พบผลลัพธ์ทั้งหมด 137 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1738/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรและการฆ่าโดยไม่เจตนา: การถือมีดรอต่อสู้และการแทงในระหว่างการป้องกันตัว
ผู้ตายกับจำเลยเดินมาด้วยกัน ผู้ตายเมาสุราจนเดินโซเซและไม่มีอาวุธอะไร ย่อมเห็นได้ว่าไม่มีความจำเป็นอันใด ที่จำเลยจะต้องทำร้ายผู้ตายเลยแต่จำเลยกลับไปยืนถือมีดคอยทีอยู่อีก เมื่อผู้ตายวิ่งเข้าชกจำเลย จำเลยก็แทงเอา เช่นนี้จะเรียกว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันชีวิต เกียรติยศชื่อเสียงหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องเพิ่มเติมสถานที่เกิดเหตุไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ หากไม่หลงข้อต่อสู้เดิม
การขอเพิ่มเติมตำบลที่เกิดเหตุนั้น เป็นการขอแก้รายละเอียด ซึ่งต้องแถลงในฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 164 โจทก์จะร้องขอแก้ในระยะใดระหว่างพิจารณาในศาลชั้นต้น ก็ไม่ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบ เว้นแต่จำเลยได้หลงต่อสู้ในข้อที่ผิดหรือที่มิได้กล่าวไว้นั้น
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจทก์ เจ้าพนักงานจับโคของกลางได้จากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธข้อหาต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ และว่าเจ้าพนักงานมิได้จับโคของกลางได้จากจำเลยดังนี้ การที่โจทก์ขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องว่า เหตุได้เกิดที่ตำบลอีกตำบลหนึ่งด้วย ย่อมเห็นได้ว่าไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ในข้อที่โจทก์มิได้กล่าวไว้แต่อย่างใด โจทก์จึงแก้ไขหรือเพิ่มเติมฟ้องได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจทก์ เจ้าพนักงานจับโคของกลางได้จากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธข้อหาต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ และว่าเจ้าพนักงานมิได้จับโคของกลางได้จากจำเลยดังนี้ การที่โจทก์ขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องว่า เหตุได้เกิดที่ตำบลอีกตำบลหนึ่งด้วย ย่อมเห็นได้ว่าไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ในข้อที่โจทก์มิได้กล่าวไว้แต่อย่างใด โจทก์จึงแก้ไขหรือเพิ่มเติมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ป้องกันตัว: การกระทำเกินสมควรแก่เหตุเมื่อถูกทำร้ายต่อเนื่อง
จำเลยมิได้เป็นผู้ก่อให้เกิดเหตุร้ายขึ้น แต่ผู้ตายไปดักคอยทำร้ายจำเลยกลางทาง จำเลยหนีไปเป็นระยะทางถึง 4 เส้น ผู้ตายก็ยังไล่ติดตามจะทำร้ายจำเลย จำเลยหนีขึ้นไปบนเรือนแล้ว ผู้ตายก็ยังบุกรุกตามขึ้นไปอีก และโดดแทงจำเลยด้วยมีดก่อน จำเลยจึงต่อสู้ป้องกันตัว แม้จำเลยฟันผู้ตายทีหนึ่งแล้ว ผู้ตายทรุดตัวลงนั่งก็ดี แต่ก็ยังกำมีดอยู่ ยากที่จำเลยจะคิดเห็นได้ว่าตนพ้นอันตรายแล้ว ผู้ตายอาจผลุนผลันลุกขึ้นทำร้ายอีกก็ได้ จำเลยจึงฟันผู้ตายอีกทีหนึ่ง ผู้ตายจึงล้มลงแล้วจำเลยก็มิได้ทำอันตรายอีก ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยไม่เกินสมควรแก่เหตุ ได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการนำสืบพยานบุคคลเพื่อต่อสู้ว่าสัญญาไม่สมบูรณ์เนื่องจากถูกหลอกลวง
