คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิสูจน์ความผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 154 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1522/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานบอกเล่าในคดีอาญา: ดุลพินิจศาลและการพิสูจน์ความผิด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 95 ซึ่งนำมาใช้ในการพิจารณาคดีอาญา โดยอาศัยมาตรา 15 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแม้จะบัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานบุคคลใด เว้นแต่บุคคลนั้นเป็นผู้ที่ได้เห็นได้ยิน หรือทราบข้อความเกี่ยวในเรื่องที่จะให้การเป็นพยานนั้นมาด้วยตนเองโดยตรงแต่ก็มีข้อยกเว้นต่อไปว่าความในข้อนี้ให้ใช้ได้ต่อเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายโดยชัดแจ้งหรือคำสั่งศาลว่าให้เป็นอย่างอื่นจึงมิได้ห้ามโดยเด็ดขาดมิให้รับฟังพยานบอกเล่าเสียทีเดียวประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 226 บัญญัติว่าพยานวัตถุ พยานเอกสาร หรือพยานบุคคลซึ่งน่าจะพิสูจน์ได้ว่าจำเลยมีผิดหรือบริสุทธิ์ ให้อ้างเป็นพยานหลักฐานได้และมาตรา 227 วรรคแรก ก็บัญญัติให้ศาลใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวงคำพยานบอกเล่าที่กล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล ศาลย่อมใช้ดุลพินิจรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ เพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3201/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานเป็นซ่องโจรต้องแสดงให้เห็นถึงการตกลงร่วมกันกระทำความผิด
ความผิดฐานเป็นซ่องโจรนั้น การประชุมหารือร่วมกันและตกลงกันว่าจะกระทำความผิดอะไร เป็นข้อสาระสำคัญที่จะแสดงให้เห็นว่ามีการกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจรหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3065/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่พอฟังลงโทษจำเลย โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิดด้วยตนเอง
คำให้การของพยานในชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า รับฟังได้แต่เพียงเป็นพยานประกอบคำเบิกความของพยานในชั้นศาล เมื่อคำเบิกความของพยานโจทก์ในชั้นศาลไม่มีผู้ใดรู้เห็นว่าจำเลยกระทำผิด ลำพังแต่บันทึกการจับกุมและคำให้การชั้นสอบสวนไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้
ในคดีอาญา โจทก์มีภาระหน้าที่ต้องนำพยานหลักฐานมาสืบพิสูจน์ให้เห็นถึงความผิดของจำเลย เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด แม้จำเลยจะไม่สืบพยานก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพและการพิสูจน์ความผิดของจำเลยร่วมในคดีอาญา
โจทก์มีประจักษ์พยานคือ พ. ซึ่งเห็นการปล้นฆ่า แล้วต่อมาได้แจ้งให้ตำรวจทราบ เมื่อถูกจับจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพว่าร่วมกับจำเลยที่ 2 เจ้าพนักงานได้ทำบันทึกถ่ายรูปประกอบคำรับสารภาพไว้ด้วย แม้ใช้ยันว่าจำเลยที่ 2 กระทำผิดไม่ได้ แต่คำให้การรับสารภาพมีเนื้อหาตรงกับที่ พ. เห็น ทั้งยังสอดคล้องกับสถานที่เกิดเหตุสภาพศพ และสิ่งของที่พบในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าจำเลยที่ 1 รับสารภาพด้วยความสมัครใจจึงมีน้ำหนักรับฟังเป็นพยานประกอบ แสดงว่า พ. เห็นเหตุการณ์จริงดังนี้ลงโทษจำเลยที่ 2 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รายงานพนักงานคุมประพฤติใช้ได้แค่พิจารณาโทษ ไม่ใช้พิสูจน์ความผิด
การที่ศาลสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติความประพฤติ ฯลฯตลอดจนสภาพสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับตัวจำเลยนั้น มิใช่เรื่องที่ศาลสั่งให้มีการสืบพยานเกี่ยวกับการกระทำที่โจทก์ฟ้องว่าเป็นความผิด แต่เป็นเรื่องสืบเสาะข้อเท็จจริงเพื่อนำมาใช้ในการพิจารณาโทษและวิธีการที่จะปฏิบัติต่อจำเลยเท่านั้น ถึงแม้ตามพระราชบัญญัติวิธีดำเนินการคุมประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2522 มาตรา13 ศาลจะมีอำนาจรับฟังรายงานของพนักงานคุมประพฤติตามมาตรา 11โดยไม่ต้องมีพยานบุคคลประกอบก็ตาม แต่ก็เป็นพยานสำหรับการพิจารณาเรื่องโทษและวิธีการที่จะดำเนินการต่อผู้กระทำผิดเท่านั้นหาใช่พยานหลักฐานที่จะนำมาวินิจฉัยการกระทำที่ถูกฟ้องด้วยไม่จึงนำข้อเท็จจริงจากรายงานของพนักงานคุมประพฤติมาเป็นเหตุยกฟ้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างแรงงาน: การพิสูจน์ความผิดและสิทธิในการรับค่าชดเชย กรณีไม่ชัดเจนว่าลูกจ้างประมาทเลินเล่อ
เมื่อกรณีฟังไม่ได้ชัดว่าจำเลยเลิกจ้างเพราะโจทก์ทำผิดตาม ข้อ 47 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานโจทก์ผู้เป็นลูกจ้าง จึงมีสิทธิได้รับค่าชดเชยจากจำเลยผู้เป็นนายจ้าง ส่วนค่าเสียหายที่ยังไม่ชัดแจ้งว่าโจทก์จะต้องรับผิดทั้งหมดหรือไม่ จึงยังไม่มีความแน่นอนพอที่จะนำมาหักจากค่าชดเชยได้ ในชั้นนี้จำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชยให้ครบถ้วนก่อน ส่วนหนี้ที่โจทก์ติดค้างต้องว่ากล่าวกันต่างหาก
