คัดค้านก็ได้ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อนี้ไว้ก่อนแล้ว ย่อมไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้ผู้ร้องแก้ไขคำร้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับคำร้องคัดค้านในคดีจัดการมรดก แม้ยื่นหลังประกาศ แต่ก่อนไต่สวน ศาลชอบที่จะรับได้ และการย้อนกลับคำสั่งไม่ชอบ
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดก ศาลประกาศกำหนดวันและเวลานัดไต่สวนคำร้องขอและว่าผู้ใดจะคัดค้านคำร้องขอนี้ให้ยื่นคำร้องต่อศาลก่อนกำหนดนี้ดังนี้ เมื่อผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านในวันนัดไต่สวน ก่อนศาลเริ่มต้นไต่สวนคำร้องขอ ศาลอาจรับคำร้องคัดค้านไว้พิจารณาได้
ศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องคัดค้านและได้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปบ้างแล้ว จะกลับมาสั่งไม่รับคำร้องคัดค้านในภายหลังย่อมเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับคำร้องคัดค้านในคดีจัดการมรดก แม้ยื่นหลังประกาศ แต่ก่อนเริ่มไต่สวน ศาลย่อมชอบที่จะรับไว้พิจารณา
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดก ศาลประกาศกำหนดวันและเวลานัดไต่สวนคำร้องขอและว่าผู้ใดจะคัดค้านคำร้องขอนี้ให้ยื่นคำร้องต่อศาลก่อนกำหนดนี้ดังนี้ เมื่อผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านในวันนัดไต่สวน ก่อนศาลเริ่มต้นไต่สวนคำร้องขอ ศาลอาจรับคำร้องคัดค้านไว้พิจารณาได้
ศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องคัดค้านและได้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปบ้างแล้ว จะกลับมาสั่งไม่รับคำร้องคัดค้านในภายหลัง ย่อมเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับคำร้องคัดค้านการจัดการมรดกที่ยื่นหลังนัดไต่สวน: ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจ
การที่ผู้ร้องคัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านในกรณีขอเป็นผู้จัดการมรดก ภายหลังจากศาลได้เริ่มสืบพยานผู้ร้องไปแล้วนั้น ย่อมอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะเห็นสมควรรับคำร้องคัดค้านหรือไม่
of 5