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินกู้ตามสัญญากู้ จำเลยให้การว่าสัญญารายนี้ไม่สมบูรณ์เพราะจำเลยมิได้กู้เงินเอาเงินของโจทก์ไปเลย หากแต่จำเลยถูกหลอกลวงให้พิมพ์ลายมือลงในสัญญา ดังนี้จำเลยย่อมมีสิทธินำพยานบุคคลเข้าสืบประกอบข้อต่อสู้ของจำเลยได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวในภาวะฉุกเฉิน: การใช้มีดต่อสู้การทำร้ายด้วยอาวุธอื่น
จำเลยกับผู้ตายเดินมาด้วยกัน พอมาระหว่างทางเวลากลางคืน ผู้ตายเอาไม้ตะพดตีจำเลยก่อน แล้วยังตีจำเลยอีก 2-3 ที จำเลยจึงเอามีปลายแหลมแทงชุ่ยไป 2-3 ทีบ้างถูกผู้ตายดังนี้ ถือว่าเป็นการต่อต้านในเวลาฉุกละหุกฉุกเฉิน เป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษ ตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวฉุกเฉิน: การใช้มีดต่อสู้การทำร้ายด้วยอาวุธ ศาลยกเว้นโทษ
จำเลยกับผู้ตายเดินมาด้วยกัน พอมาระหว่างทางเวลากลางคืนผู้ตายเอาไม้ตะพดตีจำเลยก่อน แล้วยังตีจำเลยอีก 2-3 ที จำเลยจึงเอามีดปลายแหลมแทงชุ่ยไป 2-3 ทีบ้างถูกผู้ตาย ดังนี้ ถือว่าเป็นการต่อต้านในเวลาฉุกละหุกฉุกเฉิน เป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า - การทำร้ายด้วยมีดขณะต่อสู้ - มาตรา 251
เกิดต่อว่าโต้เถียงกันเรื่องเล็กน้อย แล้วจำเลยเอามีดของผู้ตายที่วางไว้ใช้ทางแบนตีศีรษะผู้ตายก่อน 2-3 ที เกิดต่อสู้กอดปล้ำกัน จำเลยแทงผู้ตายขณะกอดปล้ำกันชุลมุนเพียง 1 ที ผู้ตายตาย ดังนี้ ฟังว่า จำเลยมิได้เจตนาฆ่ามีความผิดเพียงมาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตอบรับคำชวนวิวาท: การพิจารณาความสมัครใจในการต่อสู้เพื่อมีอำนาจฟ้อง
จำเลยกับผู้ถูกทำร้ายมีสาเหตุกันอยู่ก่อน ขณะเกิดเหตุผู้ถูกทำร้ายยืนดูรำโทนอยู่ จำเลยมาเรียกแลถามว่า"อ้ายทองจะเอาหรือ" ผู้ถูกทำร้ายตอบว่า"เอา" ทันใดจำเลยก็แทงผู้ถูกทำร้าย 3 ที คิด ๆ กัน ดังนี้จะฟังว่าผู้ถูกทำร้ายสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้กับจำเลยยังไม่ได้อำนาจฟ้องของโจทก์ ผู้ถูกทำร้ายหาเสียไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: การใช้กำลังเพื่อต่อสู้ภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตหรือกาย
ผู้ตายใช้มีดเหน็บปลายแหลมยาวราว 1 ศอกเศษเข้าไปฟันเขาถึงในห้อง เขาหลบไปจนติดฝาห้องและร้องห้ามก็ไม่ฟังและยังเข้าไปจะฟันอีก เขาจึงคว้ามีดข้าง+แทงเพียง 1 ทีถูกผู้ตายตายดังนี้รูปคดีฟังได้ว่าเป็นการกระทำโดยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามปล้นทรัพย์ด้วยการขู่เข็ญและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
จำเลยกับพวกรวมกันกว่า 3 คน มีศาตราวุธมาเรียกผู้เสียหายในเวลาดึก เพื่อทำการชิงทรัพย์ แต่หากผู้เสียหายรู้ทันไม่ยอมเปิด และเจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับเสียก่อน ทั้งพวกจำเลยยังได้ใช้ปืนยิงต่อสู้เจ้าพนักงานเพื่อให้หลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาอีก ดังนี้ ย่อมเป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์