คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้กระทำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 26/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน - การพิสูจน์ตัวผู้กระทำและความร่วมมือ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลย 2 ฝ่ายต่างทำร้ายร่างกายซึ่งกันแลกัน ไม่ปรากฏว่าใครทำร้ายใครและไม่ได้กล่าวว่าจำเลยหลายคนฝ่ายหนึ่งสมคบกันเข้าทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งดังนี้ถ้าปรากฏว่าทำร้ายกันไม่ถึงสาหัสหรือถึงตายแล้ว แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้ อ้างฎีกาที่ 984,985/2484

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 29/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน: การพิสูจน์การกระทำของผู้กระทำ
กรณีที่เกิดการทำร้ายกันในระหว่าง 2 คน และโจทก์ฟ้องว่าต่างฝ่ายต่างทำร้ายซึ่งกันและกันนั้นต้องวินิจฉัยว่าคนหนึ่งทำร้ายอีกคนหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างทำร้ายกันซึ่งศาลลงโทษฐานทำร้ายร่างกายได้ อ้าง ฎีกาที่ 1057/2482

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 496/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมวิวาททำให้ถึงแก่ความตาย ความรับผิดทางอาญาของผู้กระทำ
ในการวิวาทมีคนตายเมื่อปรากฏว่าจำเลยคนใดทำร้ายเขาถึงตายจำเลยคนนั้นมีผิดตาม ม.251 วิธีพิจารณาอาญา พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์แก้มาก ศาลเดิมวางบท 253 จำคุก 8 เดือนปรับ 50 บาท ศาลอุทธรณ์แก้วางบท 251 จำคุก 3 ปี จำเลยฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1011/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานชิงทรัพย์ทำให้เจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตาย: ความรับผิดแตกต่างกันของผู้กระทำ
สองคนไปลักไก่ คนหนึ่งแทงเจ้าทรัพย์ตาย คนแทงคนเดียวมีผิดตาม ม.250 อีกคนหนึ่งมีผิดตาม ม.300 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2471

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำชิงทรัพย์ มีความผิดฐานชิงทรัพย์เช่นเดียวกับผู้กระทำ
ใช้ให้ไปลักทรัพย์ผู้รับใช้ไปกระทำการชิงทรัพย์ ผู้ใช้มีผิดฐานชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12675/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความความผิดยักยอก การร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนนับแต่วันรู้ความผิดและตัวผู้กระทำ
ความผิดฐานยักยอกตาม ป.อ. มาตรา 352 เป็นความผิดอันยอมความได้ โจทก์ร่วมต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด มิฉะนั้น คดีเป็นอันขาดอายุความ ตาม ป.อ. มาตรา 96 คดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏตามคำเบิกความของโจทก์ร่วมเองว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2555 จำเลยยอมรับกับโจทก์ร่วมว่าได้ยักยอกเงินค่าจำหน่ายสินค้าของโจทก์ร่วมไปจริง ดังนี้ จึงเท่ากับโจทก์ร่วมได้รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดตั้งแต่วันดังกล่าวแล้ว การที่โจทก์ร่วมให้จำเลยนำเงินมาชดใช้คืนและจะตรวจสอบบัญชีเพื่อทราบยอดเงินที่สูญหายไปให้ชัดแจ้งอีกครั้งดังที่อ้าง เป็นเรื่องที่โจทก์ร่วมยอมผ่อนผันหรือให้โอกาสแก่จำเลยในฐานะที่เคยเป็นลูกจ้างของตนเท่านั้น ไม่ทำให้สิทธิในการร้องทุกข์ของโจทก์ร่วมขยายออกไป ดังนั้นเมื่อโจทก์ร่วมเพิ่งไปร้องทุกข์เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2555 จึงพ้นกำหนด 3 เดือน นับแต่วันที่โจทก์ร่วมรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดแล้ว คดีของโจทก์และโจทก์ร่วมในความผิดฐานยักยอกจึงขาดอายุความตาม ป.อ. มาตรา 96 สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์และโจทก์ร่วมย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (6) พนักงานอัยการโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกทรัพย์สินหรือราคาแทนโจทก์ร่วมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความในคดีละเมิดเริ่มต้นเมื่อผู้เสียหายทราบถึงการกระทำละเมิดและตัวผู้กระทำ
โจทก์ทราบเรื่องสหกรณ์ออมทรัพย์จำเลยมีมติให้โจทก์ออกจากการเป็นสมาชิกของจำเลยตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2541 แสดงว่าโจทก์ได้รู้ตัวผู้จะพึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันดังกล่าวมิใช่ถือเอาวันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากจำเลยเป็นวันที่โจทก์รู้ตัวผู้จะพึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เนื่องจากโจทก์เป็นผู้เสียหายที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาลได้เอง โดยไม่จำต้องรอฟังคำสั่งจากจำเลย แม้โจทก์จะเพิ่งได้รับหนังสือแจ้งให้ทราบถึงมติของจำเลยในวันที่ 21 มกราคม 2541 ก็ไม่มีผลต่อการเพิ่งเริ่มนับอายุความ เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องเกินกว่าหนึ่งปีนับแต่รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่ง
of 4