คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
น้ำตาลทราย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5845/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักลอบขนย้ายน้ำตาลทรายขาวฝ่าฝืนระเบียบ คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล, การพิสูจน์หลักฐานการขาดบัญชี
แม้การที่น้ำตาลทรายขาดบัญชีไปอาจเกิดจากตรวจนับชั่งน้ำหนัก หรือ การชำรุดของกระสอบก็ตาม แต่ขั้นตอนการ บรรจุเก็บรักษามีพนักงานของโจทก์และของบริษัทอ้อยและน้ำตาลไทยจำกัด ตรวจนับและทำบัญชีบันทึกไว้ และการขนย้ายต้องได้รับอนุญาตจากบริษัทอ้อยและน้ำตาลไทย จำกัด โดยมีพนักงานของโจทก์และของบริษัทอ้อยและน้ำตาลไทย จำกัด ควบคุมตรวจนับตลอดเวลา จึงไม่น่าเชื่อว่าจะมีการคลาดเคลื่อนทางบัญชีมากดังที่โจทก์อ้าง การขาดบัญชีกรณีที่อ้างว่าเอาน้ำตาลทรายขาวธรรมดาไปส่งแก่ลูกค้าแทนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ที่มีไม่เพียงพอหรืออ้างว่านำไปบริจาคแก่วัด โรงเรียน หน่วยราชการ และแจกแก่พนักงานโจทก์ในเทศกาล ต่าง ๆ ทำให้ไม่ตรงกับบัญชีก็เป็นกรณีขนย้ายที่ต้องได้รับอนุญาตเช่นกัน เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับอนุญาตจึงรับฟังไม่ได้ และการขนย้ายน้ำตาลทรายโดยมิได้รับอนุญาตก็ทำให้น้ำตาลทรายขาดบัญชีอยู่ในตัวโจทก์จะโต้เถียงว่าเป็นคนละกรณีกันหาได้ไม่ การที่ขาดบัญชีไปจึงน่าเชื่อว่ามีการลักลอบขนย้ายน้ำตาลทรายขาวอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วยเบี้ยปรับฉบับที่ 1 พ.ศ. 2528 ระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วยเบี้ยปรับฉบับที่ 1 พ.ศ. 2528 ออกโดยความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 มาตรา 17 แล้วเป็นการออกโดยชอบด้วยกฎหมายและมีผลบังคับต่อโจทก์ และเบี้ยปรับตามระเบียบดังกล่าวมิใช่โทษทางอาญา เป็นการกำหนดความรับผิดทางแพ่งสำหรับผู้ฝ่าฝืนระเบียบไม่เป็นการเกินขอบเขตที่พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527มาตรา 70,71 ให้อำนาจไว้ การที่โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าเบี้ยปรับกรณีขนย้ายน้ำตาลทรายโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความรับผิดทางแพ่งต้องมีสัญญาผูกพันกันจึงจะบังคับได้ เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ตกลงด้วยจึงบังคับโจทก์ไม่ได้นั้นเป็นข้อที่มิได้กล่าวในฟ้องจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาโดยชอบในศาลชั้นต้นต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 408/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในความผิด พ.ร.บ.กำหนดราคาสินค้าฯ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการมีน้ำตาลทรายเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด ไม่เข้าข่ายทรัพย์สินที่ใช้หรือได้มาจากการกระทำผิด จึงไม่มีอำนาจริบ
จำเลยมีน้ำตาลทรายปริมาณเกิน 1,000 กิโลกรัม ไว้ในครอบครองโดยมิได้ยื่นคำขอและรับอนุญาตจากเลขาธิการหรือประธานกรรมการส่วนจังหวัด อันเป็นการฝ่าฝืน ประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้า และป้องกันการผูกขาด ฯลฯ แต่น้ำตาลทรายดังกล่าวมิใช่ทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด หรือเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยการกระทำความผิด ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33
บทบัญญัติตามพระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ.2522 มาตรา 40 เป็นเรื่องให้อำนาจศาลอันเกี่ยวกับการสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับ และเงินรางวัลแก่ผู้จับ จากเงินสุทธิค่าขายของกลางที่ศาลมีคำสั่งริบไว้แล้ว จึงมิใช่บทบัญญัติที่ให้อำนาจศาลสั่งริบของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2029/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในคดีสินค้าควบคุม: น้ำตาลทรายไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิด
