คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องขับไล่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 584 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงทาสีบ้านเช่าและการสิทธิฟ้องขับไล่
ผู้เช่าผิดสัญญาเช่าที่ทำไว้กับผู้ให้เช่า จึงตกลงกับผู้ให้เช่าใหม่โดยบันทึกข้อตกลงใหม่นี้ในด้านหลังสัญญาเช่าเดิมว่า ผู้เช่าจะทาสีน้ำมันภายในบ้านที่เช่าให้ภายใน1 ปี ถ้าผิดสัญญายอมออกทันทีโดยไม่เรียกค่าเสียหายใดๆ ดังนี้ เมื่อครบกำหนด 1 ปีแล้วผู้เช่ายังไม่ทาสีบ้านเช่าให้ ก็ต้องถือว่าผู้เช่าเลือกปฏิบัติในทางที่จะออกจากบ้านเช่าไป หรือนัยหนึ่งเป็นอันถือได้ว่าผู้ให้เช่าได้รับความยินยอมของผู้เช่าในอันที่จะเลิกใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าตามความหมายของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ 2489 มาตรา 16(5) แล้ว จึงมีสิทธิ์ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากเคหะที่เช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ากำหนดเงื่อนไขการฟ้องขับไล่ล่วงหน้า ไม่ถือเป็นความยินยอมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ในสัญญาเช่าข้อหนึ่งมีข้อความว่า ถ้าผู้เช่าทำผิดสัญญาหรือเมื่อเลิกสัญญาแล้วผู้เช่าให้ความยินยอมไว้ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ให้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ได้ นั้นถือว่าเป็นความตกลงที่ทำกันไว้ล่วงหน้า พร้อมกับสัญญาเช่า หาใช่เป็นความยินยอมของผู้เช่าตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงในสัญญาเช่าเรื่องการฟ้องขับไล่ ไม่ใช่ความยินยอมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ในสัญญาเช่าข้อหนึ่งมีข้อความว่าถ้าผู้เช่าทำผิดสัญญาหรือเมื่อเลิกสัญญาแล้วผู้เช่าให้ความยินยอมไว้ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯให้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ได้ นั้น ถือว่าเป็นความตกลงที่ทำกันไว้ล่วงหน้าพร้อมกับสัญญาเช่าหาใช่เป็นความยินยอมของผู้เช่าตามความหมายของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ไม่ (อ้างฎีกาที่ 848/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76-77/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งรื้อถอนและการฟ้องขับไล่: สภาพห้องไม่ถึงขั้นรื้อถอน ผู้ให้เช่าไม่อาจฟ้องขับไล่ได้
นายกเทศบาลมีคำสั่งอ้างอำนาจตามมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ. 2484 ถึงเจ้าของห้องเช่าและผู้เช่าห้อง ให้รื้อห้องเช่าภายในกำหนดเนื่องจากห้องเช่าไม่ถูกสุขลักษณะ แล้วภายหลังได้มีคำสั่งอีกฉบับหนึ่งถึงผู้เช่าห้อง ให้ผู้เช่าห้องระงับเหตุรำคาญของห้องเช่า อันเป็นการแสดงอยู่ในตัว่าการระงับความรำคาญ ก็เป็นอันเพียงพอสำหนับห้องเช่านั้น+มีสภาพยังไม่ถึงขนาดที่จะต้องรื้อถอนตาม พ.ร.บ. สาธารณะสุข 2484 มาตรา 13 ดังนี้ ผู้ให้เช่าไม่อาจอาศัยอำนาจตามคำสั่งให้รื้อถอนของนายกเทศบาลมาฟ้องขับไล่ผู้เช่าห้องซึ่งได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ มติอนุญาตเข้าอยู่อาศัยและการฟ้องขับไล่ซ้ำ: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่ามติไม่โมฆะและฟ้องซ้ำไม่ขัดกฎหมาย
มติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าที่ให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าเข้าอยู่อาศัยในเคหะที่เช่าเองนั้น แม้ในชั้นแรกคณะอนุกรรมการฯจะมีความเห็นว่าไม่ควรอนุญาตก็ดี แต่เมื่อคณะกรรมการผู้มีอำนาจสูงกว่าได้พิจารณาอนุญาตแล้ว มตินั้นหาตกเป็นโมฆะไม่
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากเคหะที่เช่าโดยอ้างว่า ครบกำหนดสัญญาเช่าและบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว แต่ศาลพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่า จำเลยได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ โจทก์จึงขอต่อคณะกรรมการณข้าอยู่เอง เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว+ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยอีก โดยทางมติอนุญาตของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ฯ ดังนี้ย่อมเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน หาต้อง+ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 148 หรือ 173 (1) ไม่
ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงแล้ว ข้าหลวงยุติธรรมก็ยังมีอำนาจอนุญาตให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 230 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ มติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าชอบด้วยกฎหมาย แม้ความเห็นอนุกรรมการฯจะต่างกัน การฟ้องขับไล่เป็นคนละประเด็น
มติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าที่ให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าเข้าอยู่อาศัยในเคหะที่เช่าเองนั้น แม้ในชั้นแรกคณะอนุกรรมการฯจะมีความเห็นว่าไม่ควรอนุญาตก็ดี แต่เมื่อคณะกรรมการผู้มีอำนาจสูงกว่าได้พิจารณาอนุญาตแล้ว มตินั้นหาตกเป็นโมฆะไม่
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากเคหะที่เช่าโดยอ้างว่า ครบกำหนดสัญญาเช่าและบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว แต่ศาลพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ โจทก์จึงขอต่อคณะกรรมการฯเข้าอยู่เองเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยอีกโดยอ้างมติอนุญาตของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯ ดังนี้ ย่อมเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน หาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 หรือ 173(1)ไม่
ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงแล้วข้าหลวงยุติธรรมก็ยังมีอำนาจอนุญาตให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 230 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้เข้าอยู่อาศัยและสิทธิในการฟ้องขับไล่: คำให้การเคลือบคลุมทำให้จำเลยไม่อาจสืบได้
มติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่ามีว่า 'คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้พิจารณาแล้วเห็นว่าท่านมีความจำเป็นจะต้องเข้าอยู่อาศัยกับทั้งท่านได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการให้ผู้เช่าได้เข้าไปอยู่ในเคหะที่บิดามารดาของท่านเช่าอยู่ในปัจจุบันนี้ จึงลงมติให้ความยินยอมแก่ท่านในอันที่จะเข้าอยู่อาศัยในตึกแถวเลขที่ 60-61 ได้ตามขอ' และยังปรากฏในรายงานพิจารณาของศาลอีกว่า โจทก์ได้ยินยอมให้จำเลย(ผู้เช่า) อยู่ในบ้านบิดามารดาหากจำเลยไม่ยอมเข้าอยู่เองโดยอ้างว่าจะต้องอยู่ในฐานะเช่าไม่ใช่ฐานะอาศัยซึ่งโจทก์ได้แถลงต่อไปว่า จะให้เช่าไม่ได้เพราะโจทก์และบิดามารดาไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์สถานที่ และโจทก์จะไม่ขับไล่จำเลยเป็นอันขาด เช่นนี้จะถือว่าโจทก์ปฏิบัติผิดคำสั่งคณะกรรมการมิได้ ฉะนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่าที่กล่าวแล้วได้
จำเลยให้การข้อหนึ่งว่าคำสั่งคณะกรรมการจะครบองค์ประชุมตาม กฎหมายหรือไม่ จำเลยไม่ทราบนั้น ถือว่าเป็นคำให้การเคลือบคลุม เพราะมิได้แสดงให้แจ้งชัดว่าจะรับหรือปฏิเสธ ฉะนั้นศาลจึงไม่ยอมให้จำเลยนำสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่ผู้เช่าช่วง แม้มิได้ระบุชื่อผู้เช่าช่วงในฟ้อง ไม่ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม หากจำเลยไม่เสียเปรียบในการต่อสู้คดี
ฟ้องขอให้ขับไล่ผู้เช่าโดยอ้างว่าผู้เช่าให้ผู้อื่นเช่าช่วงนั้น แม้โจทก์จะมิได้ระบุชื่อผู้เเช่าช่วงมาในฟ้อง ก็จะถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมได้ เพราะไม่ทำให้ผู้เช่าหลงหรือเสียเปรียบในการต่อสู้คดีอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ผู้เช่าช่วงที่ไม่ระบุชื่อ แม้มิใช่ฟ้องเคลือบคลุม หากไม่ทำให้เสียเปรียบ
ฟ้องขอให้ขับไล่ผู้เช่าโดยอ้างว่าผู้เช่าให้ผู้อื่นเช่าช่วงนั้น แม้โจทก์จะมิได้ระบุชื่อผู้เช่าช่วงมาในฟ้อง ก็จะถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมมิได้ เพราะไม่ทำให้ผู้เช่าหลงหรือเสียเปรียบในการต่อสู้คดีอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1971/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการฟ้องขับไล่ย่อมผูกพันกับความเป็นเจ้าของที่ดิน หากที่ดินเป็นที่สาธารณะ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท โดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ครอบครองมา 7-8 ปีแล้ว แต่ทางพิจารณาได้ความว่าที่ดินพิพาทได้ถูกทางการกรมการอำเภอประกาศว่าเป็นที่สาธารณะ โจทก์จึงให้บุตรขอจับจองใหม่ ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์ตามฟ้อง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย
of 59