พบผลลัพธ์ทั้งหมด 931 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมวันเวลาทำผิดในฟ้องอาญา: ศาลอนุญาตได้หากไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
การขอเพิ่มเติมฟ้องอ้างเหตุความพลั้งเผลอถือว่ามีเหตุสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 วรรคแรก
การขอเพิ่มเติมวัน เวลาทำผิดในฟ้องเดิมเป็นการขอเพิ่มเติมรายละเอียดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา164 การขอเพิ่มเติมรายละเอียดที่มิได้กล่าวไว้เช่นนี้ ไม่ว่าทำในระยะใดในระหว่างพิจารณาในศาลชั้นต้น มิให้ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ในข้อนั้น ก็ให้รับคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์
การขอเพิ่มเติมวัน เวลาทำผิดในฟ้องเดิมเป็นการขอเพิ่มเติมรายละเอียดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา164 การขอเพิ่มเติมรายละเอียดที่มิได้กล่าวไว้เช่นนี้ ไม่ว่าทำในระยะใดในระหว่างพิจารณาในศาลชั้นต้น มิให้ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ในข้อนั้น ก็ให้รับคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า หากสัญญาเช่าเดิมรวมกับสัญญาใหม่ สัญญาเดิมย่อมระงับ
การที่ผู้เช่าจะให้เช่าช่วงที่ที่เช่ามาจากผู้ให้เช่าได้ ต้องนำสืบได้ว่าได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า การที่จำเลยผู้เช่านำสืบได้เพียงว่าในการให้เช่าช่วงนั้นผู้ให้เช่าเพียงรู้หรือควรรู้เท่านั้นยังไม่พอ
จำเลยผู้เช่าที่ได้ทำสัญญาเช่าที่ 2 คราว คราวแรกและคราวที่ 2 ในการเช่าคราวหลัง(คราวที่ 2) ได้ขยายบริเวณเช่าออกไปอีกมากกว่าเก่า และนำเอาสัญญาเช่าเก่ามารวมกับสัญญาใหม่ด้วย เช่นนี้ ถือว่าสัญญาเช่าที่ทำครั้งแรกระงับไป
จำเลยผู้เช่าที่ได้ทำสัญญาเช่าที่ 2 คราว คราวแรกและคราวที่ 2 ในการเช่าคราวหลัง(คราวที่ 2) ได้ขยายบริเวณเช่าออกไปอีกมากกว่าเก่า และนำเอาสัญญาเช่าเก่ามารวมกับสัญญาใหม่ด้วย เช่นนี้ ถือว่าสัญญาเช่าที่ทำครั้งแรกระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1520/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีไม้แปรรูปเกิน 0.20 ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่จำกัดว่าเป็นเจ้าของหรือผู้แปรรูป
การมีไม้แปรรูปเป็นจำนวนเกิน 0.20 เมตรลูกบาศก์ไว้ในความครอบครอง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตนั้น ไม่จำกัดว่าต้องเป็นผู้แปรรูปไม้เอง เป็นผู้ตั้งโรงแปรรูปไม้หรือตั้งไรงค้าไม้แปรรูปไม้ ก.ม.ไม่ได้บัญญัติว่าผู้แปรรูปไม้ ฯลฯ หรือมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองต้องเป็นเจ้าของไม้แปรรูปนั้น ก.ม.บัญญัติเพียงว่า ผู้ทำการแปรรูปไม้ ฯลฯ ตลอดจนผู้มีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองต้องได้รับอนุญาตตามความใน พ.ร.บ.ป่าไม้ทั้งนั้น แม้จะเป็นเพียงผู้จัดการแทนผู้อื่นก็ตาม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1520/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้แปรรูปเกิน 0.20 ลบ.ม. ต้องได้รับอนุญาต แม้เป็นผู้จัดการแทนผู้อื่น
การมีไม้แปรรูปเป็นจำนวนเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในความครอบครอง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตนั้น ไม่จำกัดว่าต้องเป็นผู้แปรรูปไม้เอง เป็นผู้ตั้งโรงแปรรูปไม้หรือตั้งโรงค้าไม้แปรรูปกฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าผู้แปรรูปไม้ ฯลฯหรือมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองต้องเป็นเจ้าของไม้แปรรูปนั้น กฎหมายบัญญัติเพียงว่า ผู้ทำการแปรรูปไม้ ฯลฯ ตลอดจนผู้มีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองต้องได้รับอนุญาตตามความใน พระราชบัญญัติป่าไม้ทั้งนั้น แม้จะเป็นเพียงผู้จัดการแทนผู้อื่นก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำชำเราสำส่อนที่ไม่ผิดกฎหมาย และการริบเงินค่าจ้าง
การที่หญิงรับจ้างให้ชายกระทำชำเราสำส่อนนั้นยังไม่เป็นความผิด ความผิดเกิดขึ้นเพราะไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าพนักงานเสียก่อนเท่านั้น เงินค่าจ้างที่จำเลยได้รับมาจากการให้ชายทำชำเรา จึงไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยได้มาโดยได้กระทำผิด ตามความในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 27(2) จะริบเงินนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักลอบนำเข้าทองคำโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดเกิดขึ้นเมื่อซ่อนทองในเรือ
จำเลยลักลอบซ่อนทองคำมาในเรือโดยไม่รับอนุญาต เมื่อเรือเข้าจอดท่าเรือที่จังหวัดสมุทรปราการ ถึงแม้จำเลยจะยังมิได้นำทองขึ้นจากเรือ ความผิดก็เกิดขึ้นแล้ว
ทองคำของกลางต้องริบตาม พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่9) พ.ศ.2482 ม.17.
