คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความเชื่อโดยสุจริต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3882/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเชื่อโดยสุจริตและสิทธิในการประกอบอาชีพ: การกระทำเพื่อรักษาสิทธิเดิมไม่เป็นความผิด
จำเลยตั้งแผงขายผลไม้ที่บริเวณสันรางน้ำและขอบรางน้ำริมถนนซึ่งอยู่ใกล้ทางเข้าตลาดมานานหลายปีแล้ว ถัดจากแผงของจำเลยเข้าไปเป็นแผงขายปลาของโจทก์ร่วมซึ่งเช่ามาจากผู้ดูแลตลาด โจทก์ร่วมได้ยกแผงของจำเลยออกแล้วเทพื้นปูนซีเมนต์บริเวณที่ตั้งแผงทั้งของโจทก์ร่วมและจำเลยในยามวิกาลเวลา 23 นาฬิกาเศษ เมื่อเทพื้นแล้วได้ยกแผงขายของของโจทก์ร่วมมาตั้งแทน โดยติดขาแผงไว้กับพื้นซีเมนต์ด้วย ต่อมาวันรุ่งขึ้นเวลาประมาณ 9 นาฬิกาจำเลยทำพื้นซีเมนต์บริเวณที่ตั้งแผงของจำเลยเสียหาย แต่กรณีมีเหตุให้ฟังได้ว่าจำเลยเชื่อว่าแผงของจำเลยตั้งอยู่ในที่ดินสาธารณะ และหากจำเลยไม่ทุบพื้นซีเมนต์งัดไม้แบบและขาโต๊ะของโจทก์ร่วมออก จำเลยก็ไม่สามารถตั้งลังและแผงขายของของตนได้ เช่นนี้ การที่จำเลยกระทำดังกล่าวจึงเป็นเพียงเพื่อจะตั้งแผงขายผลไม้ตามที่ขายอยู่เป็นประจำวันด้วยความเชื่อโดยสุจริตว่าตนมีสิทธิที่จะกระทำได้เท่านั้น หาเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3882/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเชื่อโดยสุจริตในการครอบครองพื้นที่สาธารณะและการกระทำเพื่อรักษาสิทธิในการประกอบอาชีพ หาใช่ความผิดทำให้เสียทรัพย์ไม่
จำเลยตั้งแผงขายผลไม้ที่บริเวณสันรางน้ำและขอบรางน้ำริมถนนซึ่งอยู่ใกล้ทางเข้าตลาดมานานหลายปีแล้ว ถัดจากแผงของจำเลยเข้าไปเป็นแผงขายปลาของโจทก์ร่วม ซึ่งเช่ามาจากผู้ดูแลตลาด โจทก์ร่วมได้ยกแผงของจำเลยออกแล้วเทพื้นปูนซีเมนต์บริเวณที่ตั้งแผงทั้งของโจทก์ร่วมและจำเลยในยามวิกาลเวลา 23 นาฬิกาเศษ เมื่อเทพื้นแล้วได้ยกแผงขายของของโจทก์ร่วมมาตั้งแทน โดยติดขาแผงไว้กับพื้นซีเมนต์ด้วย ต่อมาวันรุ่งขึ้นเวลาประมาณ 9 นาฬิกา จำเลยทำพื้นซีเมนต์บริเวณที่ตั้งแผงของจำเลยเสียหาย แต่กรณีมีเหตุให้ฟังได้ว่าจำเลยเชื่อว่าแผงของจำเลยตั้งอยู่ในที่ดินสาธารณะ และหากจำเลยไม่ทุบพื้นซีเมนต์งัดไม้แบบและขาโต๊ะของโจทก์ร่วมออก จำเลยก็ไม่สามารถตั้งลังและแผงขายของของตนได้ เช่นนี้ การที่จำเลยกระทำดังกล่าวจึงเป็นเพียงเพื่อจะตั้งแผงขายผลไม้ตามที่ขายอยู่เป็นประจำวันด้วยความเชื่อโดยสุจริตว่าตนมีสิทธิที่จะกระทำได้เท่านั้น หาเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451-452/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบอำนาจตัวแทน – นิติกรรมนอกขอบ – ความเชื่อโดยสุจริต – ความผูกพันต่อบุคคลภายนอก
การที่เจ้าของที่ดินลงลายพิมพ์นิ้วมือในใบมอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ไปขอหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดินโดยมิได้กรอกข้อความแล้วจำเลยที่ 1 ไปจัดการกรอกข้อความเติมไปด้วยว่าให้มีอำนาจทำนิติกรรมขายฝากได้ด้วยและนำที่ดินไปขายฝากให้แก่จำเลยที่ 2 นั้น ถือว่าเป็นการทำนอกเหนือขอบอำนาจของตัวการตามปกติจึงไม่ผูกพันตัวการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 823 เว้นแต่ทางปฏิบัติของตัวการทำให้บุคคลภายนอกมีมูลเหตุอันสมควรจะเชื่อว่าการนั้นอยู่ในขอบอำนาจของตัวแทนหรือตัวการให้สัตยาบัน จึงจะผูกพันตัวการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 822 และ 823
