พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3047/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินทำประโยชน์เดิมที่ไม่ได้แจ้งการครอบครอง แม้ต่อมาที่ดินนั้นถูกอ้างว่าเป็นเขตอุทยานฯ หากพิสูจน์ได้ว่าที่ดินนั้นอยู่นอกเขตอุทยานฯ โจทก์มีสิทธิขอหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นนายอำเภอผู้มีอำนาจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จึงเป็นการฟ้องจำเลยในฐานะนายอำเภอผู้มีอำนาจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์มิใช่ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัว และการที่โจทก์อ้างว่าจำเลยไม่ยอมออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้โจทก์ย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 แล้ว โจทก์จึงฟ้องจำเลยซึ่งโต้แย้งสิทธิของโจทก์ได้ โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีนี้ ที่พิพาทมิได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ในที่พิพาทมีผู้ครอบครองมาตั้งแต่ก่อนใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน แต่มีได้แจ้งการครอบครอง รวมทั้งผู้ครอบครองต่อเนื่องจากบุคคลดังกล่าวจนถึงโจทก์โดยที่รัฐยังมิได้เข้าไปจัดที่ดิน ย่อมยังมีสิทธิครอบครองอยู่ โจทก์มีสิทธิขอให้ทางราชการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ จำเลยเป็นนายอำเภอผู้มีอำนาจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์โต้แย้งว่าที่พิพาทอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติให้งดการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้โจทก์ เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ เมื่อปรากฎว่าที่พิพาทมิได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติจำเลยจึงชอบที่จะดำเนินการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5362/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินห้ามโอน: สัญญาโอนสิทธิในที่ดินช่วงห้ามโอนเป็นโมฆะ จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก
จำเลยครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินที่อยู่ในบังคับห้ามโอนจึงไม่อาจสละหรือโอนการครอบครองให้แก่ผู้อื่นได้การที่จำเลยทำสัญญาก่อตั้งสิทธิเหนือพื้นดินและทำสัญญาจะซื้อจะขายให้แก่โจทก์ร่วมมีผลเป็นการโอนการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ร่วมภายในกำหนดเวลาห้ามโอนจึงไม่มีผลตามกฎหมายโจทก์ร่วมไม่มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทการที่จำเลยจ้างบุคคลอื่นเข้าไปไถปรับพื้นที่และล้อมรั้วที่ดินพิพาทจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องเขตป่าสงวนและที่ดินทำประโยชน์ การยกประโยชน์แห่งความสงสัยเมื่อพยานหลักฐานไม่ชัดเจน
โจทก์มีแต่พยานบุคคลเบิกความกล่าวอ้างลอย ๆ ว่าตอไม้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยปราศจากพยานหลักฐานเอกสารใด ๆ ที่จะยืนยันตามข้อกล่าวอ้าง ทั้งได้ความจากพยานโจทก์ว่าบริเวณตอไม้เป็นไร่นาไม่มีสภาพเป็นป่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลย ที่ดินที่จำเลยมีสิทธิครอบครองมีแนวเขตจดลำห้วยด้วย ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบมายังไม่ชัดแจ้งว่าต้นตะเคียนทอง 2 ต้น อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ กรณีมีความสงสัยตามสมควรว่าไม้แปรรูปของกลางอาจเป็นไม้ที่แปรรูปจากต้นไม้ตะเคียนทองที่มิได้ตัดฟันจากป่าก็ได้ทั้งไม่ใช่เป็นสักหรือไม้ยาง จึงอาจไม่เป็นไม้หวงห้ามตามพระราชบัญญัติ ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 7 ซึ่งอาจได้รับการยกเว้นให้มีไว้ในครอบครองโดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามมาตรา 50(4) ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2688/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดินตามตราจองที่ได้ทำประโยชน์แล้ว และการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์
พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 มาตรา 11วรรคสอง ที่บัญญัติว่า "ตราจองที่ตราว่า "ได้ทำประโยชน์แล้ว" นั้นผู้ถือมีกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย" หมายความว่าตราจองนั้นมีผลเท่ากับโฉนดเมื่อที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินตราจองที่ตราว่าได้ทำประโยชน์แล้วและมีชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทและจะเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามตราจองนี้ก็ต่อเมื่อโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ไปโดยการครอบครองปรปักษ์ อันมีอายุความ10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
โจทก์ได้เข้าครอบครองปรปักษ์ในที่พิพาทยังไม่ถึง10 ปีจึงไม่ได้กรรมสิทธิ์
