คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บาดเจ็บ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 195 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9008/2549

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบาดเจ็บจากการทำงาน: การป้องกันประโยชน์ให้นายจ้างทำให้เกิดความรับผิดชอบ
เนื่องจากมีพนักงานในแผนกที่ ว. สามีโจทก์เป็นหัวหน้ามาถามโจทก์ว่า ว. อยู่ที่ไหน มีงานให้เซ็นชื่อ โจทก์จึงไปตาม ว. ที่นอนอยู่มุมหลังห้องฉีดพลาสติกที่ติดตั้งเครื่องดูดอากาศให้ไปทำงาน ระหว่างที่โจทก์เดินผ่านเครื่องดูดอากาศ เครื่องดูดอากาศได้ดูดแขนโจทก์เข้าไปเป็นเหตุให้มือซ้ายขาด แม้ว่า ว. หลบเข้าไปนอนจนถึงเวลาทำงานแล้วยังไม่ไปทำงาน แต่โจทก์มิได้ไปตามเนื่องจากกลัวว่า ว. จะถูกนายจ้างลงโทษหรือโจทก์จะไปกระทำเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับการงาน ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์ได้รับอันตรายแก่กายเนื่องจากป้องกันรักษาประโยชน์ให้แก่นายจ้างนั้น ชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8404/2549

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประมาทขับรถทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บ ศาลแก้ไขโทษให้ถูกต้องตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถด้วยความประมาทน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ เป็นเหตุให้รถยนต์ที่จำเลยขับเฉี่ยวชนกับรถยนต์กระบะ เป็นเหตุให้ อ. ผู้ขับ และ ช. ผู้โดยสารมาในรถยนต์กระบะคันดังกล่าวถึงแก่ความตาย ส่วน ส. ผู้ที่โดยสารมาอีกคนหนึ่งได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 291, 300 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43, 157 จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามฟ้องว่าจำเลยได้กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ ส. ได้รับอันตรายสาหัส อันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 300 แต่ศาลชั้นต้นมิได้พิพากษาปรับบทลงโทษจำเลยตามบทมาตราดังกล่าวมาด้วยเป็นการไม่ชอบ และศาลอุทธรณ์ภาค 4 มิได้พิพากษาแก้ไขในข้อนี้ เพียงแต่วงเล็บบทมาตราดังกล่าวไว้ในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 เมื่อกล่าวถึงคำพิพากษาศาลชั้นต้น เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง จึงพิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 300 อีกบทหนึ่งอันเป็นกรรมเดียวกับความผิดตาม ป.อ. มาตรา 291 และ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (4), 157 ให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10544/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: ขับรถแข่งประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บ เสียหาย ศาลแก้ไขโทษ
การที่จำเลยขับรถจักรยานยนต์แข่งกันไปตามถนน โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือให้แข่งรถได้จากเจ้าพนักงานจราจรโดยชอบด้วยกฎหมาย กับการที่จำเลยขับรถด้วยความประมาทโดยใช้ความเร็วสูงเป็นเหตุให้ ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย จำเลยกระทำโดยมีเจตนาเดียวคือขับรถจักรยานยนต์แข่งกันไปตามถนนโดยใช้ความเร็วสูงและเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและ ทรัพย์สินเสียหาย ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2545 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบาดเจ็บนิ้วมือหลายนิ้วถือเป็นบาดเจ็บอย่างรุนแรงของกระดูกหลายแห่ง ตาม พ.ร.บ.เงินทดแทน
ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า การรักษาตามวิธีการของผู้เป็นแพทย์ผู้เป็นพยานโจทก์เป็นการรักษาที่ผิดวิธี จึงไม่ใช่ค่ารักษาพยาบาลตามความจำเป็น ไม่ใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ต้องห้ามไม่ให้อุทธรณ์ตามป.วิ.พ. มาตรา 225 ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522 มาตรา 31
นิ้วมือแต่ละนิ้วต่างเป็นองคาพยพของร่างกาย แยกเป็นอิสระจากกันและมีสมรรถภาพในการใช้งานแตกต่างกัน ประกาศกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เรื่อง กำหนดระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนและหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณค่าจ้างรายเดือน ลงวันที่ 12 กันยายน 2537 ออกตามความในมาตรา 6 และมาตรา18(2)(3) วรรคสามและวรรคสี่ แห่ง พ.ร.บ.เงินทดแทน พ.ศ.2537 ข้อ 2 และข้อ 3 กำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าทดแทนเป็นรายเดือนให้แก่ลูกจ้างที่ประสบอันตรายสูญเสียนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อยไว้มากน้อยกว่ากันเรียงเป็นลำดับจากนิ้วหัวแม่มือไปหานิ้วก้อยทั้งกรณีสูญเสียนิ้วมือทั้งนิ้วและบางส่วน
ลูกจ้างประสบอันตรายได้รับบาดเจ็บที่กระดูกนิ้วมือข้างขวาทั้งห้านิ้วเป็นกรณีบาดเจ็บอย่างรุนแรงของกระดูกหลายแห่งและต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไขตามกฎกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ.2539) ออกตามความใน พ.ร.บ.เงินทดแทน พ.ศ.2537ข้อ 2(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดเจ็บนิ้วมือทั้งห้า บาดเจ็บรุนแรงหลายแห่ง เงินทดแทนต้องจ่าย
นิ้วมือแต่ละนิ้วต่างเป็นองคาพยพของร่างกาย แยกเป็นอิสระจากกัน และมีสมรรถภาพในการใช้งานแตกต่างกัน การที่ลูกจ้างประสบอันตรายได้รับบาดเจ็บที่กระดูกนิ้วมือข้างขวาทั้งห้านิ้ว จึงเป็นกรณีบาดเจ็บอย่างรุนแรงของกระดูกหลายแห่งและต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไขตามกฎกระทรวงฉบับที่ 2(พ.ศ. 2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 ข้อ 2(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7871/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประมาทเลินเล่อขับรถชนแล้วหลบหนี ศาลฎีกายืนโทษจำคุกฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บ
