คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิ้นสุด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 200 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2572/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสมาชิกภาพสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจหลังพ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
โจทก์เป็นพนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจฟ้องขอให้บังคับจำเลยรับจดทะเบียนให้โจทก์เป็นกรรมการของสหภาพแรงงานรวมพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518ในมาตรา 4 (4) เป็นว่า พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่กิจการรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 95 วรรคสอง เป็นว่า ห้ามมิให้พนักงานและฝ่ายบริหารตามกฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์เป็นสมาชิกของสหภาพแรงงาน กับได้มีพระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2534 มาตรา 55 วรรคแรก บัญญัติว่า บรรดาสหภาพแรงงานของรัฐวิสาหกิจซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ให้เป็นอันสิ้นสุดลง โจทก์จึงไม่อาจเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานได้ คดีของโจทก์ไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาต่อไป จึงต้องจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2572/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมาชิกภาพสหภาพแรงงานของพนักงานรัฐวิสาหกิจสิ้นสุดลงตามกฎหมายใหม่
โจทก์เป็นพนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจฟ้องขอให้บังคับ จำเลยรับจดทะเบียนให้โจทก์เป็นกรรมการของสหภาพแรงงานรวมพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ในมาตรา 4(4) เป็นว่าพระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่กิจการรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 95วรรคสอง เป็นว่า ห้ามมิให้พนักงานและฝ่ายบริหารตามกฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์เป็นสมาชิกของสหภาพแรงงาน กับได้มีพระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2534 มาตรา 55วรรคแรก บัญญัติว่า บรรดาสหภาพแรงงานของรัฐวิสาหกิจซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ให้เป็นอันสิ้นสุดลง โจทก์จึงไม่อาจเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานได้ คดีของโจทก์ไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาต่อไป จึงต้องจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1705/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ย่อมสิ้นสุดเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืน
ศาลชั้นต้นยกคำร้องของโจทก์ที่ขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดโจทก์อุทธรณ์ และขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งห้ามทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่พิพาทในระหว่างอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ให้คุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวของโจทก์ระหว่างอุทธรณ์จึงเป็นอันยกเลิกไปในตัวตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 260(1) ฎีกาของผู้ซื้อทรัพย์ที่ขอให้ยกเลิกคำสั่งของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวจึงไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิ้นสุดสมาชิกภาพสภาเทศบาลเนื่องจากระยะเวลาดำรงตำแหน่งเกินห้าปี
ผู้คัดค้านได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองนนทบุรีเมื่อนับถึงวันที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาเป็นเวลาเกินกว่าห้าปีแล้ว สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลของผู้คัดค้านย่อมสิ้นสุดลง คดีที่ผู้ร้องร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านพ้นจากสมาชิกภาพของสภาเทศบาลเมืองนนทบุรีจึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยอีกต่อไป ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความของศาลฎีกา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน สิทธิในการอยู่อาศัยตามสัญญาสามารถโอนได้แม้หลังคู่สัญญาสิ้นชีวิต
เดิม จำเลยฟ้องขับไล่บิดาโจทก์ ให้รื้อถอนโรงเรือนในที่ดินจำเลย บิดาโจทก์กับจำเลยตกลง กันได้ โดย ทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้บิดาโจทก์และบุตรพร้อมด้วย บริวารของบิดาโจทก์และผู้เช่าโรงเรือนจากบิดาโจทก์อาศัยในที่ดินได้ 30 ปี และจำเลยได้ จดทะเบียนภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์ว่า ที่ดินแปลงนี้อยู่บังคับภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์ โดยบิดาโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์อาศัยปลูกโรงเรือนในที่ดินดังกล่าวมีกำหนด 30 ปี ดังนี้ ข้อตกลงตาม สัญญาประนีประนอมยอมความในศาลเป็นสัญญาอันหนึ่ง ซึ่ง มีเนื้อความชัดเจนว่า ให้บุตรจำเลยคือโจทก์ในคดีนี้อยู่ในที่พิพาทได้ เป็นเวลา 30 ปี ข้อตกลงเช่นนี้ ไม่ขัดต่อกฎหมายจึงใช้ บังคับได้ เมื่อโจทก์ได้ แสดงเจตนาถือ เอาประโยชน์แห่งสัญญาจำเลยก็ต้อง ปฏิบัติตาม สัญญานั้น การที่จำเลยไม่ ยินยอมให้โจทก์หรือบริวารโจทก์อยู่ในที่ดินโดย จำเลยได้ รื้อถอนโรงเรือนของโจทก์ออกไปเป็นการผิดสัญญา และละเมิดต่อ โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสิทธิครอบครองที่ดินจากการละทิ้ง และการได้มาซึ่งสิทธิครอบครองใหม่ของผู้อื่น
