คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เอกสารเท็จ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 50 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารเท็จในการต่อสู้คดีแพ่ง ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 หากไม่มีผลต่อการตัดสิน
แต่เดิมจำเลยได้ทำสัญญาว่าจ้างโจทก์เป็นทนายฟ้องเรียกมรดกต่อมาจำเลยได้ทำสัญญายอมกับอีกฝ่ายหนึ่ง แล้วจ่ายค่าจ้างว่าความไม่ครบตามสัญญา โจทก์จึงฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าจ้างว่าความ จำเลยได้นำเอกสารใบมอบอำนาจซึ่งจำเลยมอบอำนาจให้บุคคลอื่นเป็นตัวแทนในการว่าจ้างว่าความ หากไม่ได้รับความยินยอมจากตัวแทนก็ไม่ผูกมัดจำเลยแสดงต่อศาล ศาลพิพากษาว่าทรัพย์มรดกที่ฟ้องเรียกนั้นมีราคาเพียง 1 ล้าน โจทก์ได้ปฏิบัติงานไม่ครบถ้วนตามสัญญา จำเลยได้รับมรดกเพียงสองแสนบาท ได้จ่ายค่าจ้างทนายเป็นเงิน 27,000 บาท พอสมควรแก่การปฏิบัติงานแล้ว โจทก์จึงฟ้องเป็นคดีอาญาในคดีนี้ว่าจำเลยแสดงพยานหลักฐานเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180ศาลฎีกาเห็นว่าใบมอบอำนาจนั้นยังถือไม่ได้ว่าเป็นพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดี การกระทำของจำเลยจึงยังไม่เป็นความผิดดังโจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409-410/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานออกเอกสารเท็จเพื่อเอื้อประโยชน์ผู้อื่น ไม่ถือว่าทุจริต แต่เป็นความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งครูใหญ่ มีหน้าที่ออกใบสุทธิให้แก่นักเรียนที่ออกไปจากโรงเรียนตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้ แม้แบบพิมพ์ใบสุทธิจะอยู่ในความดูแลของจำเลยที่ 1 ก็ตาม ก็เพียงเพื่อออกเป็นใบสุทธิให้แก่นักเรียนซึ่งจำเลยที่ 1 มีอำนาจหน้าที่ออกตามระเบียบ ถ้านำไปใช้ในทางที่ไม่ตรงต่อความจริง และผิดระเบียบ ก็เป็นเรื่องผิดหน้าที่ในการใช้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ในการรักษาตามความมุ่งหมายของมาตรา 151 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 157 ตอนแรก กับมาตรา 162 ไม่มีบทบัญญัติว่าจะต้องเป็นการกระทำโดยทุจริต ฉะนั้น เมื่อฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานออกใบสุทธิโดยจดเปลี่ยนแปลงข้อความไม่ตรงต่อความจริงและผิดระเบียบเพื่อให้พลทหารเอก พลทหารเบ็ญนำไปแสดงต่อผู้บังคับบัญชาในการขอบำเหน็จความชอบนั้น ก็ได้ชื่อว่าจำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายโดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่ราชการทหารในตัว ครบองค์ความผิดตามมาตรา 157 ตอนแรก และมาตรา 162(3) เป็นความผิดตามบทกฎหมายสองมาตราดังกล่าว และให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนัก
สำหรับจำเลยที่ 2 (เป็นครูน้อย โจทก์ฟ้องว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดดังกล่าว) ศาลลงโทษจำเลยที่ 2 เพียงผู้สนับสนุน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น(จำคุกไม่เกิน 5 ปี ) นั้น การที่ศาลจะรอการลงโทษจำเลยหรือไม่เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับดุลพินิจ โจทก์ฎีกาโต้แย้งข้อนี้ไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218.
