พบผลลัพธ์ทั้งหมด 45 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2345/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม: ศาลฎีกายกฟ้องเมื่อศาลอุทธรณ์เปลี่ยนคำพิพากษาโดยไม่มีอำนาจ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกับพวกปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยปลอมเอกสารและลงโทษฐานนี้ จำเลยอุทธรณ์โจทก์ไม่อุทธรณ์ ข้อหาฐานใช้เอกสารปลอมจึงยุติไปแล้ว ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยความผิดฐานใช้เอกสารปลอมอีก เมื่อศาลอุทธรณ์ว่าฟังไม่ได้ว่าจำเลยปลอมเอกสาร แล้วกลับฟังว่าจำเลยใช้เอกสารปลอม และพิพากษาลงโทษฐานนี้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในส่วนนี้จึงไม่ชอบเมื่อจำเลยฎีกาต่อมา ส่วนโจทก์ไม่ฎีกา ข้อหาฐานปลอมเอกสารจึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องทั้ง 2 ข้อหา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้พินัยกรรมปลอมเพื่อขอรับมรดก แม้จะถอนคำขอไปแล้ว ก็เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายได้ตามกฎหมายอาญา
นำพินัยกรรมปลอมไปแสดงต่อพนักงานที่ดินอำเภอเพื่อขอรับมรดกและอำเภอได้ประกาศการขอรับมรดกแล้ว แม้ต่อมาจะได้ขอถอนคำขอรับมรดกนั้นเสีย การนำพินัยกรรมปลอมไปแสดงเช่นนั้นก็เป็นการกระทำอันเป็นเหตุที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นแล้ว จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักเขตที่ดินของทางราชการไม่ใช่เอกสารปลอม แม้จะนำไปปักในที่ดินที่ไม่ใช่ของตน ไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
ความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลย เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งว่าความผิดของจำเลยเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) แล้ว ศาลฎีกาจึงไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในข้อที่ว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา 341 หรือไม่
เมื่อหลักเขตที่ดินของทางราชการไม่ใช่หลักเขตปลอม ข้อความที่ปรากฏในหลักเขตเช่นตัวเลข จึงเป็นของแท้แม้จำเลยจะเอาหลักเขตซึ่งเป็นหลักเขตที่ดินโฉนดที่ 8993 ของจำเลยไปปักลงในที่ดินโฉนดที่ 8996 ของผู้มีชื่อคนหนึ่งหลักเขตที่มีหมายเลขดังกล่าวก็คงเป็นหลักเขตซึ่งมีตัวเลขที่แท้จริง การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
เมื่อหลักเขตที่ดินของทางราชการไม่ใช่หลักเขตปลอม ข้อความที่ปรากฏในหลักเขตเช่นตัวเลข จึงเป็นของแท้แม้จำเลยจะเอาหลักเขตซึ่งเป็นหลักเขตที่ดินโฉนดที่ 8993 ของจำเลยไปปักลงในที่ดินโฉนดที่ 8996 ของผู้มีชื่อคนหนึ่งหลักเขตที่มีหมายเลขดังกล่าวก็คงเป็นหลักเขตซึ่งมีตัวเลขที่แท้จริง การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สลากปลอมเพื่อขอรับเงินรางวัล แม้ไม่สำเร็จก็ถือเป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
จำเลยนำสลากกินแบ่งซึ่งจำเลยรู้ว่าปลอมไปขอขึ้นเงินกับนายแก้ว นายแก้วสงสัยว่าปลอมจึงไม่รับให้ไปขึ้นเงินกับกองสลากกินแบ่ง นายแก้วได้พาจำเลยไปยื่นคำร้องขอรับเงินที่กองสลากกินแบ่ง เจ้าหน้าที่ตรวจเห็นแล้วว่าเป็นสลากปลอม จึงไม่จ่ายเงินให้จำเลย ถือว่าจำเลยได้นำสลากปลอมไปใช้ต่อนายแก้ว และกองสลากกินแบ่งเพื่อขอรับเงินแล้ว การกระทำของจำเลยจึงบรรลุผลฐานใช้เอกสารปลอมแล้ว ไม่ใช่เป็นผิดเพียงฐานพยายาม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 265 และ 268 มิได้ฟ้องว่าจำเลยได้นำสลากกินแบ่งปลอมซึ่งเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไปใช้ ทั้งมิได้ขอให้ลงโทษตามมาตรา 266 ด้วย และสลากกินแบ่งก็เป็นเพียงเอกสารสิทธิเท่านั้น หาใช่เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไม่ ฉะนั้น ตามที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 266 จึงไม่ถูกต้อง.