จำเลยปฏิบัติฝ่าฝืนบทบัญญัติ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 78 วรรคหนึ่ง คือขับรถในทาง เกิดเหตุแล้วหลบหนี ซึ่งวรรคสองแห่งมาตราดังกล่าวให้สันนิษฐานว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดจึงเป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าว เมื่อพยานจำเลยไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือและมีเหตุผลควรเชื่อตามพยานโจทก์ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยได้กระทำโดยประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1412/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดขับรถประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส และหลบหนีไม่ช่วยเหลือ เป็นความผิดหลายกระทง
จำเลยขับรถยนต์โดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายและได้รับอันตรายแก่กายสาหัส กับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายได้รับความเสียหาย เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522มาตรา 43 (4) (8) ประกอบด้วย มาตรา 157 และเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย และได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ตาม ป.อ.มาตรา 390, 300การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ซึ่งต้องลงโทษตาม ป.อ.มาตรา 300 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ.มาตรา 90และเมื่อเกิดเหตุแล้ว จำเลยได้หลบหนีและไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหาย ไม่แสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังจากการที่จำเลยขับรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายแล้ว ซึ่งเป็นการกระทำโดยเจตนาของจำเลยแยกต่างหากจากการกระทำความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาทอันเป็นเรื่องต่างกรรมกัน จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 78 ประกอบด้วย มาตรา 160วรรคหนึ่ง อีกกระทงหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดเจ็บสาหัส-บุกรุกเคหสถาน: ศาลฎีกาตัดสินกรณีทำร้ายร่างกายและบุกรุกพื้นที่หน้าบ้าน
ผู้เสียหายถูกจำเลยที่6ทำร้ายได้รับบาดเจ็บที่ดั้งจมูกแต่ผู้เสียหายมิได้รักษาโดยวิธีผ่าตัดตามความเห็นแพทย์คงเอายามากินที่บ้านตั้งแต่เกิดเหตุจนปัจจุบันเป็นเวลานานถึง10เดือนเศษแสดงว่าผู้เสียหายสามารถไปทำงานหรือทำธุรกิจอื่นได้แม้แพทย์ผู้ตรวจจะทำรายงานว่าต้องรักษาโดยวิธีผ่าตัดแล้วใช้เวลารักษาอย่างน้อย21วันจึงจะหายเป็นปกติก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานของแพทย์ที่กะประมาณไว้ในขณะทำการตรวจซึ่งไม่แน่นอนว่าจะถูกต้องตามนั้นหรือไม่บาดแผลอาจจะหายเร็วกว่ากำหนดไว้นั้นก็ได้ด้วยเหตุนี้จึงยังไม่พอฟังว่าบาดแผลของผู้เสียหายดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้เสียหายป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาหรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า20วันอันจะเข้าลักษณะเป็นอันตรายสาหัส สนามหญ้าบริเวณที่เกิดเหตุแม้จะเป็นสนามหญ้าตลอดติดต่อเป็นผืนเดียวไม่มีรั้วล้อมรอบไม่มีเครื่องหมายแสดงให้ทราบว่าเป็นแนวเขตของบ้านพักก็ตามแต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่าบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสนามหญ้านั้นอยู่หน้าบ้านพักอันเป็นที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายจำเลยที่6เข้าไปในบริเวณดังกล่าวแล้วใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายจึงเป็นการเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควรอันเป็นความผิดฐานบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหสถานและการพิจารณาความรุนแรงของบาดเจ็บที่ดั้งจมูกเพื่อประกอบการพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บที่ดั้งจมูกและรักษาโดยกินยามาตั้งแต่วันเกิดเหตุจนปัจจุบันเป็นเวลานานถึง10เดือนเศษการที่ผู้เสียหายมิได้รักษาโดยวิธีผ่าตัดคงเอายามากินที่บ้านจนปัจจุบันแสดงว่าผู้เสียหายสามารถไปทำงานหรือทำธุรกิจอื่นได้จึงยังไม่พอฟังว่าบาดแผลของผู้เสียหายดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้เสียหายป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาหรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวันอันจะเข้าลักษณะเป็นอันตรายสาหัส สถานที่เกิดเหตุแม้จะเป็นสนามหญ้าตลอดติดต่อเป็นผืนเดียวไม่มีรั้วล้อมรอบไม่มีเครื่องหมายแสดงให้ทราบว่าเป็นแนวเขตของบ้านพักก็ตามแต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่าบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสนามหญ้านั้นอยู่หน้าบ้านพักซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายถือได้ว่าเป็นเคหสถานของผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา1(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4402/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายไม่ร้ายแรง ไม่เป็นเหตุฟ้องหย่า
จำเลยใช้ไม้ตีทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย ศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลย 1,000 บาท โจทก์มิได้นำแพทย์ผู้ตรวจบาดแผลมาเบิกความว่าโจทก์ได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด การที่ศาลพิพากษาลงโทษปรับเพียง 1,000 บาท แสดงว่าบาดแผลที่โจทก์ได้รับไม่เป็นอันตรายร้ายแรงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นการร้ายแรงอันเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (3)
of 20