คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องขับไล่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 584 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองเพียงอย่างเดียวเพียงพอต่อการฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากการบุกรุก
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีสวนยาง 1 แปลงโดยซื้อไว้จากผู้มีชื่อดังสำเนาท้ายฟ้อง และได้ครอบครองมาประมาณ 9 ปีเศษจำเลยบุกรุกมาประมาณ 9 ปีเศษ จำเลยบุกรุกเข้ากรีดยางในที่ของโจทก์ตอนหนึ่ง จึงขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนหนึ่งดังนี้ แสดงว่าโจทก์อ้างถึงสิทธิครอบครองอย่างเดียว คำขอท้ายฟ้องก็ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยเข้ามารบกวนสิทธิครอบครองของโจทก์เท่านั้น หาเกี่ยวกับกรรมสิทธิไม่ โจทก์ชอบที่จะฟ้องได้ แม้โจทก์จะยังไม่ได้กรรมสิทธิมาตามสัญญาซื้อขาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาตและการฟ้องขับไล่ ผู้ให้เช่าไม่ต้องบอกกล่าว
ผู้เช่าออกจากบ้านเช่าไปอยู่ที่อื่นและโอนให้คนอื่นมาอยู่แทน โดยผู้ให้เช่าไม่ทราบและไม่ได้อนุญาตนั้น เป็นการฝ่าฝืน ป.พ.พ.ม. 544 ผู้ให้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวตาม ม.566 ก็ฟ้องขับไล่ได้ และกรณีเช่นนี้ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาตและย้ายออก ทำให้ไม่ต้องบอกกล่าวฟ้องขับไล่ได้
ผู้เช่าออกจากบ้านเช่าไปอยู่ที่อื่นและโอนให้คนอื่นมาอยู่แทน โดยผู้ให้เช่าไม่ทราบ และไม่ได้อนุญาตนั้น เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 544 ผู้ให้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวตาม มาตรา 566 ก็ฟ้องขับไล่ได้ และกรณีเช่นนี้ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่กรณีเช่าช่วง: ฟ้องไม่เคลือบคลุมเมื่อระบุชัดถึงการเช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอม
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า "การที่จำเลยได้เช่าห้องของข้าพเจ้าไปนี้ จำเลยหาได้ทำการค้าด้วยตนเองไม่ ความจริงจำเลยได้ให้ผู้มีชื่อเช่าช่วงไปทำการค้า โดยมิได้รับความยินยอมจากข้าพเจ้า ทั้งเป็นการผิดสัญญาที่จำเลยได้ทำไว้กับข้าพเจ้าอีกด้วย" ดังนี้ ฟ้องโจทก์ชัดอยู่แล้วว่า จำเลยเอาห้องที่เช่าจากโจทก์ทั้งหมดไปให้ผู้อื่นเช่าช่วง ซึ่งก็ตรงตามเรื่องที่โจทก์กล่าวหา จึ่งไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ให้เช่ามีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
ในกรณีที่ผู้ให้เช่าเดิมฟ้องขับไล่ผู้เช่าช่วง ซึ่งได้เช่าช่วงไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเดิมนั้นผู้เช่าช่วงโดยมิชอบนี้จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ให้เช่าเดิมว่า ผู้ให้เช่าเดิมไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงว่ามีการเช่าช่วงจึงจะนำสืบพยานบุคคลไม่ได้ ดังนี้ หามีสิทธิยกขึ้นต่อสู้ได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจผู้รับมอบอำนาจ: การฟ้องขับไล่จากสัญญาเช่าและการละเมิดสิทธิทรัพย์สินของวัด
