พบผลลัพธ์ทั้งหมด 65 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่เคลือบคลุม – อายุความ – ยืมเงิน – ใช้ในกิจการ – หลักฐานไม่พอ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยได้ทำหลักฐานยืมเอาเงินของโจทก์ไปหลายครั้งแล้วไม่ใช้ โจทก์จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้เงินตามฟ้องซึ่งฟ้องโจทก์ได้กล่าวแสดงรายละเอียดถึงวันเดือนปีและจำนวนเงินที่จำเลยยืมไป และมีสำเนาใบยืมท้ายฟ้องดังนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
จำเลยมิได้ใช้เงินที่จำเลยยืมไปจากโจทก์ในกิจการของโจทก์กรณีจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 ต้องใช้อายุความตามมาตรา 164
จำเลยมิได้ใช้เงินที่จำเลยยืมไปจากโจทก์ในกิจการของโจทก์กรณีจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 ต้องใช้อายุความตามมาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่เคลือบคลุมและอายุความ - การยืมเงินทดรองจ่ายกิจการ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยได้ทำหลักฐานยืมเอาเงินของโจทก์ไปหลายครั้งแล้วไม่ใช้ โจทก์จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้เงินตามฟ้อง. ซึ่งฟ้องโจทก์ได้กล่าวแสดงรายละเอียดถึงวันเดือนปีและจำนวนเงินที่จำเลยยืมไป และมีสำเนาใบยืมท้ายฟ้อง. ดังนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.
จำเลยมิได้ใช้เงินที่จำเลยยืมไปจากโจทก์ในกิจการของโจทก์. กรณีจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 ต้องใช้อายุความตามมาตรา 164.
จำเลยมิได้ใช้เงินที่จำเลยยืมไปจากโจทก์ในกิจการของโจทก์. กรณีจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 ต้องใช้อายุความตามมาตรา 164.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 987/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิเรียกร้องของหุ้นส่วนในกิจการเดิม เมื่อกิจการเปลี่ยนมือเป็นนิติบุคคลใหม่ ไม่ถือเป็นการละเมิด
จำเลยมีหุ้นส่วนอยู่ในกิจการไฟฟ้าร่วมกับ ส. ต่อมาบริษัทโจทก์ก่อตั้งขึ้นโดยรับเอากิจการไฟฟ้านั้นไปเป็นของบริษัทโจทก์ ส. เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทโจทก์และเป็นประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัทโจทก์เสนอขายกิจการไฟฟ้านั้นให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำเลยจึงมีหนังสือถึงผู้อำนวยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ้างว่า ส.