พบผลลัพธ์ทั้งหมด 103 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 966/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักวันต้องขังจากกรณีควบคุมตัวตามประกาศคณะปฏิวัติไม่เกี่ยวเนื่องกับคดีปัจจุบัน
การที่จำเลยถูกควบคุมในข้อหาประพฤติตนเป็นคนอันธพาลตามประกาศหัวหน้าคณะปฏิวัติ แต่ไม่ถูกควบคุมในคดีที่ศาลพิจารณาพิพากษานั้น จะเอาวันต้องถูกควบคุมฐานเป็นอันธพาลมาหักไม่ได้ เพราะกรณีไม่เข้าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 966/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักวันต้องขังจากกรณีถูกควบคุมตัวในข้อหาอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ศาลพิจารณา
การที่จำเลยถูกควบคุมในข้อหาประพฤติตนเป็นคนอันธพาลตามประกาศหัวหน้าคณะปฏิวัติ แต่ไม่ถูกควบคุมในคดีที่ศาลพิจารณาพิพากษานั้น จะเอาวันต้องถูกควบคุมฐานเป็นอันธพาลมาหักไม่ได้ เพราะกรณีไม่เข้าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การควบคุมตัวผู้ต้องหาอย่างเกินความจำเป็นและทำให้ได้รับความอับอาย ถือเป็นความผิดทางอาญา
การควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีการพนันโดยใส่กุญแจมือล่ามโซ่เพื่อให้ผู้ต้องหาอับอายนั้นเป็นการมิชอบด้วย วิ.อาญา มาตรา 86 และย่อมเป็นผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การควบคุมตัวผู้ต้องหาเกินความจำเป็นทำให้เกิดความอับอาย เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีการพนันโดยใส่กุญแจมือล่ามโซ่เพื่อให้ผู้ต้องหาอับอายนั้นเป็นการมิชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 86 และย่อมเป็นผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลบหนีการควบคุมตัว: การปล่อยตัวชั่วคราวทำให้สิ้นสุดการควบคุมตามกฎหมาย
ผู้ใหญ่บ้านไปจับจำเลยในคดีที่หาว่าจำเลยเบิกความเท็จแล้วพาตัวไปอำเภอ แต่ความปรากฎว่าระหว่างทางผู้ใหญ่บ้านให้จำเลยข้ามคลองไปก่อนและจำเลยว่าจะไปคอยข้างหน้า ผู้ใหญ่บ้านอนุญาตดังนี้การที่จำเลยไปแล้วกลับหลบหลีกไม่ไปอำเภอเช่นนี้ จะฟังว่าจำเลยหลบหนีในระหว่างคุมขังตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.163 ยังไม่ได้ ในระหว่างนั้น จำเลยไม่ได้อยู่ในความควบคุมหรือคุมขังของผู้ใหญ่บ้าน ได้ความดังนี้แล้ว ปัญหาอื่นเรื่องผู้ใหญ่บ้านจะมีอำนาจจับกุมและการจับกุมจะต้องมีหมายจับหรือไม่ ๆ จำเป็นต้องวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลบหนีระหว่างควบคุมตัว: การควบคุมตัวต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ผู้ใหญ่บ้านไปจับจำเลยในคดีที่หาว่าจำเลยเบิกความเท็จแล้วพาตัวไปอำเภอแต่ความปรากฏว่าระหว่างทางผู้ใหญ่บ้านให้จำเลยข้ามคลองไปก่อนและจำเลยว่าจะไปคอยข้างหน้าผู้ใหญ่บ้านอนุญาตดังนี้การที่จำเลยไปแล้วกลับหลบหลีกไม่ไปอำเภอเช่นนี้จะฟังว่าจำเลยหลบหนีในระหว่างคุมขังตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 163 ยังไม่ได้เพราะในระหว่างนั้นจำเลยไม่ได้อยู่ในความควบคุมหรือคุมขังของผู้ใหญ่บ้านได้ความดังนี้แล้วปัญหาอื่นเรื่องผู้ใหญ่บ้านจะมีอำนาจจับกุมและการจับกุมจะต้องมีหมายจับหรือไม่ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานในคดีอาญา: พยานพฤติการณ์แวดล้อม, การควบคุมตัว, และการปั้นเรื่องเพื่อกลบเกลื่อนความผิด