น้ำตาลทรายอันเป็นสินค้าควบคุมตามประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดที่จำเลยไม่นำออกจำหน่าย หรือเสนอขายตามปกติ และปฏิเสธไม่ยอมจำหน่ายนั้น หาใช่ทรัพย์สินที่ใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด อันพึงจะต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 31 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3882/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักตุนน้ำตาลทรายขาวเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ไม่เข้าข่ายทรัพย์สินที่ต้องริบ
น้ำตาลทรายขาวของกลางที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเกินกว่า 1,000 กิโลกรัมซึ่งเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ 32 พ.ศ. 2523 มิใช่ทรัพย์ที่มีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาโดยได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 จึงไม่ริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3882/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในความผิดพ.ร.บ.ราคาสินค้า: น้ำตาลทรายไม่ถือเป็นทรัพย์ที่ได้จากการกระทำผิด
น้ำตาลทรายขาวของกลางที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเกินกว่า1,000 กิโลกรัมซึ่งเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ 32พ.ศ. 2523 มิใช่ทรัพย์ที่มีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาโดยได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 จึงไม่ริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 98/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิด พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร: ไม่แจ้งปริมาณน้ำตาลทราย, จำคุกปรับ, เหตุผลรอการลงโทษไม่สมควร
มีน้ำตาลทรายขาว 30 กระสอบไม่แจ้งปริมาณ ผิด พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร ศาลจำคุก 3 เดือน ปรับ 1,000 บาทเหตุที่อ้างว่ามิได้นำไปต่างประเทศ มิใช่เหตุอันสมควรรอการลงโทษ
ค่านำจับกรณีความผิดต่อ พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควรบัญญัติการจ่ายค่านำจับไว้ต่างกับ พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด 2499 จึงอนุโลมมาให้อัยการร้องขอต่อศาลให้จ่ายค่านำจับด้วยไม่ได้ ข้อนี้ศาลยกขึ้นวินิจฉัยได้โดยจำเลยมิได้อุทธรณ์ขึ้นมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายกำหนดส่งมอบน้ำตาลทรายล่าช้า เบี้ยปรับสูงเกินไป ศาลลดหย่อนได้
สัญญาซื้อขายซึ่งมีข้อความว่า ผู้ขายต้องส่งมอบน้ำตาลทรายแก่ผู้ซื้อภายใน 15 วัน หลังจากโรงงานของผู้ขายเปิดดำเนินการหีบอ้อยประจำปี และทั้งนี้ไม่ช้ากว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2507 นั้น มีความหมายว่าผู้ขายต้องส่งมอบน้ำตาลทรายแก่ผู้ซื้อให้ครบถ้วนภายใน 15 วันนับแต่วันที่โรงงานของผู้ขายเปิดดำเนินการหีบอ้อยประจำปี หากเปิดดำเนินการล่าช้า แม้นับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2507จะมีเวลาดำเนินการไม่ครบ 15 วัน ผู้ขายก็จะต้องส่งมอบภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2507
เบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนนั้น ศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนที่พอสมควร โดยพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของเจ้าหนี้
คำฟ้องของโจทก์ซึ่งบรรยายว่า จำเลยส่งมอบน้ำตาลทราย 200 กระสอบแก่โจทก์เกินกำหนดระยะเวลาตามสัญญา จำเลยมีหน้าที่ต้องรับผิดใช้เบี้ยปรับ โจทก์และทนายโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาแล้ว ทั้งโจทก์ยังได้ส่งสำเนาสัญญาซื้อขายและสำเนาหนังสือทนายโจทก์มาท้ายฟ้องด้วยย่อมแสดงอยู่ในตัวว่าโจทก์ได้บอกสงวนสิทธิในการที่จะเรียกเบี้ยปรับตามสัญญาจากจำเลย ไม่จำต้องกล่าวในคำฟ้อง