โจทก์ได้เข้าครอบครองปรปักษ์ในที่พิพาทยังไม่ถึง10 ปีจึงไม่ได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1099/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนขายที่ดินที่เคยทำประโยชน์แล้วและไม่มีโฉนด การจดทะเบียนโดยปลัดอำเภอชอบด้วยกฎหมาย
ที่พิพาทเป็นที่ทำประโยชน์แล้ว จนเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำใบไต่สวนและทำโฉนดแล้วพร้อมที่จะมอบให้เจ้าของที่เดิม ซึ่งได้ร้องขอออกโฉนดไว้ หากแต่เจ้าของที่เดิมไม่ไปรับใบไต่สวนและโฉนดจนเกิน 10 ปี เจ้าพนักงานจึงได้สั่งทำลายเสีย ที่พิพาทจึงไม่มีใบไต่สวนและไม่มีโฉนด ครั้นที่พิพาทตกมาเป็นของจำเลย โดยเจ้าของเดิมที่ว่านั้นยกให้จำเลย ๆ ก็ได้ครอบครองทำประโยชน์มา จำเลยร้องขอให้ศาลสั่งแสดงสิทธิ ศาลก็สั่งแสดงว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาท ที่พิพาทจึงเป็นที่ดินที่อยู่ในความหมายของ พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 6 คือ เป็นที่ดินที่อยู่ในประเภทที่ดินซึ่งเจ้าของมีสิทธิขอรับโฉนดที่ดินตามบทแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เวลาจะโอนขายไม่ต้องให้นายอำเภอรับรองว่า ได้ทำประโยชน์แล้ว การจดทะเบียนสิทธิและการทำนิติกรรมซื้อขายที่พิพาทรายนี้ ปลัดอำเภอเป็นผู้ทำแทนนายอำเภอ ย่อมเป็นการทำที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 71 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1099/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในที่ดินที่เคยถูกไต่สวนออกโฉนดแล้วแต่ถูกทำลาย การจดทะเบียนโดยปลัดอำเภอแทน นายอำเภอชอบด้วยกฎหมาย
ที่พิพาทเป็นที่ทำประโยชน์แล้ว จนเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำใบไต่สวนและทำโฉนดแล้วพร้อมที่จะมอบให้เจ้าของที่เดิมซึ่งได้ร้องขอออกโฉนดไว้ หากแต่เจ้าของที่เดิมไม่ไปรับใบไต่สวนและโฉนดจนเกิน 10 ปี เจ้าพนักงานจึงได้สั่งทำลายเสีย ที่พิพาทจึงไม่มีใบไต่สวนและไม่มีโฉนด ครั้นที่พิพาทตกมาเป็นของจำเลยโดยเจ้าของเดิมที่ว่านั้นยกให้จำเลย จำเลยก็ได้ครอบครองทำประโยชน์มา จำเลยร้องขอให้ศาลสั่งแสดงสิทธิ ศาลก็สั่งแสดงว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาท ที่พิพาทจึงเป็นที่ดินที่อยู่ในความหมายของพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 6 คือเป็นที่ดินที่อยู่ในประเภทที่ดินซึ่งเจ้าของมีสิทธิขอรับโฉนดที่ดินตามบทแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เวลาจะโอนขายไม่ต้องให้นายอำเภอรับรองว่าได้ทำประโยชน์แล้ว การจดทะเบียนสิทธิและการทำนิติกรรมซื้อขายที่พิพาทรายนี้ปลัดอำเภอเป็นผู้ทำแทนนายอำเภอ ย่อมเป็นการทำที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 71(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองปรปักษ์ที่ดินทำประโยชน์ แม้ไม่มีหนังสือสำคัญสิทธิ
ที่ดินที่มีเจ้าของยึดถือปกครองมาไม่น้อยกว่า 20 ปี เป็นที่สวนยางทำประโยชน์แล้ว แม้จะไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน อายุความที่จะขาดสิทธิเรียกร้องเอาคืน ต้องถือ 9-10 ปี ถ้าผู้อื่นครองครองยังไม่ถึง 10 ปี เจ้าของยังมีสิทธิเรียกร้องเอากลับคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองปรปักษ์ที่ดินทำประโยชน์ แม้ไม่มีหนังสือสำคัญ เจ้าของยังมีสิทธิเรียกร้องคืนได้หากครอบครองไม่ถึง 10 ปี
ที่ดินที่มีเจ้าของยึดถือปกครองมาไม่น้อยกว่า 20 ปี เป็นที่สวนยางทำประโยชน์แล้ว แม้จะไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน อายุความที่จะขาดสิทธิเรียกร้องเอาคืนต้องถือ 9-10 ปี ถ้าผู้อื่นครอบครองยังไม่ถึง10 ปี เจ้าของยังมีสิทธิเรียกร้องเอากลับคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113-114/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินทำประโยชน์เกิน 10 ปีมีสิทธิดีกว่าผู้มีใบเหยียบย่ำ
ผู้ที่ครอบครองที่นามากว่า 10 ปีแล้วย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้ที่มีใบเหยียบย่ำซึ่งออกทับที่ดินนั้น อ้างฎีกาที่1045/2485
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1318-1324/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินทำประโยชน์ไม่เป็นป่า: การตัดไม้ในที่ดินที่ครอบครองทำประโยชน์มานาน ไม่ผิดตาม พ.ร.บ.รักษาป่า
ผู้ใดตัดฟันไม้ประเภทหวงห้ามในที่ดินซึ่งตนครอบครองมาช้านาน แม้จะมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานก็ดี ก็ไม่มีความผิดคำว่า " ป่า " ตาม พ.ร.บ.รักษาป่าหมายถึงที่ดินที่มีสภาพเป็นป่า ที่ดินใดแม้จะยังมิได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ออกโฉนดให้แก่ผู้ใดก็ดี เมื่อที่ดินนั้นเป็นที่ไร่สวนมีผู้ครอบครองยึดถือตลอดก็หามาเช่นนี้มาเป็นที่ป่าตามความใน พ.ร.บ.นั้นไม่