คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชอบด้วยกฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 833/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิที่ดินจากการซื้อขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย แม้ค้างค่านา
รับซื้อที่จากการขายทอดตลาดโดยชอบด้วยกฎหมายย่อมได้กรรมสิทธิ
เจ้าพนักงานมีอำนาจยึดที่นาซึ่งค้างค่าเสนาขายทอดตลาดได้
วิธีเรียกร้องเงินค่านาค้างตามพ.ร.บ.เก็บเงินค่านานั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องบุริมสิทธิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้กำลังสกัดกั้นการทำร้ายด้วยอาวุธ
ป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ใช้หอกไล่แทงเขา เขาจึงใช้ปืนยิงถูก 1 ทีดังนี้เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำตามคำสั่งเจ้าพนักงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการไม่มีเจตนาในการทำให้ตาย
จำเลยเอาหอกลักผู้ร้ายเพื่อจับกุมตามคำสั่งของเจ้าพนักงานและเชื่อว่าชอบด้วยกฎหมาย ทั้งผู้ร้ายก็ไม่ได้ตายเพราะการกระทำของจำเลย จำเลยยังไม่ผิดตามกฎหมายข้างบน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้กำลังเพื่อป้องกันการถูกทำร้าย
ป้องกัน จำเลยถือดาพไล่เขาไป เขาแทงเอาจำเลยจึงฟันเขาตายดังนี้ เรียกว่าจำเลยทำโดยป้องกันไม่มีผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายเกินกว่าเหตุ การเข้าใจผิดถึงตัวผู้กระทำผิด
ป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เข้าใจว่าเปนผู้ร้ายเลยยิงตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 916/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันทรัพย์สินโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้กำลังเพื่อปกป้องทรัพย์สินที่ถูกขโมย
ผู้ร้ายใช้ปืนยิงและตีพวกเจ้าทรัพย์ ๆ ฆ่าผู้ร้ายตาย เปนการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันทรัพย์สินเกินกว่าเหตุ: การกระทำเพื่อป้องกันทรัพย์สินที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้กระทำจะเสียชีวิต
ป้องกันทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ ถึงแม้ผู้ร้ายจะตายก็ไม่มีผิด ลักษณพะยาน ลักษณะบาดแผล เป็นวัดถุพะยานประกอบความสันนิษฐาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8381/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างลูกจ้างชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้จ้างให้ทำงานตำแหน่งอื่นแล้วลูกจ้างไม่ยอมทำงาน
การที่ผู้ร้องว่าจ้างบริษัทรับเหมาภายนอกดำเนินการจัดหาพนักงานขับรถเพื่อทำหน้าที่แทนพนักงานขับรถของผู้ร้องเป็นเรื่องการบริหารจัดการซึ่งผู้ร้องในฐานะผู้ประกอบการย่อมมีอำนาจที่จะกระทำได้เพื่อให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ร้อง ส่วนการว่าจ้างบริษัทรับเหมาภายนอกดำเนินการจัดหาคนมาทำงานแทนลูกจ้างตำแหน่งใด นายจ้างหาจำต้องประกาศยกเลิกตำแหน่งนั้นเสียก่อนแล้วจึงจะสามารถกระทำได้ไม่
ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านไปแล้ว ต่อมาคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีคำสั่งให้ผู้ร้องรับผู้คัดค้านกลับเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่ไม่ต่ำกว่าเดิม มิได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องรับผู้คัดค้านกลับเข้าทำงานในตำแหน่งเดิม ทั้งไม่ปรากฏว่าผู้ร้องทำสัญญาจ้างผู้คัดค้านเฉพาะตำแหน่งพนักงานขับรถ ผู้ร้องในฐานะนายจ้างมีอำนาจให้ลูกจ้างทำงานในตำแหน่งอื่นได้ เมื่อผู้ร้องมีนโยบายว่าจ้างบริษัทรับเหมาภายนอกหาคนมาทำงานตำแหน่งพนักงานขับรถแล้ว การให้ผู้คัดค้านทำงานในแผนกโลจิสติคส์หรือฝ่ายผลิตย่อมกระทำได้หากสภาพการจ้างไม่ต่ำกว่าเดิม หาใช่ว่าหากผู้คัดค้านไม่สมัครใจแล้วผู้ร้องย่อมไม่มีอำนาจสั่งได้ตามที่ผู้คัดค้านอุทธรณ์ มูลเหตุที่ผู้ร้องประกาศยกเลิกตำแหน่งพนักงานขับรถประจำก็เพื่อให้ผู้คัดค้านเห็นว่าต่อไปไม่มีตำแหน่งงานที่ผู้คัดค้านประสงค์จะทำต่อไปแล้วและยินยอมเข้าทำงานในตำแหน่งใหม่เท่านั้น ซึ่งหลังจากผู้ร้องออกคำสั่งดังกล่าวผู้ร้องยังมีหนังสือแจ้งและมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านกลับเข้าทำงานอีกหลายครั้ง การออกประกาศยกเลิกตำแหน่งพนักงานขับรถจึงหาใช่เหตุผลที่จะให้สอดคล้องกับคำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ที่ผู้คัดค้านอ้างในทำนองว่าผู้ร้องนำเรื่องการไม่มีตำแหน่งพนักงานขับรถมาอ้างเพื่อขออนุญาตศาลเลิกจ้างผู้คัดค้าน ไม่ใช่เป็นการกระทำที่ไม่สุจริตและฉ้อฉลต่อผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านได้รับค่าจ้างก่อนถูกเลิกจ้างเป็นเงินเดือน ค่าล่วงเวลา ค่าอาหารกลางวัน และรายได้อื่น ซึ่งค่าล่วงเวลา ค่าอาหารกลางวัน และรายได้อื่นจะมากน้อยย่อมขึ้นอยู่กับลักษณะของงานแต่ละแผนก เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ร้องลดเงินเดือนผู้คัดค้าน การให้ผู้คัดค้านไปทำงานตำแหน่งใหม่ไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างที่ไม่เป็นคุณแก่ผู้คัดค้าน
