พบผลลัพธ์ทั้งหมด 543 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของวันเวลาในการฟ้องยักยอกทรัพย์ ฟ้องไม่เคลือบคลุมเมื่อระบุช่วงเวลาที่เกิดเหตุ
ฟ้องว่าจำเลยยืมสร้อยไปวันหนึ่งวันใดในระหว่าง 14 วันติดต่อกัน แล้วว่าจำเลยยักยอกไปนั้นไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.
อ้างฎีกาที่ 127/2477
อ้างฎีกาที่ 127/2477
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1203/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ vs. ยักยอกทรัพย์: ความแตกต่างและการพิพากษาคดี
รถโดยสารคว่ำทำให้กระเป๋าเงินของผู้โดยสารคนหนึ่งกระเด็นไป ผู้โดยสารอีกคนหนึ่งหยิบเอาเสียในทันใดโดย เจ้าของไม่รู้ แต่เจ้าของได้รู้ว่ากระเป๋าหายและได้กำลังหาอยู่ดังนี้ ผู้เอาไปมีความผิดฐานลักทรัพย์ ไม่ใช่ยักยอกเก็บของตก ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกเก็บของตกตามมาตรา 318 พิจารณาได้ความว่าจำเลยลักทรัพย์ซึ่งมิใช่ข้อประสงค์ให้ลงโทษ จะลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1147/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพนักงานโยธาใช้ทรัพย์ราชการส่วนตัว: การแยกพิจารณาการรับจ้างทางราชการกับการยักยอกทรัพย์
จำเลยเป็นพนักงานโยธาเทศบาลเอาของราชการซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของตนไปใช้ทำการรับจ้างเทศบาลโดยเป็นทางราชการ ภายหลังจำเลยจะได้ยักยอกเอาเงินค่าจ้างนั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัว จำเลยไม่มีผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 132 และที่แก้ไข
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้เสียหายในความผิดยักยอกทรัพย์ต้องเป็นผู้ถูกยักยอกทรัพย์โดยตรง ไม่ใช่ผู้เสียหายทางชื่อเสียง
ในความผิดฐานยักยอกบุคคลที่มิได้เป็นผู้เสียหายไม่มีอำนาจร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าว เสียหายในทางชื่อเสียงไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามกฏหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641-643/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์: การรับของไปขายแล้วนำเงินไปใช้ส่วนตัวถือเป็นความผิดทางอาญา
พฤตติการณ์ที่ถือว่าเป็นความผิดทางอาญาฐานยักยอก
เมื่อมีข้อโต้เถียงเป็นประเด็นเกิดขึ้นใหม่ในชั้นสืบพะยาน โจทก์อ้างพะยานหลักฐานเพิ่มเติมและศาลก็อนุญาตแล้วดังนี้ ศาลย่อมรับฟังพะยานหลักฐานที่อ้างเพิ่มเติมนี้ได้
คดีอาญาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้จำคุกจำเลย 8 เดือนจำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้ต้องห้ามตาม ม.218 แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา
เมื่อมีข้อโต้เถียงเป็นประเด็นเกิดขึ้นใหม่ในชั้นสืบพะยาน โจทก์อ้างพะยานหลักฐานเพิ่มเติมและศาลก็อนุญาตแล้วดังนี้ ศาลย่อมรับฟังพะยานหลักฐานที่อ้างเพิ่มเติมนี้ได้
คดีอาญาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้จำคุกจำเลย 8 เดือนจำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้ต้องห้ามตาม ม.218 แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมแปลงสลากและการยักยอกเงิน จำเลยมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารและฐานยักยอกทรัพย์
พิมพ์สลากกินแบ่งปลอมขึ้นแต่ยังไม่มีเลขลำดับไม่ได้เข้าเล่มและยังไม่ประทับตราประธานและเลขานุการก็เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ ไม่ใช่เพียงคั่นพยายาม
