คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การต่อสู้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 63 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสืบพยานทำลายล้างเอกสาร: การต่อสู้ว่าสัญญาเกิดจากการฉ้อโกง
จำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ว่า ไม่ได้กู้และกล่าวต่อไปว่าถ้ามีสัญญากู้จริง โจทก์ก็ทำขึ้นเพื่อฉ้อโกงจำเลย โดยโจทก์เอาสัญญาให้จำเลยเซ็น และไปกรอกข้อความเอาโดยลำพังดังนี้จำเลยย่อมมีอำนาจสืบพยานตามที่ต่อสู้ได้ เพราะเป็นการสืบเพื่อทำลายล้างเอกสารทั้งฉบับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1348/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำเพื่อจับกุมผู้ร้ายและการป้องกันตัวในสถานการณ์ชุลมุน ถือเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ
มีคนเอาปืนยิงมารดาของเพื่อน จึงจะเข้าจับคนร้าย แต่คนร้ายกลับชักมีดทำร้ายผู้จับ ผู้จับจึงกอดปล้ำต่อสู้ เมื่อแย่งมีดได้ก็แทงผู้ร้ายไป 1 ที ผู้ร้ายล้มลงก็เอาเชือกมัด ดังนี้แม้ผู้+จะถึงตายก็ถือได้ว่ากระทำการจับกุมผู้ร้ายและป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ ได้รับการยกเว้นโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการฟ้องคดีละเมิด: โจทก์ต้องแสดงเหตุแห่งการละเมิดตามที่ฟ้อง หากอ้างแต่การกระทำละเมิดโดยไม่แสดงสภาพของเรื่อง ศาลไม่อาจรับฟังข้อต่อสู้เกินขอบเขต
โจทก์ฟ้องกล่าวเป็นใจความว่า จำเลยไม่มีอำนาจอันชอบด้วยกฎหมายที่จะเก็บสิ่งของในตึก ซึ่งโจทก์ได้ให้ผู้อื่นเช่าเป็นการรบกวนผู้เช่าจะใช้ประโยชน์ในที่เช่า ขอให้บังคับให้จำเลยขนย้ายไป จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยเป็นผู้เช่าอยู่อาศัยในตึกนี้มาราว 20 ปีเศษแล้ว ดังนี้ เห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องอ้างเหตุเพียงว่าจำเลยเอาของไว้ในตึกเป็นการละเมิดเท่านั้น มิได้แสดงถึงการเช่าของจำเลย ฉะนั้นโจทก์จะสืบถึงว่าแม้จะมีการเช่า จำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ย่อมเป็นเรื่องห่างไกลประเด็นที่กล่าวในฟ้อง ศาลย่อมไม่รับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ด้วยอาวุธ การพิสูจน์เจตนาฆ่า และความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
จำเลยเตะผู้ตายสองทีก่อนผู้ตายชักมีดออกจะต่อสู้ จำเลยชักมีดออกบ้าง ต่างเดินเข้าหากันและต่างใช้มีดแทงต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตายถูกใต้รักแร้ 1 ที ผู้ตายวิ่งหนีไปล้มลงถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันตัว แต่จำเลยกับผู้ตายต่างมีมีดเข้าต่อสู้แทงทำร้ายกัน ผู้ตายถูกแทงแต่เพียง 1 ที ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยก็ไม่ได้ติดตามไปทำร้ายซ้ำเติมอีก วินิจฉัยว่าจำเลยมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันทรัพย์และตนเอง: การใช้กำลังเพื่อป้องกันการลักทรัพย์และการต่อสู้
ผู้ตายลักทรัพย์ของจำเลยจำเลยติดตามมา ผู้ตายหันหน้ากลับมาต่อสู้ด้วยมีดปาดตาลจำเลยจึงตีผู้ตายด้วยเสียม ซึ่งเป็นวัตถุที่ธรรมดามิใช่สาตราวุธจำเลยตีเพียงหนึ่งหรือสองที ผู้ตายก็วิ่งหนีไปดังนี้เรียกได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันทรัพย์และตนพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเหตุบรรดาลโทษะ แม้จำเลยไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ในชั้นต้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 249, 335(13) ก.ม.ลักษณะอาญา จำเลยให้การต่อสู้ว่าทำโดยป้องกันตัว ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 251 จำเลยอุทธรณ์ว่าทำโดยป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ ดังนี้ ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาชี้ขาดว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันตัวตามกฎหมาย แต่จำเลยกระทำโดยบรรดาลโทษะให้ลงโทษจำเลยเพียงกึ่งหนึ่งตาม มาตรา 55 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ - การต่อสู้คดีเรื่องกรรมสิทธิ์ - การสืบพยานนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่วัด จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทไม่ใช่ของวัดหรือของพระครูโสร์ แต่เป็นของจำเลยเช่นนี้ ไม่ถือว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยอ้างกรรมสิทธิ์ การที่โจทก์สืบพยานว่าที่เป็นของวัดและวัดได้มาอย่างไรนั้นเป็นการสืบไม่นอกฟ้องนอกประเด็นแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบในคดีแพ่ง: การสืบพยานที่ผิดหน้าที่นำสืบทำให้สิทธิเรียกร้องสูญเสีย
คดีที่สาลกะประเด็นไห้ฝ่ายไดมีหน้าที่นำสืบและฝ่ายนั้นไม่คัดค้านหย่างไดถือว่าเปนการนำสืบที่สมบูรน์แล้ว , โจทฟ้องขอไห้ขับไล่จำเลยไห้การว่า โจทยกไห้และครอบครองที่มา ชั้นพิจารนากลับนำสืบว่าที่พิพาทเปนของนางหมิเช่นนี้ สาลต้องฟังว่าที่พิพาทเปนของโจท ๆ มิได้ยกไห้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวที่เกินเหตุ: การทำร้ายต่อเนื่องหลังจากการต่อสู้เริ่มต้น
จำเลยทำร้ายเขาก่อนแล้ววิ่งหนี เขาวิ่งตามไปในขณะนั้น จะเพื่อจับหรือต่อยตอบก็ดี จำเลยกลับเอาไม้ตีเขา+ ลงไปอีกถึงบาดเจ็บดังนี้ จะอ้างว่าตีโดยป้องกันตัวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีหนี้สิน: เจ้าหนี้ที่แท้จริง และการต่อสู้เรื่องเจ้าของเงินกู้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้กู้จากโจทก์ เป็นแต่เคยเซ็นชื่อในหนังสือกู้ให้จำเลยที่ 3 ไว้ และจำเลยที่ 3 เป็นเจ้าของเงิน ภายหลังหนังสือกู้ไปตกอยู่ที่โจทก์โดยภรรยาจำเลยเอาไปให้โจทก์ดังนี้ จำเลยนำพะยานมาสืบได้
of 7