พบผลลัพธ์ทั้งหมด 137 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1037/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสารวัตรกำนันในการจับกุมและการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
สารวัตกำนันเป็นผู้ช่วยกำนัน เมื่อกำนันมีหน้าที่และอำนาจจับกุมผู้กระทำผิด สารวัตรกำนันก็ย่อมช่วยกำนันทำการจับกุมผู้กระทำผิดนี้ ไม่จำเป็นจะต้องให้กำนันเรียกร้องให้ช่วยหรือต้องมีตัวกำนันอยู่ด้วย เพราะกฎหมายให้มีหน้าที่ช่วยกำนันอยู่ในตัวเป็นปกติแล้ว เมื่อจำเลยต่อสู้และทำร้ายสารวัตรกำนันในการจับกุมจำเลยและควบคุมจำเลยส่งพนักงานสอบสวน ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยต่อสู้ผู้ต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 และทำร้ายผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานตาม มาตรา 289 อันเป็นความผิดตามมาตรา 296
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยบันดาลโทษาจากเหตุถูกข่มเหง: การต่อสู้ป้องกันตัวและสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความบันดาลโทษา
ผู้ตายได้มาร้องด่าท้าทาย พ่อตาจำเลยและจำเลยอยู่ที่ประตูรั้วบ้านด้วยถ้อยคำหยาบช้าต่าง ๆ แล้วจำเลยกระโจนลงจากเรือนไป เมื่อผู้ตายเข้ามาในบริเวณ บ้านเกิดต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันผู้ตายมีมีดยาวประมาณ 1 ศอกจำเลยมีหอกยาว 140 ซ.ม. ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ ถือว่า จำเลยได้กระทำโดยบันดาลโทษา โดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม
จำเลยถูกผู้ตายร้องค่าท้ายทายก่อนถึง 2 ครั้ง ในระยะใกล้ชิดติดกัน ผู้ตายยังบังอาจถือมีดเข้ามาในลานบ้านของจำเลยอีกดังนี้ เป็นเหตุให้ศาลลงโทษาสถานเบา
จำเลยถูกผู้ตายร้องค่าท้ายทายก่อนถึง 2 ครั้ง ในระยะใกล้ชิดติดกัน ผู้ตายยังบังอาจถือมีดเข้ามาในลานบ้านของจำเลยอีกดังนี้ เป็นเหตุให้ศาลลงโทษาสถานเบา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวและทรัพย์สิน: เหตุสมควรต่อสู้เมื่อผู้ลักทรัพย์ทำร้าย
ผู้ตายกับจำเลยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่มีเหตุโกรธเคืองกัน ผู้ตายได้ลักลูกโคของจำเลยมาฆ่าและเตรียมจะหามไป จำเลยตามมาพบเข้าจึงเกิดต่อสู้กัน ต่างฝ่ายต่างมีมีด ในที่สุดผู้ตายก็ตาย ทำร้ายกันอย่างไรไม่ปรากฏ เช่นนี้ถือว่า เป็นเรื่องจำเลยป้องกันตัวและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและทรัพย์: จำเลยต่อสู้กับผู้ลักทรัพย์ที่ทำร้ายถึงแก่ความตาย ศาลยกฟ้อง
ผู้ตายกับจำเลยไม่เคยรู้จักกันมาก่อนไม่มีเหตุโกรธเคืองกัน ผู้ตายได้ลักลูกโคของจำเลยมาฆ่าและเตรียมจะหามไป จำเลย ตามมาพบเข้าจึงเกิดต่อสู้กัน ต่างฝ่ายต่างมีมีด ในที่สุดผู้ตายก็ตาย ทำร้ายกันอย่างไรไม่ปรากฏ เช่นนี้ถือว่า เป็นเรื่องจำเลยป้องกันตัวและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 539/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ป้องกันตัวชอบด้วยกฎหมาย: กรณีถูกกลุ้มรุมทำร้าย
ผู้ตายกับพวกโกรธจำเลย เมื่อผู้ตายกับพวกพบจำเลยมาคนเดียวก็กลุ้มรุมจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงต้องต่อสู้ป้องกันตัว ผู้ตายถูกมีดจำเลย และแล้วก็ตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1657/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธมีด แรงและไม่เกิดจากการต่อสู้
จำเลยแทงผู้ตายด้วยมีดปลายแหลมของกลางซึ่งยาวมาก แทงตรงที่อกซ้ายทะลุปอดและหัวใจ แสดงว่าแทงโดยแรงและไม่ได้แทงในขณะที่ต่อสู้กัน ดังนี้เป็นการกระทำโดยเจตนาจะฆ่าตาม มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ การต่อสู้ และการพิจารณาความจำเป็นในการกระทำเพื่อป้องกันภัย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251,55 จำคุกจำเลย 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 249,53 จำคุก 2 ปี ดังนี้เป็นแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249,53 (ประชุมใหญ่)
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249,53 (ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายที่ไม่ถึงบาดเจ็บและการไม่มีลักษณะเป็นการบังอาจ
จำเลยใช้กำลังทำร้ายนายเทียม โดยต่อสู้กันแต่นายเทียมไม่มีบาดเจ็บ จำเลยยังไม่ผิดตามกฏหมายลักษณะอาญา มาตรา 338(3) เพราะไม่เป็นการบังอาจ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้โดยไม่บาดเจ็บ: ไม่ถือเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
จำเลยใช้กำลังทำร้ายนายเทียม โดยต่อสู้กัน แต่นายเทียมไม่มีบาดเจ็บ จำเลยยังไม่ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 338(3) เพราะไม่เป็นการบังอาจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขู่ด้วยอาวุธเพื่อเรียกทรัพย์: การกระทำเข้าข่ายทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพ แม้จะมีการต่อสู้
ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเข้าไปทำเจ้าทุกข์แล้วพูดขอเงินเจ้าทุกข์ตอบว่าไม่มี จำเลยชักมีดปลายแหลมออกจากเอวเงื้อง่าทำท่าจะแทงแล้วพูดว่าให้หรือไม่ให้แล้วจำเลยก็แทงไปเจ้าทุกข์หลบเสียทันแล้วรวบแขนจำเลยกอดตัวไว้เรียกให้คนช่วยมีตำรวจมาช่วยจำเลยจึงถูกจับถือว่าจำเลยใช้สาตราวุธขู่ให้เจ้าทุกข์ส่งเงินให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพเมื่อโจทก์บรรยายในข้อหาฐานนี้ด้วยก็ลงโทษจำเลยได้