พบผลลัพธ์ทั้งหมด 104 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการพิจารณาพยานหลักฐาน: คำเบิกความในศาลมีน้ำหนักกว่าคำให้การชั้นสอบสวน
คำพยานที่เบิกความชั้นศาลมิได้ผูกมัดศาลให้รับฟังทั้งหมดศาลมีอำนาจชั่งน้ำหนักแล้วชี้ขาดว่าควรฟังแค่ไหนเพียงใดหรือไม่ และคำพยานชั้นสอบสวนนั้นก็ไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังแต่อย่างใดเลย ฉะนั้นศาลจะฟังหรือไม่เพียงใดก็สุดแต่เหตุผลของแต่ละเรื่องไป
พยานที่ให้การชั้นสอบสวนไว้อย่างหนึ่งภายหลังให้การชั้นศาลไปอีกอย่างหนึ่งนั้น ศาลจะฟังหรือไม่อย่างใดก็สุดแต่ดุลพินิจของศาล ใช่ว่าในกรณีเช่นนี้ผูกมัดจะให้ศาลต้องรับฟังถ้อยคำของพยานที่ให้การในชั้นศาลเสมอไป
พยานที่ให้การชั้นสอบสวนไว้อย่างหนึ่งภายหลังให้การชั้นศาลไปอีกอย่างหนึ่งนั้น ศาลจะฟังหรือไม่อย่างใดก็สุดแต่ดุลพินิจของศาล ใช่ว่าในกรณีเช่นนี้ผูกมัดจะให้ศาลต้องรับฟังถ้อยคำของพยานที่ให้การในชั้นศาลเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างคำเบิกความจากคดีอื่นที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการ จึงรับฟังเป็นพยานไม่ได้
ระบุอ้างคำเบิกความของพยานซึ่งเบิกความไว้ในคดีอื่น เป็นพยานแต่มิได้ขอร้องและเสียค่าธรรมเนียนตามกระ บวนวิธีพิจารณาอย่างไร นั้น ศาลย่อมรับฟังคำเบิกความนั้นเป็นพยาน ไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างคำเบิกความพยานจากคดีอื่นที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการพิจารณา ศาลไม่รับฟังเป็นพยาน
ระบุอ้างคำเบิกความของพยานซึ่งเบิกความไว้ในคดีอื่นเป็นพยาน แต่มิได้ขอร้องและเสียค่าธรรมเนียมตามกระบวนวิธีพิจารณาแต่อย่างไร นั้น ศาลย่อมรับฟังคำเบิกความนั้นเป็นพยานไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของวันเกิดเหตุในคำเบิกความและคำให้การชั้นสอบสวนมีผลต่อการพิพากษาคดีอาญา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ในระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน,แต่พยานโจทก์ทุก คนเบิกความว่า การกระทำผิดเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 11,12 มิถุนายน ดังนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา ต่างกับฟ้องต้องพิพากษายกฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความขัดแย้งในคำเบิกความของพยานระหว่างชั้นสอบสวนและชั้นศาล ศาลไม่รับฟังและยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า วันเกิดเหตุคือคืนวันที่ 5 - 6 พ.ค. 91 (ตรงกับวันแรม 11 - 12 ค่ำ เดือน 5) พะยานโจทก์เบิกความว่า วันเกิดเหตุคือ คืนวันแรม 13 - 14 ค่ำ เดือน 5 โจทก์จึงส่งคำให้การชั้นสอบสวนของนายนุ้ยพะยานโจทก์เป็นพะยานต่อศาล ซึ่งในชั้นสอบสวนนายนุ้ยเบิกความว่าเป็นวันที่ 5 - 6 พ.ค. 91 และจะขอสืบเจ้าพนักงานสอบสวนว่านายนุ้ยพะยานโจทก์ได้ให้การไว้ดังนั้นจริง ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพะยานโจทก์ต่อไป และพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะถึงสืบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่เป็นหลักฐานคำพะยานที่จะยืนยันได้ว่าคำเบิกความของพะยานในศาลนั้นไม่ตรงกับความจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างของวันเกิดเหตุในฟ้องและคำเบิกความของพยาน ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยลักทรัพย์เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2490 พะยานโจทก์เบิกความว่า จำเลยลักทรัพย์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2490 ต้องถือว่า จำเลยไม่ได้ทำความผิดดังที่กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างของวันเกิดเหตุในคำฟ้องและคำเบิกความ ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยลักทรัพย์เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2490 พยานโจทก์เบิกความว่า จำเลยลักทรัพย์เมื่อวันที่12 มิถุนายน 2490 ต้องถือว่า จำเลยไม่ได้ทำความผิดดังที่กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอการลงอาญาถูกเพิกถอนเมื่อปรากฏประวัติเคยต้องโทษจากคำเบิกความพยาน
ในฟ้องโจทก์และคำให้การของจำเลยไม่มีปรากฏว่า จำเลยเคยต้องโทษมาแล้วหรือไม่ ต่อเมื่อจำเลยเบิกความเป็นพยานตนเองจำเลยเบิกความว่าเคยต้องโทษมาแล้ว เช่นนี้ศาลย่อมฟังว่าจำเลยเคยต้องโทษมาแล้วคดีจึงรอการลงอาญาจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้คำเบิกความของจำเลยร่วมเป็นหลักฐานลงโทษจำเลยอื่นไม่ชอบ
ในคดีอาญา ศาลจะฟังคำเบิกความของจำเลยคนหนึ่ง ซึ่งอ้างตนเองเป็นพะยานมาลงโทษจำเลยอีกคนหนึ่งไม่ได้เพราะเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลยคนนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้คำเบิกความของจำเลยร่วมในการลงโทษจำเลยอื่นเป็นพยานไม่ได้
ในคดีอาญา ศาลจะฟังคำเบิกความของจำเลยคนหนึ่งซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานมาลงโทษจำเลยอีกคนหนึ่งไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลยคนนั้น