พบผลลัพธ์ทั้งหมด 89 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องความผิดเช็ค: ผู้เสียหายคือผู้ทรงเช็ค ณ วันปฏิเสธการจ่ายเงิน แม้จะมีการนำเช็คกลับมาเรียกเก็บอีกครั้งก็ไม่ทำให้เกิดความผิดซ้ำ
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นเกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ทรงเช็ค โจทก์ก็ไม่เป็นผู้เสียหาย แม้ต่อมาโจทก์จะได้รับเช็คดังกล่าวมาแล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารและถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีก ไม่ว่าจำเลยจะตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินอีกหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยซึ่งเป็นความผิดแล้วกลับเป็นความผิดซ้ำขึ้นมาอีก โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3308/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิดเช็ค: เริ่มนับเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ไม่ใช่เมื่อนำเช็คไปขึ้นเงิน
โจทก์ร่วมมีเช็คของจำเลยในธนาคารเดียวกันซึ่งถึงกำหนดแล้วรวม 4 ฉบับได้นำเช็คไปขึ้นเงินในวันที่ 19 มีนาคม 2519 สองฉบับ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ต่อมาโจทก์ร่วมได้นำเช็คอีก 2 ฉบับในคดีนี้ไปขึ้นเงินเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2519 เช่นนี้ ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็ค เช็ค 4 ฉบับ ฉบับแยกการกระทำออกจากกันได้เป็น 4 กรรม จึงไม่จำเป็นต้องนำไปขึ้นเงินพร้อมกัน เมื่อธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็ค 2 ฉบับ คดีนี้ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2519 และโจทก์ร่วมร้องทุกข์ยังไม่เกิน 3 เดือน คดีจึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3308/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิดเช็ค: เริ่มนับเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ไม่ใช่เมื่อรู้ความผิด
โจทก์ร่วมมีเช็คของจำเลยในธนาคารเดียวกันซึ่งถึงกำหนดแล้วรวม 4 ฉบับ ได้นำเช็คไปขึ้นเงินในวันที่ 19 มีนาคม 2519 สองฉบับ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ต่อมาโจทก์ร่วมได้นำเช็คอีก 2 ฉบับในคดีนี้ไปขึ้นเงินเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2519 เช่นนี้ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็ค เช็ค 4 ฉบับแยกการกระทำออกจากกันได้เป็น 4 กรรม จึงไม่จำเป็นต้องนำไปขึ้นเงินพร้อมกัน เมื่อธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็ค 2 ฉบับคดีนี้ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2519 และโจทก์ร่วมร้องทุกข์ยังไม่เกิน 3 เดือน คดีจึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2252/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิดเช็ค: เริ่มนับจากปฏิเสธการจ่ายเงิน แม้เป็นการปฏิเสธด้วยวาจา
เมื่อโจทก์นำเช็คไปเบิกเงิน ธนาคารมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินตามเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 991 แต่ปรากฏว่าเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจะจ่ายตามเช็คนั้น จึงให้ติดต่อกับผู้สั่งจ่าย ถือได้ว่าธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น แม้จะเป็นการปฏิเสธด้วยวาจา เพราะตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดวันจากการใช้เช็คก็ดี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช็คก็ดีไม่ได้บัญญัติไว้ว่าการปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คต้องทำเป็นหนังสือ ความผิดของจำเลยจึงเกิดขึ้นตั้งแต่วันนั้น เมื่อโจทก์มิได้ร้องทุกข์และนำคดีมาฟ้องภายหลังรู้เรื่องความผิด และรู้ว่าจำเลยกระทำความผิดเป็นเวลา 8 เดือนเศษคดีโจทก์ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2252/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีเช็ค: การปฏิเสธการจ่ายเงินด้วยวาจาถือเป็นจุดเริ่มต้นนับอายุความ
เมื่อโจทก์นำเช็คไปเบิกเงิน ธนาคารมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินตามเช็ค ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 991 แต่ปรากฏว่าเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจะจ่ายตามเช็คนั้น จึงให้ติดต่อกับผู้สั่งจ่าย ถือได้ว่าธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น แม้จะเป็นการปฏิเสธด้วยวาจา เพราะตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คก็ดี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช็คก็ดี ไม่ได้บัญญัติไว้ว่าการปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คต้องทำเป็นหนังสือ ความผิดของจำเลยจึงเกิดขึ้นตั้งแต่วันนั้น เมื่อโจทก์มิได้ร้องทุกข์และนำคดีมาฟ้องภายหลังรู้เรื่องความผิด และรู้ว่าจำเลยกระทำความผิดเป็นเวลา 8 เดือนเศษ คดีโจทก์ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังเช็ค แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