ในฐานะส่วนตัวไม่มีอำนาจเอากิจการไฟฟ้าซึ่งจำเลยมีหุ้นส่วนร่วมกับส. ไปเสนอขาย โดยมิได้รับความยินยอมจากจำเลย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงยับยั้งการซื้อกิจการไฟฟ้าของบริษัทโจทก์ การกระทำของจำเลยดังนี้ไม่เป็นการละเมิดต่อบริษัทโจทก์ เพราะจำเลยกล่าวอ้างแสดงสิทธิของตนตามความจริงและเพื่อรักษาสิทธิของตนโดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมในการซื้อของเชื่อเพื่อประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้ขายกิจการและผู้ซื้อที่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายกิจการและโรงงานให้จำเลยที่ 2 ระหว่างรอโอนกรรมสิทธิ์ จำเลยที่ 1 มอบกิจการและโรงงานซึ่งตนเป็นเจ้าของให้จำเลยที่ 2 ไปดำเนินการ ซึ่งต้องมีการซื้อสิ่งของมาใช้และกลายเป็นทรัพย์ที่ติดไปกับโรงงานและกิจการของโรงงานซึ่งจำเลยที่ 1 ก็ได้เป็นเจ้าของทรัพย์นั้นด้วย ส่วนจำเลยที่ 2 ก็ได้รับผลประโยชน์จากผลผลิตของโรงงานอันเป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่นนี้ เมื่อจำเลยที่ 2 ไปซื้อของเชื่อจากโจทก์เพื่อประโยชน์ร่วมกันดังกล่าว จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมจากการซื้อของเชื่อเพื่อประโยชน์ร่วมกันในสัญญาซื้อขายกิจการ
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายกิจการและโรงงานให้จำเลยที่ 2ระหว่างรอโอนกรรมสิทธิ์จำเลยที่ 1 มอบกิจการและโรงงานซึ่งตนเป็นเจ้าของให้จำเลยที่ 2 ไปดำเนินการซึ่งต้องมีการซื้อสิ่งของมาใช้และกลายเป็นทรัพย์ที่ติดไปกับโรงงานและกิจการของโรงงานซึ่งจำเลยที่ 1ก็ได้เป็นเจ้าของทรัพย์นั้นด้วยส่วนจำเลยที่ 2 ก็ได้รับประโยชน์จากผลผลิตของโรงงานอันเป็นประโยชน์ร่วมกันเช่นนี้ เมื่อจำเลยที่ 2 ไปซื้อของเชื่อจากโจทก์เพื่อประโยชน์ร่วมกันดังกล่าว จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้บ้านพักเป็นสถานการค้าตามประมวลรัษฎากร: การควบคุมดูแลกิจการทำไม้หมอน
โจทก์มีภูมิลำเนาในพระนครแต่ทำไม้หมอนจากป่าในจังหวัดสุราษฎร์ธานีส่งให้การรถไฟ ค่าไม้หมอนจ่ายกันที่พระนครโจทก์ต้องไปควบคุมดูแลกิจการทำไม้หมอน เดือนละครั้งสองครั้งครั้งละ 3-4 วันเนื่องจากที่พักคนงานอยู่ในป่าห่างตลาดราว 10 กิโลเมตร เมื่อตรวจดูกิจการแล้วโจทก์ก็กลับมาอาศัยค้างคืนที่บ้านของ ส. ในตลาดตามปกติโจทก์ไปจ่ายค่าจ้างคนงานที่ในป่า แต่มีอยู่บ้างที่คนงานมาขอรับเงินจากโจทก์ในขณะที่พักอยู่ที่บ้านของ ส. ดังนี้จะถือว่าโจทก์ใช้บ้านของ ส.เป็นสถานการค้าตามเจตนารมณ์ของมาตรา 78 แห่งประมวลรัษฎากรตามที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยฉบับที่ 10 พ.ศ.2496 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชิดตัวแทนและหลักการรับผิดชอบของตัวการ จำเลยต้องหลงเชื่อว่าเป็นกิจการของตัวการ
การที่จะถือว่าเป็นตัวแทนเชิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มารตรา 821 นั้น บุคคลภายนอกจะต้องรับติดต่อโดยหลงเข้าใจว่าเป็นกิจการของตัวการถ้าไม่หลงเช่นนั้น กล่าวคือ เชื่อว่าเป็นกิจการของผู้มาติดต่อเอง ก็ไม่ใช่กรณีตามมาตรา 821
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิด: ความเข้าใจผิดในกิจการ