ในคดีฆาตกรรมนั้นไม่จำเป็นต้องมีประจักษ์พยานรู้เห็นในขณะกระทำผิดเสมอไป พยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีอันมั่นคงก็เพียงพอรับฟังมาลงโทษจำเลยได้
ข้อเท็จจริงได้ความแต่เพียงว่าจำเลยที่ 1 รายงานแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรมโดยอ้างว่าจำเลยทั้ง 5 ยิงต่อสู้กับผู้ร้าย 5-6 คนในตอนกลางคืนซึ่งไม่ใช่ความจริง เป็นการปั้นเรื่องขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนการฆ่าผู้ตาย เพียงเท่านี้เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดยืนยันว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้ตายในตอนใดเสียเลยแล้วเช่นนี้ ศาลจะฟังแต่เพียงถ้อยคำอันไม่ใช่ความจริงของจำเลยเองมาลงโทษจำเลยในคดีเรื่องฆ่าคนตายอันมีโทษอุกฤษฎ์โดยไม่มีพยานโจทก์ยืนยันความผิดของจำเลยไม่ได้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยเหล่านี้ทำผิด
ข้อเท็จจริงได้ความแต่เพียงว่าจำเลยที่ 1 รายงานแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรมโดยอ้างว่าจำเลยทั้ง 5 ยิงต่อสู้กับผู้ร้าย 5-6 คนในตอนกลางคืนซึ่งไม่ใช่ความจริง เป็นการปั้นเรื่องขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนการฆ่าผู้ตาย เพียงเท่านี้เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดยืนยันว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้ตายในตอนใดเสียเลยแล้วเช่นนี้ ศาลจะฟังแต่เพียงถ้อยคำอันไม่ใช่ความจริงของจำเลยเองมาลงโทษจำเลยในคดีเรื่องฆ่าคนตายอันมีโทษอุกฤษฎ์โดยไม่มีพยานโจทก์ยืนยันความผิดของจำเลยไม่ได้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยเหล่านี้ทำผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยในการคัดเลือกทหาร: การถูกควบคุมตัวจากเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถเข้ารับการคัดเลือกได้
จำเลยไม่มาให้คัดเลือกเข้ารับราชการทหาร เพราะในวันคัดเลือกนั้นระหว่างทางจำเลยถูกเจ้าพนักงานจับน้ำตาลเมาเพียงเล็กน้อยและต้องถูกควบคุมไว้ และไม่ยอมให้จำเลยมีประกันตัวจนเป็นเหตุให้จำเลยมาให้กรรมการตรวจคัดเลือกไม่ทันตามกำหนดเวลา ดังนี้ย่อมเป็นเหตุสุดวิสัยของจำเลยตาม ม.23(3) แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. 2479
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยในการคัดเลือกทหาร: การถูกควบคุมตัวจากเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถเข้ารับการคัดเลือกได้
จำเลยไม่มาให้คัดเลือกเข้ารับราชการทหาร เพราะในวันคัดเลือกนั้นระหว่างทางจำเลยถูกเจ้าพนักงานจับน้ำตาลเมาเพียงเล็กน้อยและต้องถูกควบคุมไว้ และไม่ยอมให้จำเลยมีประกันตัวจนเป็นเหตุให้จำเลยมาให้กรรมการตรวจคัดเลือกไม่ทันตามกำหนดเวลา ดังนี้ย่อมเป็นเหตุสุดวิสัยของจำเลยตามมาตรา 23(3) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2479
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การควบคุมตัวผู้ต้องหาและการขังขังเกินสมควรแก่เหตุ ศาลมีอำนาจพิจารณาความจำเป็นในการขัง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 เป็นบทบัญญัติคุ้มครองผู้ต้องหามิให้ต้องถูกควบคุมหรือกักขังนานเกินสมควรแก่เหตุ และความจำเป็น ฉะนั้น เมื่อศาลสั่งไม่ยอมออกหมายขังผู้ต้องหาต่อไปเพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะขังแล้ว ก็ไม่เป็นเหตุที่จะอุทธรณ์ฎีกา เพื่อให้ขังผู้ต้องหาต่อไปอีกได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/96)