เมื่อจำเลยที่ 2 ผู้ซื้อฝากที่ดินมิได้หลงเชื่อใบมอบอำนาจหากเชื่อตัวบุคคลอื่นซึ่งแสดงตนเป็นโจทก์จึงได้รับซื้อฝากที่พิพาทนั้นถือว่าโจทก์มิได้ทำให้จำเลยที่ 2 หลงเชื่อนิติกรรมขายฝากจึงไม่ผูกพันโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเชื่อโดยสุจริตว่าปืนไม่มีกระสุน ทำให้ไม่ถึงแก่ความประมาท
จำเลยเป็นตำรวจ เชื่อโดยสุจริตว่าปืนที่มีบุคคลหนึ่งเก็บได้และมอบให้นั้นไม่มีกระสุนปืนบรรจุอยู่ จึงเอาปืนเหน็บไว้ที่เอว ต่อมาเนื่องจากการนั่งลุกของจำเลยเป็นเหตุให้กระสุนปืนที่จำเลยพกลั่นไปถูกผู้เสียหายดังนี้ จะเอาผิดแก่จำเลยฐานกระทำโดยประมาทยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเชื่อโดยสุจริตและความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ การกระทำที่ไม่เป็นความผิดเมื่อเชื่อว่าอยู่ในเขตของตน
จำเลยเชื่อโดยสุจริตใจว่าทำนบกั้นน้ำของผู้เสียหายอยู่ในเขตที่ดินของมารดาจำเลย จำเลยได้ทำลายทำนบนั้นเสีย ดังนี้ จำเลยไม่มีผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324(อ้างฎีกา 292/2483)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเชื่อโดยสุจริตและมีเหตุผลสมควรเป็นเหตุให้ไม่ต้องรับผิดในคดีหมิ่นประมาท แม้ข้อเท็จจริงบางส่วนผิดพลาด
จำเลยเชื่อโดยสุจริตใจและมีเหตุผลสมควรว่าโจทก์หมิ่นประมาทจำเลย ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน จึงแจ้งต่อนายอำเภอจนโจทก์ถูกจับกุมฟ้องร้องนั้น แม้ภายหลัง ศาลจะชี้ขาดว่าถ้อยคำของโจทก์ไม่ถึงเป็นหมิ่นประมาทก็ดีหรือปรากฎว่า จำเลยไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานเพราะผู้ตั้งไม่มีอำนาจตั้งก็ดี ก็ไม่ทำให้จำเลยต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเชื่อโดยสุจริตจากเหตุผลสมควรและการกล่าวหาเท็จ
มีเหตุผลควรเชื่อด้วยความสุจริตจึงได้กล่าวไปนั้นไม่มีผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5602-5604/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาท: ศาลต้องพิจารณาความเชื่อโดยสุจริตของผู้ถูกกล่าวหา แม้ข้อความไม่เป็นความจริง
การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยแต่เพียงว่าข้อเท็จจริงรับฟังยุติว่าโจทก์ร่วมไม่ได้เรียกเงินจากครูที่สอบบรรจุและไม่ได้ไล่ลูกจ้างเก่าออกแล้วเรียกเงินจากผู้สมัครสอบเป็นลูกจ้างใหม่ ดังนั้นการที่จำเลยที่ 1 กับพวกใส่ความโจทก์ร่วมในเรื่องดังกล่าวโดยไม่เป็นความจริง จึงมิใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตอันจะทำให้ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท และการที่จำเลยที่ 1 กับพวกใส่ความโจทก์ร่วมเฉพาะในเรื่องดังกล่าวโดยไม่เป็นความจริงก็สามารถทำให้โจทก์ร่วมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังได้ในตัวอยู่แล้ว โดยไม่จำต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 กับพวกมีความเชื่ออย่างไรนั้นไม่ถูกต้อง เนื่องจากหากจำเลยที่ 1 กับพวก เชื่อโดยสุจริตว่าพฤติการณ์ของโจทก์ร่วมส่อไปในทางทุจริต แม้จะเป็นการเข้าใจผิด จำเลยที่ 1 กับพวก ย่อมได้รับความคุ้มครองตาม ป.อ. มาตรา 329 (3) ศาลอุทธรณ์ภาค 4 จึงชอบที่จะวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวด้วย ดังนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 4 ไม่ได้วินิจฉัยข้ออุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 กับพวก จึงเป็นการไม่ชอบ เพื่อให้การวินิจฉัยความผิดของจำเลยที่ 1 กับพวก เป็นไปตามลำดับศาล ทั้งนี้เพราะคดีอาจถูกจำกัดสิทธิในการฎีกาได้ จึงเห็นสมควรให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดีตาม ป.วิ.อ. มาตรา 208 (2) ประกอบมาตรา 225