อุทธรณ์ที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลแรงงานกลางเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3107/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานยื่นรายการค่าใช้จ่ายเลือกตั้งเท็จ โจทก์ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามฟ้อง หากพิสูจน์ไม่ได้ แม้จำเลยไม่ได้ยื่นหลักฐานก็ลงโทษไม่ได้
การกระทำซึ่งจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มาตรา 87 มี 2อย่างคือ ไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายภายในกำหนด และยื่นรายการค่าใช้จ่ายเท็จ คำฟ้องของโจทก์กล่าวหาว่า จำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จประการเดียว เมื่อทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องแม้ตามคำแถลงรับของจำเลยนั้นแสดงว่าจำเลยมิได้ยื่นหลักฐานการจ่ายเงินก็ตามแต่ก็ต้องถือว่าเป็นข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษศาลจึงลงโทษจำเลยในข้อเท็จจริงนี้ไม่ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่ (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2522 มาตรา 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2449/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องอาญาหลังสืบพยานเสร็จสิ้น และการพิสูจน์ความผิดฐานเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ
ฟ้องเดิมโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำผิดของจำเลยว่า เมื่อระหว่างวันที่ 18 ถึง 30 พฤศจิกายน 2518 จำเลยเป็นเจ้ามือสลากกินรวบโดยไม่ได้รับอนุญาต และยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้ามือเล่นพนันสลากกินรวบงวดวันที่ 20 เดือนเดียวกันด้วย การกำหนดวันออกสลากเป็นสารสำคัญของการเล่นสลากกินรวบ การเพิ่มข้อหาเข้ามาเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2518 ซึ่งเป็นวันออกสลากขึ้นอีกงวดหนึ่ง เท่ากับเป็นการเพิ่มข้อหาจำเลยว่ากระทำผิดขึ้นอีกกระทงหนึ่งนอกเหนือไปจากการที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนจำเลยเป็นเจ้ามือสลากกินรวบเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2518 ส่วนการที่โจทก์อ้างว่าได้มีการสอบปากคำพยานผู้ซื้อสลากจากจำเลยงวดวันที่ 20 พฤศจิกายน 2518 นั้น ก็เป็นเพียงการสอบปากคำในฐานะพยานเท่านั้น จะถือว่าเป็นการสอบสวนจำเลยในข้อนี้หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2484/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดในคดีอาญา: หน้าที่ของโจทก์ในการนำสืบพยานและข้อจำกัดในการวินิจฉัยจากคำแถลง
ในคดีที่จำเลยให้การปฏิเสธ เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะพิสูจน์ความผิดของจำเลยโดยนำพยานเข้าสืบเสร็จแล้วให้จำเลยนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ต่อไป ต่อจากนั้นศาลจึงจะวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน
พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวหาว่า ฉุดคร่าผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ไปเสียจากความปกครองดูแลของ ผ. ซึ่งเป็นผู้ปกครอง โดยผู้เสียหายไม่เต็มใจไปด้วยจำเลยให้การปฏิเสธ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลได้เรียกผู้เสียหายมาสอบถาม ผู้เสียหายแถลงว่าตนเองเต็มใจไปกับจำเลยเพื่ออยู่กินฉันสามีภริยา โดยมิได้มีการฉุดคร่าแต่อย่างใด โจทก์แถลงขอสืบพยาน ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้วจึงสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์ ดังนี้ คดียังไม่มีการสืบพยาน คำแถลงของผู้เสียหายไม่ใช่คำพยานที่ได้มาจากการนำสืบ และโจทก์หาได้ยอมรับไม่ เพราะโจทก์ยังติดใจสืบพยานอื่นอยู่อีกการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2484/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานก่อนพิสูจน์ความผิดจำเลยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา แม้ผู้เสียหายให้การเป็นประโยชน์ต่อจำเลย
ในคดีที่จำเลยให้การปฏิเสธเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะพิสูจน์ความผิดของจำเลยโดยนำพยานเข้าสืบเสร็จแล้วห้จำเลยนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ต่อไปต่อจากนั้นศาลจึงจะวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน
พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวหาว่าฉุดคร่าผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ไปเสียจากความปกครองดูแลของผ.ซึ่งเป็นผู้ปกครองโดยผู้เสียหายไม่เต็มใจไปด้วยจำเลยให้การปฏิเสธในวันนัดสืบพยานโจทก์ศาลได้เรียกผู้เสียหายมาสอบถามผู้เสียหายแถลงว่าตนเองเต็มใจไปกับจำเลยเพื่ออยู่กินฉันสามีภริยาโดยมิได้มีการฉุดคร่าแต่อย่างใดโจทก์แถลงขอสืบพยาน ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้วจึงสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ดังนี้คดียังไม่มีการสืบพยานคำแถลงของผู้เสียหายไม่ใช่คำพยานที่ได้มาจากการนำสืบและโจทก์หาได้ยอมรับไม่ เพราะโจทก์ยังติดใจสืบพยานอื่นอยู่อีกการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
of 16