คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลไม่อนุญาต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 88 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมคำให้การที่ซ้ำกับข้อต่อสู้เดิม ไม่ถือเป็นการยกข้อต่อสู้ใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงข้ออ้าง
จำเลยขอยื่นคำให้การเพิ่มเติมซ้ำกับข้อต่อสู้เดิม คำให้การที่ขอเพิ่มเติมจึงไม่เป็นคำให้การที่ยกข้อต่อสู้ขึ้นใหม่หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้ออ้าง ข้อเถียง ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 179(3)
คำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การที่ไม่เป็นสาระแก่คดี ศาลไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมก็ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องล้มละลายซ้ำ: ศาลไม่อนุญาตหากเจ้าหนี้ไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายก่อนหน้า
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ 2 จำนวน โจทก์เคยฟ้องจำเลยให้ล้มละลายในหนี้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่โจทก์ไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ทั้ง 2 จำนวนในกำหนดศาลจึงสั่งยกเลิกการล้มละลายเสีย ดังนี้ โจทก์จะเอาหนี้ 2 จำนวนนั้นมาฟ้องล้มละลายอีกไม่ได้ เพราะถ้ายอมให้ฟ้องได้ก็เท่ากับอนุญาตให้ขยายระยะเวลาขอรับชำระหนี้อันผิดบทบัญญัติในพระราชบัญญัติล้มละลาย
การที่ศาลจะสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือให้ล้มละลายนั้นย่อมทำให้ลูกหนี้ถูกจำกัดสิทธิและไม่สามารถจัดกิจการทรัพย์สินได้ด้วยตนเองจึงต้องเป็นไปโดยมีเหตุสมควรจริงๆ ไม่ใช่ให้ใช้กฎหมายล้มละลายเป็นเครื่องมือบีบคั้นลูกหนี้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องในฐานะเจ้าหนี้ของบุคคลอื่น มิได้เป็นลูกหนี้เอง ศาลไม่อนุญาต
จำเลยมิใช่เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้อง ผู้ร้องเป็นแต่เพียงเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของภริยา (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) ของจำเลย จะมาร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในคดีที่จำเลยถูกยึดทรัพย์เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาโดยอ้างว่าโจทก์ได้นำยึดทรัพย์ของจำเลยซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยทำมาหาได้ร่วมกับภริยามาเสียหมดแล้ว หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องที่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ: ศาลไม่อนุญาตหากเป็นการกล่าวอ้างการกระทำผิดใหม่
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยทุจริต ยักยอกเงินผลประโยชน์และเงินประเภทต่าง ๆ ของเทศบาลรวมเงิน 33,449 บาท 42 สตางค์ จำเลยให้การปฏิเสธ สืบพยาน 4 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องโดยแยกลักษณะ ประเภทเงิน และจำนวนเงินเพิ่มขึ้นอีก 155,079 บาท 76 สตางค์ และจำนวนเงินตามรายการที่เพิ่มเติมขึ้นใหม่ ไม่ได้แจ้งข้อหาให้จำเลยทราบ และสอบสวนในข้อหาใหม่ดังนี้ คำร้องขอแก้ฟ้องของโจทก์เป็นการกล่าวอ้างการกระทำผิดของจำเลยขึ้นใหม่ จึงทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติม ฟ้องไม่ได้ เป็นการต้องห้ามตาม มาตรา 164 ตอนต้นของ ป.วิ.อ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องขออนาถาแล้วกลับมาขออนาถาใหม่หลังขาดอายุอุทธรณ์ ศาลไม่อนุญาต
เดิมจำเลยยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา จำเลยแถลงในวันนัดไต่สวนว่า พยานมาไม่ครบและว่าเพื่อไม่ให้ยุ่งยาก จำเลยขอขยายอายุอุทธรณ์ไป 15 วัน เพื่อนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระศาลอนุญาต เช่นนี้ มีผลเสมอด้วยจำเลยขอถอนคำร้องขออนาถาเสียแล้ว ต่อมาเมื่อครบกำหนดดังกล่าว จำเลยจะมาแถลงว่าหาเงินค่าธรรมเนียมไม่ได้ ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอใหม่ และขอขยายอายุอุทธรณ์ (เมื่อขาดอายุอุทธรณ์แล้ว) อีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำให้การทั้งหมดและการยื่นคำให้การใหม่พ้นกำหนด: ศาลไม่อนุญาต
จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีแพ่งแล้ว ต่อมาขอยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมเสียทั้งหมด แล้วขอให้การใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับคำให้การเดิมเลย ถ้าให้ถอนไปหมดเท่ากับคำให้การเดิมไม่มี ทั้งการยื่นคำให้การใหม่พ้นกำหนดเวลาแห่งกฎหมาย เช่นนี้ศาลไม่อนุญาตให้ ๆ การใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำให้การทั้งหมดและการยื่นคำให้การใหม่พ้นกำหนดเวลา ศาลไม่อนุญาต
จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีแพ่งแล้ว ต่อมาขอยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมเสียทั้งหมดแล้วขอให้การใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับคำให้การเดิมเลยถ้าถอนไปหมดเท่ากับคำให้การเดิมไม่มีทั้งการยื่นคำให้การใหม่พ้นกำหนดเวลาแห่งกฎหมายเช่นนี้ศาลไม่อนุญาตให้ให้การใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมคำร้องขัดทรัพย์หลังศาลไม่อนุญาต และผลกระทบต่อการนำสืบพยานหลักฐาน
ผู้ร้อง ร้องขัอทรัพย์ว่า ทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้องขัดทรัพย์ ได้รับมรดกมาแต่ผู้เดียว
โจทก์ให้การแก้ว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลยด้วยครึ่งหนึ่ง โดยจำเลยเป็นน้องผู้ร้อง และผู้ร้องกับจำเลยทำสัญญาแบ่งมรดกกันคนละครึ่ง
ภายหลังวันชี้สองสถานแล้ว ผู้ร้องขอเพิ่มเติมคำร้องขัดทรัพย์ว่าหลังจากทำสัญญาแบ่งทรัพย์กับจำเลยแล้ว จำเลยได้มาขอเงินจากผู้ร้องไปจำนวนหนึ่ง แล้วทำสัญญาไม่ขอเกี่ยวข้องกับทรัพย์พิพาทอีกต่อไป แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำร้องขัดทรัพย์ได้ ดังนี้ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิจะนำสืบตามที่อ้างขึ้นมาใหม่ เพราะเมื่อข้ออ้างใหม่ศาลไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมจึงไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณา จะถือว่าเป็นการสืบหักล้างข้อกล่าวอ้างของโจทก์ ที่กล่าวอ้างไว้ในคำให้การไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานสรรพสามิตแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จต่อศาล แม้ศาลไม่อนุญาตเป็นโจทก์ร่วม ก็ยังมีความผิดฐานฟ้องเท็จ
จำเลยทราบดีว่าโจทก์ขายบุหรี่ด้วยเงินเชื่อและไม่เกินราคา จำเลยได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน จนเจ้าพนักงานได้ดำเนินคดีฟ้องโจทก์ หาว่าขายบุหรี่เกินราคา และจำเลยได้ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการแต่ศาลไม่อนุญาตดังนี้จำเลยย่อมมีความผิดฐานฟ้องเท็จด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีเนื่องจากความผิดของจำเลยและทนาย ทำให้ศาลไม่อนุญาตให้สืบพยานเพิ่มเติม
ศาลพิจารณาสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว นัดเลื่อนไปสืบพยานจำเลย ถึงกำหนดนัดจำเลย ทนายและพยานไม่มาศาล รุ่งขึ้นจำเลยมายื่นคำร้องว่า เป็นเพราะทนายจำเลยพลั้งเผลอ จดวันนัดผิดไป ดังนี้ ศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวนว่าเป็นความจริงตามคำร้องหรือไม่ เพราะแม้เป็นความจริงตามคำร้องก็ยังเป็นความผิดของฝ่ายจำเลยเอง ศาลจึงย่อมมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าสืบได้ทีเดียว
of 9