ข้าหลวงประจำจังหวัดได้รับอนุมัติกระทรวงมหาดไทยออกสลากกินแบ่งหาเงินรายได้บำรุงเทศบาลจังหวัดนั้น และเป็นเวลาก่อนมีกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาล สลากกินแบ่งนั้นถือว่าเป็นหนังสือสำคัญธรรมดา ไม่ใช่หนังสือสำคัญในราชการศาลชั้นต้นและศาลอาญาพิพากษาต้องกันให้จำคุกจำเลย 5 ปีฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นวางมาตรา 225 จำคุก 7 ปี ศาลอุทธรณ์วาง ม.224-60 จำคุก 3 ปี 4 เดือน เป็นการแก้มาก คู่ความฎีกาข้อเท็จจริงได้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตาม ม.225 พิจารณาได้ความว่าจำเลยมีผิดตาม ม.224 ศาลลงโทษจำเลยตาม ม.224 ได้การฎีกาว่าตามข้อเท็จจริงที่ได้ความมาจำเลยเป็นผู้มีหน้าที่ตาม ม.319(3) หรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ข้าหลวงประจำจังหวัดได้รับอนุมัติกระทรวงมหาดไทยออกสลากกินแบ่งหาเงินรายได้บำรุงเทศบาลจังหวัดนั้น และเป็นเวลาก่อนมีกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาล สลากกินแบ่งนั้นถือว่าเป็นหนังสือสำคัญธรรมดา ไม่ใช่หนังสือสำคัญในราชการศาลชั้นต้นและศาลอาญาพิพากษาต้องกันให้จำคุกจำเลย 5 ปีฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นวางมาตรา 225 จำคุก 7 ปี ศาลอุทธรณ์วาง ม.224-60 จำคุก 3 ปี 4 เดือน เป็นการแก้มาก คู่ความฎีกาข้อเท็จจริงได้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตาม ม.225 พิจารณาได้ความว่าจำเลยมีผิดตาม ม.224 ศาลลงโทษจำเลยตาม ม.224 ได้การฎีกาว่าตามข้อเท็จจริงที่ได้ความมาจำเลยเป็นผู้มีหน้าที่ตาม ม.319(3) หรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ประทับฟ้องคดีอาญา: องค์ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ไม่ครบถ้วน แม้ฟ้องระบุว่าเป็นความผิดฐานยักยอก
พฤตติการณ์ที่ถือว่าข้อเท็จจริงที่บรรยายมาในฟ้องไม่เข้าลักษณความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามกฎหมายเมื่อคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกแล้ว แม้ในฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยยักยอกทรัพย์และขอให้ลงโทษฐานยักยอกมาก็ตาม ศาลก็ไม่ประทับรับฟ้องศาลชั้นต้นไม่รับประทับฟ้องศาลอุทธรณ์กลับให้ศาลชั้นต้นรับประทับฟ้องและพิจารณาต่อไปดังนี้จำเลยฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาอาญามาตรา 170
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดียักยอกทรัพย์ของทหาร: การร้องทุกข์โดยชอบและอำนาจสอบสวนของเจ้าพนักงาน
พฤตติการณ์ที่ไม่ถือว่าเป็น+ฟ้องเคลือบคลุม ผู้เสียหายซึ่งเป้นทหารรวม 58 คนฝากเงินไว้กับจำเลยซึ่งเป็นนายทหาร จำเลยยักยอกเอาเงินนั้นเสีย ผู้บังคับบัญชีจึงจัดให้ผู้เสียตายทั้ง 58 คนลงนามกำกับจำนวนเงินของแต่ละคน ส่งพร้อมกับรายงานกล่าวโทษจำเลยดังนี้ เป็นการเพียงพอที่จะเรียกว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์โดยชอบแล้วในกรณีที่ผู้เสียหายเป็นผู้อยู่ในอำนาจศาลทหาร เมื่อผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้วเจ้าพนักงานก็ย่อมมีอำนาจสอบสวนฟ้องร้องได้โดยมิต้องมีการมอบคดีให้ว่ากล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในความผิดส่วนตัว แม้ไม่พบการสมคบคิด ไม่เกินคำขอฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกับผู้อื่นยักยอกทรัพย์ของหลวง ทางพิจารณาปรากฎว่าจำเลยยักยอกทรัพย์นั้นโดยลำพังตนผู้เดียวก็ลงโทษได้ ไม่เรียกว่า เกินคำขอของโจทก์ตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.192 วรรค 1 ลักษณะที่ไม่เปนฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์โดยเจ้าพนักงาน: ศาลลงโทษได้แม้ฟ้องอ้างเพียงมาตราเดิม แม้มีการแก้ไขอัตราโทษ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา ม.131 และ พ.ร.บ.แก้ไขข้างต้น+ศาลย่อมลงโทษจำเลยได้แม้แต่อ้างมาตรา 131 อย่างเดียวศาลก็ลงโทษได้