ทองคำของกลางต้องริบตาม พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่9) พ.ศ.2482 ม.17.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักลอบนำเข้าทองคำโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดเกิดขึ้นแม้ยังไม่ได้นำขึ้นจากเรือ
จำเลยลักลอบซ่อนทองคำมาในเรือโดยไม่รับอนุญาตเมื่อเรือเข้าจอดท่าเรือที่จังหวัดสมุทรปราการ ถึงแม้จำเลยจะยังมิได้นำทองขึ้นจากเรือ ความผิดก็เกิดขึ้นแล้ว
ทองคำของกลางต้องริบตาม พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 มาตรา17
ทองคำของกลางต้องริบตาม พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 มาตรา17
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายเนื้อสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตและการออกประกาศควบคุมการค้าที่เกินอำนาจ
ตาม พระราชบัญญัติอากรฆ่าสัตว์ พ.ศ.2488 บัญญัติไว้ว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้เพื่อขายซึ่งทรากสัตว์ฯ" แต่โจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยมีเนื้อกระบือชำแหละไว้เพื่อจำหน่ายฯลฯ" มิได้ใช้คำว่ามีไว้เพื่อขายก็ดี แต่คำว่าขายก็รวมอยู่ในคำว่าจำหน่ายด้วยทั้งฐานความผิดที่โจทก์หาโจทก์ก็ได้ตั้งข้อหาว่าจำเลยทำผิดฐานสมคบกันมีทรากกระบือไว้เพื่อขายโดยไม่มีใบอนุญาตกำกับคำขอให้ลงโทษก็เป็นเรื่องหาว่ามีไว้เพื่อขายและจำเลยก็รับสารภาพว่าได้ทำผิดตามฟ้องโจทก์เช่นนี้ถือว่าจำเลยมีเนื้อกระบือชำแหละไว้เพื่อขายลงโทษจำเลยในฐานนี้ได้
ประกาศของคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดพระนครฉบับที่ 37 ลงวันที่ 5 ต.ค.96 ซึ่งประกาศห้ามมิให้ผู้ใดนำเนื้อกระบือชำแหละเข้ามาในเขตเทศบาลโดยฝ่าฝืนต่อประกาศดังกล่าวฉบับนั้นประกาศฉบับนี้ออกโดยอาศัยอำนาจตามความใน พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร มาตรา8(6),(8) แต่ไม่ปรากฏในคดีนี้ว่าได้มีการห้ามการค้ากำไรเกินควรในเนื้อโคหรือกระบือชำแหละเลยทั้งข้ออ้างของกรรมการในการออกประกาศก็ว่าเพื่อสวัสดิภาพของประชาชนผู้บริโภคและเพื่อช่วยสงวนพันธุ์โคกระบือสำหรับเกษตรกรรมด้วยหาใช่เพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควรไม่ เมื่อเช่นนี้จึงถือว่าประกาศฉบับนี้นอกเหนือวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควรจึงไม่มีอากรบังคับดังนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 737/2497
ประกาศของคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดพระนครฉบับที่ 37 ลงวันที่ 5 ต.ค.96 ซึ่งประกาศห้ามมิให้ผู้ใดนำเนื้อกระบือชำแหละเข้ามาในเขตเทศบาลโดยฝ่าฝืนต่อประกาศดังกล่าวฉบับนั้นประกาศฉบับนี้ออกโดยอาศัยอำนาจตามความใน พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร มาตรา8(6),(8) แต่ไม่ปรากฏในคดีนี้ว่าได้มีการห้ามการค้ากำไรเกินควรในเนื้อโคหรือกระบือชำแหละเลยทั้งข้ออ้างของกรรมการในการออกประกาศก็ว่าเพื่อสวัสดิภาพของประชาชนผู้บริโภคและเพื่อช่วยสงวนพันธุ์โคกระบือสำหรับเกษตรกรรมด้วยหาใช่เพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควรไม่ เมื่อเช่นนี้จึงถือว่าประกาศฉบับนี้นอกเหนือวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควรจึงไม่มีอากรบังคับดังนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 737/2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 572/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต การแจ้งรายละเอียดประกาศทางราชการในฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต โดยกล่าวในฟ้องว่าประกาศของกระทรวงเกษตรได้คัดสำเนาปิดไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอที่ว่าการกำนันและที่สาธารณะแล้วนั้นเป็นฟ้องที่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158 แล้ว ไม่จำต้องมีสำเนาประกาศแนบมาท้ายฟ้องด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2136/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดให้เล่นการพนันสลากกินแบ่งโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้แอบอิงสลากรัฐบาลก็ถือเป็นความผิด
ซื้อสลากกินแบ่งของรัฐบาลมาแบ่งเป็นชุด แต่ละชุดเอามาพิมพ์เป็นใบรวมหุ้นนำออกขายได้กำไรเกินไปกว่าราคาเดิมที่รัฐบาลขายด้านหลังใบรวมหุ้นวางเงื่อนไขการให้รางวัลไว้ ซึ่งต่ำกว่าอัตรารางวัลที่กองสลากของรัฐบาลจ่าย แล้วอาศัยวิธีออกสลากของรัฐบาล ดั่งนี้มีลักษณะเป็นเรื่องค้าและเสี่ยงโชคในการพนันโดยนำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจัดทำเป็นสลากขึ้นใหม่ มีรางวัลและการได้เสียเป็นการเสี่ยงโชคพนันเอาทรัพย์สินกัน จึงเป็นผิดฐานออกสลากกินแบ่งโดยไม่ได้รับอนุญาต