เมื่อเช็คพิพาทมีรายการครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988 แม้ธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วก็ยังเป็นเช็คตามความหมายแพ่งมาตรา 987 อันจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตาม มาตรา 900 เมื่อจำเลยที่ 2 เอาเช็คดังกล่าวมาแลกเงินจากโจทก์และสลักหลังมอบเช็คนั้นให้โจทก์ โจทก์ย่อมเป็นผู้มีเช็คไว้ในความครอบครองในฐานเป็นผู้รับสลักหลัง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตามมาตรา 905 และเมื่อเช็คดังกล่าวเป็นเช็คซึ่งสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังย่อมเป็นประกัน (อาวัล) สำหรับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายมีความรับผิดอย่างเดียวกับบุคคลซึ่งตนประกันตาม มาตรา 921, 940 ประกอบด้วยมาตรา 989 และจะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายรับผิดตามเช็คพิพาทต่อโจทก์ ตามมาตรา 967 ประกอบด้วย 989 แม้จำเลยที่ 2 จะสลักหลังเช็คหลังจากที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นแล้ว ก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นจากความผิดตามเช็คพิพาทต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังเช็ค แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
เมื่อเช็คพิพาทมีรายการครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 988 แม้ธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วก็ยังเป็นเช็คตามความหมายแห่งมาตรา 987 อันจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตาม มาตรา 900 เมื่อจำเลยที่ 2 เอาเช็คดังกล่าวมาแลกเงินจากโจทก์และสลักหลังมอบเช็คนั้นให้โจทก์โจทก์ย่อมเป็นผู้มีเช็คไว้ในความครอบครองในฐานเป็นผู้รับสลักหลัง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตามมาตรา 904 และเมื่อเช็คดังกล่าวเป็นเช็คซึ่งสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังย่อมเป็นประกัน(อาวัล) สำหรับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายมี ความรับผิดอย่างเดียวกับบุคคลซึ่งตนประกันตาม มาตรา 921,940 ประกอบด้วยมาตรา 989 และจะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายรับผิดตามเช็คพิพาทต่อโจทก์ ตามมาตรา 967 ประกอบด้วย 989 แม้จำเลยที่ 2 จะสลักหลังเช็คหลังจากที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นแล้ว ก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นจากความรับผิดตามเช็คพิพาทต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีเช็ค: การยื่นเช็คซ้ำไม่เริ่มนับอายุความใหม่ ความผิดเกิดเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
โจทก์ยื่นเช็คต่อธนาคาร ธนาคารให้ติดต่อผู้สั่งจ่ายเป็นการปฏิเสธการใช้เงินแล้ว อายุความเริ่มนับ โจทก์ยื่นเช็คนั้นต่อธนาคารอีก ไม่ทำให้เริ่มนับอายุความใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้เสียหายในความผิดเช็ค: ผู้ทรงเช็ค ณ วันปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นผู้เสียหาย แต่เพียงผู้เดียว
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ให้โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมสลักหลังส่งมอบเช็คนั้นชำระหนี้ให้ ซ. ซ. นำเช็คไปยื่นเข้าบัญชีที่ธนาคาร ธนาคารผู้จ่ายปฏิเสธการจ่ายเงินวันที่ธนาคารปฏิเสธนั้นเป็นวันเกิดเหตุ เพราะความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อขณะนั้น ซ.เป็นผู้ทรงเช็ค ซ.จึงเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา แม้ต่อมาโจทก์ร่วมจะได้ชำระเงินตามเช็คให้ ซ.ไปแล้ว ก็ไม่ก่อให้โจทก์ร่วมเกิดสิทธิเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ไม่มีสิทธิร้องทุกข์ การสอบสวนของเจ้าพนักงานสอบสวนซึ่งโจทก์ร่วมเป็นผู้ร้องทุกข์จึงไม่ชอบ เท่ากับไม่มีการสอบสวนตามกฎหมาย พนักงานอัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และโจทก์ร่วมไม่มีอำนาจเข้าเป็นโจทก์ร่วม
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2520
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2520
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้เสียหายในคดีเช็ค: สิทธิร้องทุกข์เป็นของผู้ทรงเช็ค ณ วันธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ให้โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมสลักหลังส่งมอบเช็คนั้นชำระหนี้ให้ ซ. ซ. นำเช็คไปยื่นเข้าบัญชีที่ธนาคาร ธนาคารผู้จ่ายปฏิเสธการจ่ายเงินวันที่ธนาคารปฏิเสธนั้นเป็นวันเกิดเหตุเพราะความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อขณะนั้น ซ. เป็นผู้ทรงเช็ค ซ. จึงเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา แม้ต่อมาโจทก์ร่วมจะได้ชำระเงินตามเช็คให้ ซ. ไปแล้วก็ไม่ก่อให้โจทก์ร่วมเกิดสิทธิเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ไม่มีสิทธิร้องทุกข์ การสอบสวนของเจ้าพนักงานสอบสวนซึ่งโจทก์ร่วมเป็นผู้ร้องทุกข์จึงไม่ชอบเท่ากับไม่มีการสอบสวนตามกฎหมาย พนักงานอัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และโจทก์ร่วมไม่มีอำนาจเข้าเป็นโจทก์ร่วม(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2520)