ที่ดินพิพาทโจทก์มีแต่ สิทธิครอบครอง เมื่อโจทก์ละทิ้ง ที่ดิน พิพาทมานานถึง 7-8 ปี ถือ ได้ ว่าโจทก์สละเจตนาครอบครองหรือ ไม่ยึดถือทรัพย์สินพิพาทต่อไปการครอบครองของโจทก์ย่อมสุดสิ้นลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 1377 ดังนี้ เมื่อจำเลยเข้ายึดถือที่ดิน พิพาททำประโยชน์ปลูกยางพาราโดย เจตนายึดถือเพื่อตน หลังจากการครอบครองของโจทก์สุดสิ้นแล้ว ดังนี้ จำเลยได้ สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทตาม ป.พ.พ. มาตรา 1367 และไม่เป็นการละเมิดต่อ โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คประกันหนี้ระงับสิ้นเมื่อหนี้เดิมสิ้นสุด โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยออกเช็ค ตาม ฟ้องให้แก่บริษัท บ. เพื่อเป็นประกันหนี้การขายลดเช็คของ ส. ผู้ที่จำเลยนำมาติดต่อ กับบริษัท บ. แต่เมื่อหนี้ตามเช็ค ของ ส. ได้ มีการชำระหมดสิ้นไปแล้ว หนี้ตาม เช็คที่โจทก์นำมาฟ้องจึงเป็นอันระงับสิ้นไปด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการคุมประพฤติและการสิ้นสุดการรอการลงโทษ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกา
ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด3เดือนและปรับ1,500บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้2ปีคุมประพฤติ1ปีโดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ3เดือนต่อครั้งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา56จำเลยไม่ไปรายงานตัวตามกำหนดศาลชั้นต้นยกเลิกการคุมประพฤติและเปลี่ยนโทษจากการรอการลงโทษจำคุกเป็นไม่รอการลงโทษเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค3พิพากษาแล้วคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค3ย่อมเป็นที่สุดตามพระราชบัญญัติวิธีดำเนินการคุมประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญาพ.ศ.2522มาตรา17วรรคสองจำเลยจะฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4570/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมาชิกภาพสภาเทศบาลสิ้นสุดเมื่ออุปสมบท แม้ลาสิกขาแล้วก็ยังคงสิ้นสุดตามกฎหมาย
ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 บัญญัติไว้ว่า สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลย่อมสิ้นสุดลงเมื่อผู้นั้นมีลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง อันรวมถึงการเป็นภิกษุด้วย ซึ่งหมายความถึงผู้ได้รับเลือกตั้งจนเข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่สมาชิกสภาเทศบาลโดยสมบูรณ์แล้วจะต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่สภาเทศบาลนั้นทันทีที่ได้อุปสมบทเป็นภิกษุโดยไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นเพียงชั่วคราวแล้วลาสิกขาหรือไม่ก็ตาม กฎหมายหาได้ห้ามการเป็นภิกษุเฉพาะแต่ในวันเลือกตั้งหรือสมัครรับเลือกตั้งไม่ ผู้คัดค้านจึงพ้นจากสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลตำบลท่าเรือตั้งแต่วันเป็นภิกษุโดยผลแห่งกฎหมายดังกล่าว
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 57 อยู่ในหมวดที่ว่าด้วยการคัดค้านการเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่กฎหมายให้ผู้เลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบคน หรือผู้สมัครคนใดคนหนึ่งมีสิทธิร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับ เลือกตั้งโดยชอบ ผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ หรือไม่มีบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ ซึ่งจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้ง บทบัญญัติดังกล่าวมิได้บังคับถึงกรณีที่เทศบาลยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งว่าสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลของสมาชิกคนหนึ่งคนใดสิ้นสุดลงดังเช่นคดีนี้ คดีของผู้ร้องจึงไม่อยู่ภายใต้บังคับของบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ผู้ร้องหาจำต้องยื่นคำร้องต่อศาลภายใน 15 วัน นับตั้งแต่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4570/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมาชิกภาพสภาเทศบาลสิ้นสุดเมื่ออุปสมบท แม้ลาสิกขาแล้ว และคดีไม่ขาดอายุความ
ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 บัญญัติไว้ว่า สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลย่อมสิ้นสุดลงเมื่อผู้นั้นมีลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง อันรวมถึงการเป็นภิกษุด้วย ซึ่งหมายความถึงผู้ได้รับเลือกตั้งจนเข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่สมาชิกสภาเทศบาลโดยสมบูรณ์แล้วจะต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่สภาเทศบาลนั้นทันทีที่ได้อุปสมบทเป็นภิกษุโดยไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นเพียงชั่วคราวแล้วลาสิกขาหรือไม่ก็ตาม กฎหมายหาได้ห้ามการเป็นภิกษุเฉพาะแต่ในวันเลือกตั้งหรือสมัครรับเลือกตั้งไม่ผู้คัดค้านจึงพ้นจากสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลตำบลท่าเรือตั้งแต่วันเป็นภิกษุโดยผลแห่งกฎหมายดังกล่าว พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482มาตรา 57 อยู่ในหมวดที่ว่าด้วยการคัดค้านการเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่กฎหมายให้ผู้เลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบคน หรือผู้สมัครคนใดคนหนึ่งมีสิทธิร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับ เลือกตั้งโดยชอบ ผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ หรือไม่มีบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ ซึ่งจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้ง บทบัญญัติดังกล่าวมิได้บังคับถึงกรณีที่เทศบาลยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งว่าสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลของสมาชิกคนหนึ่งคนใดสิ้นสุดลงดังเช่นคดีนี้ คดีของผู้ร้องจึงไม่อยู่ภายใต้บังคับของบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ผู้ร้องหาจำต้องยื่นคำร้องต่อศาลภายใน 15 วัน นับตั้งแต่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้งไม่.
of 20