ใบมอบอำนาจของเจ้าอาวาสวัดมีข้อความว่า "....เพราะฉะนั้นขอมอบหมายให้ท่าน (นายชวน) เป็นผู้มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับผลประโยชน์ในที่ธรณีสงฆ์ และทรัพย์สินของวัดที่ได้รับมอบคืนมาจากกรมการศาสนาทั้งหมดนั้น ตลอดจนเป็นผู้แทนวัดทุกกรณี และเมื่อมีผู้ใดทำการละเมิดอันเป็นเหตุให้ที่ธรณีสงฆ์และทรัพย์สินของวัดเสียหายขาดประโยชน์ก็ให้มีอำนาจดำเนินคดียื่นฟ้องต่อศาล ตลอดจนปราณีประนอมยอมความและแต่งทนายได้ด้วย......." ดังนี้ ย่อมกินถึงการดำเนินคดีที่มีผู้ล่วงเกินสิทธิของวัด อันเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของวัดเสียหายหรือขาดประโยชน์ทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการล่วงเกินโดยทำผิดสัญญาหรือโดยประการอื่น ฉะนั้นผู้รับมอบอำนาจจึงมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าห้องแถวของวัด โดยอ้างว่าผู้เช่าทำผิดสัญญาเช่าได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจตามใบมอบอำนาจ: การฟ้องขับไล่จากสัญญาเช่าและละเมิด
ใบมอบอำนาจของเจ้าอาวาสวัดมีข้อความว่า '...เพราะฉะนั้นขอมอบหมายให้ท่าน(นายชวน)เป็นผู้มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับผลประโยชน์ในที่ธรณีสงฆ์ และทรัพย์สินของวัดที่ได้รับมอบคืนมาจากกรมการศาสนาทั้งหมดนั้น ตลอดจนเป็นผู้แทนวัดทุกกรณี และเมื่อมีผู้ใดทำการละเมิดอันเป็นเหตุให้ที่ธรณีสงฆ์และทรัพย์สินของวัดเสียหายขาดประโยชน์ก็ให้มีอำนาจดำเนินคดียื่นฟ้องต่อศาลตลอดจนประนีประนอมยอมความและแต่งทนายได้ด้วย......' ดังนี้ย่อมกินถึงการดำเนินคดีที่มีผู้ล่วงเกินสิทธิของวัด อันเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของวัดเสียหายหรือขาดประโยชน์ทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการล่วงเกินโดยทำผิดสัญญาหรือโดยประการอื่น ฉะนั้นผู้รับมอบอำนาจจึงมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าห้องแถวของวัด โดยอ้างว่าผู้เช่าทำผิดสัญญาเช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสิทธิในมฤดกและการฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองโดยมิชอบ การระบุวันเดือนปีไม่สำคัญหากไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี
ฟ้องโจทก์กล่าวชัดว่า จำเลยมาขอทำนาในปี พ.ศ. 2488-2489 ครั้น พ.ศ. 2490 โจทก์จะเอาคืนจำเลยไม่ยอมให้ การที่โจทก์มิได้ระบุวันหรือเดือนที่จำเลยมาขอทำไม่เป็นเหตุที่จะถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะวันเดือนที่ขอทำไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี
ผู้มีสิทธิรับมฤดกไม่ได้ปกครองภายใน 1 ปี ภายหลังเข้ามาขออาศัยผู้มีสิทธิรับมฤดก ซึ่งปกครองตลอดมา ดังนี้ ผู้ที่ปกครองฟ้องขับไล่ผู้ขออาศัยได้ โดยถือว่าผู้ขออาศัยหมดสิทธิแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสิทธิในมรดกและการฟ้องขับไล่ผู้ครอบครอง โดยการขอทำนาและการไม่เข้าครอบครองต่อเนื่อง
ฟ้องโจทก์กล่าวชัดว่า จำเลยมาขอทำนาในปี พ.ศ.2488-2489ครั้น พ.ศ.2490 โจทก์จะเอาคืนจำเลยไม่ยอมให้ การที่โจทก์มิได้ระบุวันหรือเดือนที่จำเลยมาขอทำไม่เป็นเหตุที่จะถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมเพราะวันเดือนที่ขอทำไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี
ผู้มีสิทธิรับมรดกไม่ได้ปกครองภายใน 1 ปี ภายหลังเข้ามาขออาศัยผู้มีสิทธิรับมรดก ซึ่งปกครองตลอดมาดังนี้ ผู้ที่ปกครองฟ้องขับไล่ผู้ขออาศัยได้ โดยถือว่าผู้ขออาศัยหมดสิทธิแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 612/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ต้องพิสูจน์การอาศัย หากไม่พิสูจน์แม้มีตราจองก็ขับไล่ไม่ได้
จำเลยอยู่ในที่พิพาทมา 10 ปีเศษ โจทก์ฟ้องขับไล่โดยอ้างว่า จำเลยอาศัยแล้วไม่ยอมออก ดังนี้ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบว่าจำเลยอาศัยก็ขับไล่ไม่ได้ แม้โจทก์จะมีตราจองก็ตาม.
of 59