การที่ผู้ร้องมีอำนาจสั่งผู้คัดค้านไปทำงานตำแหน่งใหม่ได้และไม่ใช่การกลั่นแกล้งผู้คัดค้าน แต่ผู้คัดค้านไม่ยอมเข้าทำงานตามคำสั่งของผู้ร้องซึ่งเป็นนายจ้างรวมเวลากว่า 10 เดือน และตลอดเวลาดังกล่าวผู้คัดค้านเข้าไปยังสถานประกอบการของผู้ร้องทุกวันแต่ไปนั่งในห้องพักพนักงานขับรถอยู่เฉย ๆ นอกจากจะประพฤติตนเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ร้องซึ่งเป็นนายจ้างแล้วยังเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควรอีกด้วย กรณีจึงมีเหตุสมควรที่ผู้ร้องจะเลิกจ้างผู้คัดค้านได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7876/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกกล่าวการประชุมผู้ถือหุ้นชอบด้วยกฎหมาย แม้โฆษณาในหนังสือพิมพ์ไม่ครบ 7 วัน แต่ส่งหนังสือเรียกประชุมทางไปรษณีย์แล้ว
เมื่อบริษัท ช. ได้ส่งคำบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่ทางไปรษณีย์ไปยังผู้ถือหุ้นทุกคนที่มีชื่อในทะเบียนของบริษัทก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่า 7 วัน โดยชอบแล้ว แม้บริษัท ช. จะลงพิมพ์โฆษณาคำบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่ทางหนังสือพิมพ์ก่อนวันนัดประชุมน้อยกว่า 7 วัน ซึ่งไม่ชอบด้วย ป.พ.พ. มาตรา 1175 วรรคหนึ่ง ก็ตาม แต่บทบัญญัติดังกล่าวมุ่งประสงค์ให้มีการแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้าว่าบริษัทจะได้จัดให้มีการประชุมใหญ่ในกิจการใด ที่ใด เมื่อใด เพื่อผู้ถือหุ้นจะได้มีโอกาสเตรียมตัวสอบถามหรือแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ เมื่อผู้คัดค้านที่ 1 ในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท ช. ได้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นตามมาตรา 1174 วรรคสอง โดยได้ส่งคำบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่ทางไปรษณีย์แก่ผู้ถือหุ้นโดยชอบ เป็นที่เห็นได้ว่าผู้ถือหุ้นทุกคนทราบกำหนดวันนัดประชุมใหญ่แล้ว และผู้ร้องได้มอบฉันทะให้ตัวแทนผู้ร้องเดินทางไปร่วมประชุมใหญ่ด้วย ต้องตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดให้แจ้งนัดประชุมใหญ่ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1175 แล้ว ย่อมถือได้ว่า การส่งคำบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่ของบริษัท ช. ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6341/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายแม้ผู้พิพากษาส่วนหนึ่งไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ หากมีการร่วมปรึกษาและลงชื่อในต้นร่างแล้ว
แม้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์มีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คือ อ. และ ช. ลงลายมือชื่อเพียงสองคน แต่ตามบันทึกต่อท้ายคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ช. รองประธานศาลอุทธรณ์ทำการแทนประธานศาลอุทธรณ์ได้รับรองว่า ค. ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์อีกคนหนึ่งได้ร่วมปรึกษาและมีความเห็นพ้องกัน ดังได้ลงลายมือชื่อไว้ในต้นร่างคำพิพากษาแล้ว กับได้บันทึกจดแจ้งเหตุที่ ค. ไม่สามารถลงลายมือชื่อในคำพิพากษาได้เนื่องจากย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่นก่อนที่จะลงลายมือชื่อในคำพิพากษานั้น เมื่อองค์คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ทั้งสามคนลงลายมือชื่อไว้ในต้นร่างคำพิพากษาย่อมแสดงชัดแจ้งแล้วว่าองค์คณะดังกล่าวมีความเห็นพ้องด้วยกันกับคำพิพากษานั้น คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 141 วรรคสอง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 และ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 3 และมิใช่กรณีมีเหตุจำเป็นอื่นอันไม่อาจก้าวล่วงได้ในระหว่างการนั่งพิจารณา หรือการทำคำพิพากษาในศาลอุทธรณ์ ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 28 และมาตรา 29 ที่รองประธานศาลอุทธรณ์กระทำการแทนประธานศาลอุทธรณ์จะต้องตรวจสำนวนและลงลายมือชื่อร่วมเป็นองค์คณะในคำพิพากษาไม่ เนื่องจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้มีการพิจารณาและพิพากษาไปจนเสร็จสิ้นสำนวนความแล้ว การบันทึกต่อท้ายคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นเพียงการจดแจ้งเหตุที่องค์คณะผู้พิพากษาไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ หาใช่เป็นกรณีที่รองประธานศาลอุทธรณ์จะต้องเข้าร่วมเป็นองค์คณะในการทำคำพิพากษาอีกแต่อย่างใด
of 51