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 265 และ 268 มิได้ฟ้องว่าจำเลยได้นำสลากกินแบ่งปลอมซึ่งเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไปใช้ ทั้งมิได้ขอให้ลงโทษตามมาตรา 266 ด้วย และสลากกินแบ่งก็เป็นเพียงเอกสารสิทธิเท่านั้น หาใช่เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไม่ ฉะนั้น ตามที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 266 จึงไม่ถูกต้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สลากปลอมเพื่อขอรับเงินรางวัล แม้ไม่สำเร็จก็เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
จำเลยนำสลากกินแบ่งซึ่งจำเลยรู้ว่าปลอมไปขอขึ้นเงินกับนายแก้ว นายแก้วสงสัยว่าปลอมจึงไม่รับให้ไปขึ้นเงินกับกองสลากกินแบ่งนายแก้วได้พาจำเลยไปยื่นคำร้องขอรับเงินที่กองสลากกินแบ่ง เจ้าหน้าที่ตรวจเห็นแล้วว่าเป็นสลากปลอมจึงไม่จ่ายเงินให้จำเลยถือว่าจำเลยได้นำสลากปลอมไปใช้ต่อนายแก้ว และกองสลากกินแบ่งเพื่อขอรับเงินแล้วการกระทำของจำเลยจึงบรรลุผลฐานใช้เอกสารปลอมแล้ว ไม่ใช่เป็นเพียงฐานพยายาม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264,265และ268 มิได้ฟ้องว่าจำเลยได้นำสลากกินแบ่งปลอมซึ่งเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไปใช้ ทั้งมิได้ขอให้ลงโทษตามมาตรา 266 ด้วย และสลากกินแบ่งก็เป็นเพียงเอกสารสิทธิเท่านั้นหาใช่เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไม่ฉะนั้น ตามที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 266 จึงไม่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264,265และ268 มิได้ฟ้องว่าจำเลยได้นำสลากกินแบ่งปลอมซึ่งเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไปใช้ ทั้งมิได้ขอให้ลงโทษตามมาตรา 266 ด้วย และสลากกินแบ่งก็เป็นเพียงเอกสารสิทธิเท่านั้นหาใช่เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไม่ฉะนั้น ตามที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 266 จึงไม่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือ ส.ค.1 ไม่ใช่เอกสารราชการ การปลอมแปลงเอกสารและการใช้เอกสารปลอม
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยให้แจ้งการครอบครองที่ดินตามแบบส.ค.1 ต่อนายอำเภอท้องที่โดยมีกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านรับรองว่าข้อความถูกต้องและเป็นความจริงนั้นเป็นประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการ ไม่ใช่เป็นข้อกำหนดหน้าที่ของกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านการเซ็นชื่อรับรองดังกล่าวเป็นแต่เพียงพยานเท่านั้น ไม่ใช่รับรองว่าหนังสือนั้นเป็นเสมือนหนังสือราชการ ดังนั้น หนังสือ ส.ค.1 นี้จึงไม่ใช่เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ
ถ้าหากข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้ปลอมแบบ ส.ค.1 และได้ใช้ด้วยแล้วต้องลงโทษตามมาตรา 268 วรรคสอง กระทงเดียว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2508 เฉพาะปัญหาแรก)
ถ้าหากข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้ปลอมแบบ ส.ค.1 และได้ใช้ด้วยแล้วต้องลงโทษตามมาตรา 268 วรรคสอง กระทงเดียว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2508 เฉพาะปัญหาแรก)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1343/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทำบัญชีเท็จเอง ไม่ถือเป็นปลอมแปลงเอกสารผู้อื่น จึงไม่ผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม
จำเลยร่วมกันทำบัญชีเท็จขึ้นโดยไม่ลงรายการรับชำระหนี้ที่นายน้อยได้ชำระหนี้แก่บริษัทจำเลย การกระทำดังกล่าวเป็นแต่ทำเอกสารด้วยข้อความเท็จ บัญชีเหล่านั้นเป็นบัญชีของจำเลยทำขึ้นเองทั้งฉบับ มิได้ปลอมเอกสารอันแท้จริงของผู้ใด จึงไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร และการที่จำเลยใช้เอกสารนั้นย่อมไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264,268
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีปลอมแปลงเอกสารราชการและการใช้เอกสารปลอม โดยศาลมีดุลยพินิจในการอนุญาต
ศาลชั้นต้นลงโทษตามมาตรา 225-227 จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์แก้บทให้ลงโทษตามมาตรา 224-227 เป็นแก้ไขเล็กน้อย
การที่ศาลจะอนุญาตให้แก้เดือนในฟ้องหรือไม่อยู่ในดุลยพินิจของศาลอันเป็นข้อเท็จจริง เอกใบคูปองยางไปใช้โดยรู้ว่าปลอมเป็นผิดตามมาตรา 224-227
การที่ศาลจะอนุญาตให้แก้เดือนในฟ้องหรือไม่อยู่ในดุลยพินิจของศาลอันเป็นข้อเท็จจริง เอกใบคูปองยางไปใช้โดยรู้ว่าปลอมเป็นผิดตามมาตรา 224-227
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14496/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม รวมถึงความรับผิดฐานของทนายความในการรับรองเอกสาร
โจทก์กล่าวหาจำเลยที่ 1 ว่าปลอมรายงานการประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 3/2527 ของบริษัท ง. รายงานการประชุมระบุว่า ป. กับพวก ซื้อที่ดินโฉนดตราจองเลขที่ 169 มาจากบุคคลภายนอกในนามกิจการ โดยให้ ช. ถือกรรมสิทธิ์แทน ซึ่งเป็นความเท็จ ทั้งไม่มีการประชุมจริง แต่ในคำฟ้องมิได้บรรยายว่าเป็นการปลอมเอกสารสิทธิโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและกระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง อันเป็นองค์ประกอบของความผิดฐานปลอมเอกสาร รายงานการประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 3/2527 ตามเอกสารท้ายฟ้องถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องซึ่งเป็นรายละเอียดที่แสดงให้เห็นว่าใครร่วมประชุมและประชุมเรื่องใดบ้าง ใครเป็นผู้ลงลายมือชื่อในรายงานการประชุม แต่ก็มิใช่องค์ประกอบความผิด และการนำไปเป็นหลักฐานเสนอต่อศาลชั้นต้นเพื่อประกอบ การฟ้องคดีแพ่ง ก็อาจมิได้มีมูลเหตุจูงใจที่จะให้ศาลหลงเชื่อว่ารายงานการประชุมเป็นเอกสารที่แท้จริงได้ เมื่อฟ้องโจทก์ขาดองค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสาร จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตามมาตรา 161 ส่วนความผิดฐานทำคำรับรองเป็นเอกสารอันเป็นความเท็จนั้น จำเลยที่ 3 ลงลายมือชื่อรับรองสำเนารายงานการประชุมวิสามัญฉบับดังกล่าว เป็นเพียงการให้คำรับรองว่าสำเนาเอกสารนี้มีข้อความถูกต้องตรงกับต้นฉบับหาได้มีความหมายเป็นการรับรองว่า บริษัท ง. ได้จัดให้มีการประชุมวิสามัญตามเนื้อความที่ระบุในสำเนารายงานการประชุมวิสามัญฉบับดังกล่าวแต่อย่างใดไม่ แม้จะได้ความตามที่โจทก์ทั้งสามกล่าวอ้างว่าบริษัท ง. ไม่ได้จัดให้มีการประชุมวิสามัญ และรายงานการประชุมวิสามัญเป็นเอกสารเท็จ จำเลยที่ 3 ก็ไม่มีความผิดฐานทำคำรับรองเป็นเอกสารอันเป็นเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8405/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมและใช้เอกสารปลอม กรณีจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสาร แต่ไม่ได้ยื่นเอกสารปลอมต่อธนาคาร
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้รายงานประเมินราคาที่จำเลยปลอมขึ้นยื่นต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร ก. แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยนำรายงานประเมินราคาปลอมไปใช้อ้างแสดงต่อ ธ. โดยจำเลยไม่ได้นำไปใช้ยื่นแสดงต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร ก. ตามที่โจทก์ฟ้องแต่อย่างใด จึงเป็นข้อเท็จจริงนอกเหนือจากที่โจทก์กล่าวมาในฟ้อง ไม่อาจลงโทษจำเลยฐานใช้เอกสารปลอมได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคหนึ่ง