(ปัญหาที่ 2 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 19-20/2508).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409-410/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานออกเอกสารเท็จและปฏิบัติหน้าที่มิชอบเพื่อเอื้อประโยชน์ผู้อื่น
จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งครูใหญ่ มีหน้าที่ออกใบสุทธิให้แก่นักเรียนที่ออกไปจากโรงเรียนตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้ แม้แบบพิมพ์ใบสุทธิจะอยู่ในความดูแลของจำเลยที่ 1 ก็ตาม ก็เพียงเพื่อออกเป็นใบสุทธิให้แก่นักเรียนซึ่งจำเลยที่ 1 มีอำนาจหน้าที่ออกตามระเบียบ ก็เป็นเรื่องผิดหน้าที่ในการใช้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ในการรักษาตามความมุ่งหมายของมาตรา 151 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ตอนแรก กับมาตรา 162 ไม่มีบทบัญญัติว่าจะต้องเป็นการกระทำโดยทุจริต ฉะนั้น เมื่อฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานออกใบสุทธิโดยจดเปลี่ยนแปลงข้อความไม่ตรงต่อความจริงและผิดระเบียบเพื่อให้พลทหารเอกพลทหารเบ็ญนำไปแสดงต่อผู้บังคับบัญชาในการขอบำเหน็จความชอบนั้นก็ได้ชื่อว่าจำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายโดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่ราชการทหารในตัวครบองค์ความผิดตามมาตรา 157 ตอนแรก และมาตรา 162(3) เป็นความผิดตามบทกฎหมายสองมาตราดังกล่าว และให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนัก
สำหรับจำเลยที่ 2(เป็นครูน้อย โจทก์ฟ้องว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดดังกล่าว) ศาลลงโทษจำเลยที่ 2 เพียงผู้สนับสนุน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น (จำคุกไม่เกิน 5 ปี) นั้นการที่ศาลจะรอการลงโทษจำเลยหรือไม่เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับดุลพินิจโจทก์ฎีกาโต้แย้งข้อนี้ไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
(ปัญหาที่ 2 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่19-20/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1060/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ลายมือชื่อผู้อื่นสร้างเอกสารเท็จเพื่อใช้ในคดีแพ่ง มีความผิดทั้งฐานฉ้อโกงและเป็นเจ้าพนักงานจงใจทำด้วยประการใดให้การเท็จ
การที่ได้รับมอบลายมือชื่อของเขาไปเพื่อขอรถตู้ แต่กลับเอาไปเขียนข้อความว่าได้แบ่งปันผลกำไรการค้ากันแล้วนำเอาเอกสารพยานเท็จนั้นมาอ้างในคดีเช่นนี้นอกจากเป็นความผิดตาม ม.315 แล้วยังต้องมีความผิดตาม ม.157 อีกด้วย
พฤติการณ์ที่จำเลยเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์ ๆ ยอมปรองดองไม่ติดใจเอาความแก่จำเลย ๆ ไม่เคยต้องโทษมาก่อนดังนี้ควรรอการลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1060/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารเท็จ (ลายมือชื่อ) ในคดีแพ่ง ความผิดตาม ม.157 และการรอการลงโทษ
การที่ได้รับมอบลายมือชื่อของเขาไปเพื่อขอรถตู้แต่กลับเอาไปเขียนข้อความว่าได้แบ่งปันผลกำไรการค้ากันแล้วนำเอาเอกสารพยานเท็จนั้นมาอ้างในคดีเช่นนี้ นอกจากเป็นความผิดตาม มาตรา 315 แล้วยังต้องมีความผิดตาม มาตรา 157 อีกด้วย
พฤติการณ์ที่จำเลยเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์ๆ ยอมปรองดองไม่ติดใจเอาความแก่จำเลยๆ ไม่เคยต้องโทษมาก่อนดังนี้ควรรอการลงโทษจำเลยได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปลัดอำเภอออกเอกสารเท็จให้คนต่างด้าว ย่อมมีความผิดทางอาญา
ปลัดอำเภอทำหนังสือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวในหน้าที่ราชการของตน ให้แก่คนต่างด้าวผู้ไม่มีสิทธิจะอยู่ในเมืองไทยได้ โดยจดข้อความเท็จลงในใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวนั้นเพื่อให้เห็นว่า มีสิทธิอยู่ในเมืองไทยได้ ดังนี้ปลัดอำเภอผู้นั้นย่อมมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 230 แต่ไม่ผิดตามมาตรา 222,224,229

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงชื่อในเอกสารเท็จ แม้ไม่ได้จดข้อความเองก็ถือเป็นความผิด
เพียงแต่ให้ผู้อื่นจดข้อความเท็จลงไปแล้วจำเลยลงลายมือชื่อของตนไว้ในหนังสือนั้นก็ต้องเป็นผิดตามมาตรา 230 ได้ อ้างฎีกาที่ 533/539/2481, จำเลยจดข้อความเท็จลงในบันทึกแจ้งความรับสินบนนำจับยื่นว่าจำเลยเองเป็นผู้นำจับฝิ่นได้ขอรับค่าสินบนแล้วนำไปยื่นต่อเจ้าพนักงานดังนี้ ยังไม่มีผิดฐานปลอมหนังสือ
อ้างฎีกาที่ 1269/2481 ,347/2472

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำเอกสารเท็จเพื่อเบิกจ่ายเงิน แต่มีเจตนาอื่นที่ไม่ใช่การหลอกลวงเจ้าหน้าที่
อย่างไรเรียกว่าปลอมหนังสือ เทียบฎีกาที่770/72 ทำใบสำคัญว่าจ้างคนหาบหาม แต่ความจริงเอาไปให้ค่าจ้างคนสืบสวนสุราเถื่อน และลงชื่อเอาเองโดยเขาอนุญาต ไม่ผิดฐานปลอมหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2471

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมแปลงเอกสารเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาล มีความผิดตามกฎหมายอาญา
เหตุรอการลงอาญาปลอมหนังสือสัญญาให้เงินสินบนมีผิดตามบทนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8716/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่มีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับการเบิกจ่ายเงินจ้างงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ลงลายมือชื่อในเอกสาร
วันที่ 19 สิงหาคม 2552 องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวบานเพิ่งมีคำสั่งให้จำเลยที่ 5 ไปช่วยราชการที่องค์การบริหารส่วนตำบลหมากหญ้า ในการนี้วันที่ 21 สิงหาคม 2552 องค์การบริหารส่วนตำบลหมากหญ้ามีคำสั่งแต่งตั้งให้จำเลยที่ 5 ปฏิบัติหน้าที่จัดทำร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 โดยนัยของคำสั่งดังกล่าว จำเลยที่ 5 มีหน้าที่ปฏิบัติเฉพาะงานตามที่ระบุไว้ในคำสั่งเท่านั้น จำเลยที่ 5 จึงไม่มีหน้าที่ในการควบคุมโครงการจ้างแรงงานเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพแก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ จังหวัดอุดรธานี ปีงบประมาณ 2552 แต่อย่างใด หากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหมากหญ้าต้องการแต่งตั้งจำเลยที่ 5 ให้เป็นผู้ควบคุมโครงการดังกล่าว จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลหมากหญ้าต้องขอความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 5 ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2548 ข้อ 32 วรรคหนึ่ง เสียก่อน แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้ขอความเห็นชอบจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวบานซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 5 ดังนั้นคำสั่งขององค์การบริหารส่วนตำบลหมากหญ้าในส่วนแต่งตั้งจำเลยที่ 5 เป็นกรรมการผู้ควบคุมงานจึงเป็นคำสั่งที่ออกโดยไม่ชอบด้วยระเบียบกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว ถือว่าจำเลยที่ 5 ไม่มีหน้าที่เป็นกรรมการผู้ควบคุมงานโครงการตามฟ้อง
of 5