การที่จะถือว่าเป็นตัวแทนเชิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821 นั้น บุคคลภายนอกจะต้องรับติดต่อโดยหลงเข้าใจว่าเป็นกิจการของตัวการ ถ้าไม่หลงเช่นนั้น กล่าวคือ เชื่อว่าเป็นกิจการของผู้มาติดต่อเอง ก็ไม่ใช่กรณีตาม มาตรา 821
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 704/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนบริษัทจำกัด: การรับผิดจากกิจการของตัวแทน แม้ไม่มีการแสดงเจตนาโดยตรงจากบริษัท
อัยการดำเนินกิจการบริษัทจำกัดนั้น บริษัทหาจำต้องแสดงเจตนาโดยผู้เทนของบริษัทจำกัดเสมอไปไม่ บริษัทอาจถือเอาประโยชน์และต้องรับผิดจากการกระทำโดยทางตัวแทนของบริษัทก็ได้
ถ้าข้อเท็จจริงเป็นที่เห็นได้ว่าบริษัทจำเลยได้เชิดบุคคลหนึ่งหรือกว่านั้นให้เป็นตัวแทนของบริษัทจำเลยในการซื้อขายกับบริษัทโจทก์ย่อมถือได้แล้วว่าบริษัทจำเลยต้องรับผิดจากการกระทำโดยทางตัวแทนที่ตนเชิดนั้น
ตามที่ประทับบนเอกสารปรากฏชัดเจนว่าเป็นตราชื่อบริษัทจำเลย บริษัทจำเลยจะโต้แย้งว่ไม่ใช่หรือมีการปลอมแปลงอย่างไรก็น่าที่จำเลยจะสืบแสดงให้ชัดเจนได้โดยง่าย คำของพยานจำเลยที่เพียงเบิกความว่าจำไม่ได้หาทำให้ตราชื่อของบริษัทจำเลยเป็นตราปลอมไปไม่ได้.
ถ้าข้อเท็จจริงเป็นที่เห็นได้ว่าบริษัทจำเลยได้เชิดบุคคลหนึ่งหรือกว่านั้นให้เป็นตัวแทนของบริษัทจำเลยในการซื้อขายกับบริษัทโจทก์ย่อมถือได้แล้วว่าบริษัทจำเลยต้องรับผิดจากการกระทำโดยทางตัวแทนที่ตนเชิดนั้น
ตามที่ประทับบนเอกสารปรากฏชัดเจนว่าเป็นตราชื่อบริษัทจำเลย บริษัทจำเลยจะโต้แย้งว่ไม่ใช่หรือมีการปลอมแปลงอย่างไรก็น่าที่จำเลยจะสืบแสดงให้ชัดเจนได้โดยง่าย คำของพยานจำเลยที่เพียงเบิกความว่าจำไม่ได้หาทำให้ตราชื่อของบริษัทจำเลยเป็นตราปลอมไปไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำแทนบริษัท: แม้ไม่มีการลงนามตามข้อบังคับ ก็ผูกพันบริษัทได้หากทำเพื่อกิจการ
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยโดยร่วมกันและแทนกันได้ซื้อเชื่อสิ่งของต่าง ๆ และจ้างโจทก์ติดตั้งไฟฟ้ารวมเป็นเงิน 14,405 บาท ขอให้ร่วมกันและแทนกันใช้เงินพร้อมด้วยดอกเบี้ย ดังนี้ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมเพราะโจทก์พรรณาความชัดแจ้งพอที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ดีแล้ว
เมื่อฟังว่าจำเลยที่ 2 ซื้อของจากโจทก์และจ้างโจทก์เพื่อกิจการของบริษัทจำเลยที่ 1 หรือนัยหนึ่งได้ทำการแทนจำเลยที่ 1 ซึ่งได้รับและใช้ประโยชน์ไปเสร็จแล้ว ไม่จำต้องให้กรรมการลงนามและประทับตราของบริษัทตามข้อบังคับ บริษัทจำเลยที่ 1 ก็หาพ้นความรับผิดไม่.
เมื่อฟังว่าจำเลยที่ 2 ซื้อของจากโจทก์และจ้างโจทก์เพื่อกิจการของบริษัทจำเลยที่ 1 หรือนัยหนึ่งได้ทำการแทนจำเลยที่ 1 ซึ่งได้รับและใช้ประโยชน์ไปเสร็จแล้ว ไม่จำต้องให้กรรมการลงนามและประทับตราของบริษัทตามข้อบังคับ บริษัทจำเลยที่ 1 ก็หาพ้นความรับผิดไม่.