พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10155/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดจากความประมาทเลินเล่อในการขนย้ายสินค้าฝากเก็บ และสิทธิเรียกร้องของบริษัทประกันภัย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในความประมาทเลินเล่อที่ทำให้สินค้าเครื่องจักรของโจทก์เสียหาย จำเลยให้การรับว่าโจทก์ได้นำสินค้าเครื่องจักรมาฝากไว้ในโกดังเก็บสินค้าของจำเลย และขอให้จำเลยช่วยจัดคนงานและรถยกเพื่อขนถ่ายสินค้าเครื่องจักร จำเลยมีรถยกตัวเดียว งารถยกไม่อาจรับความกว้างยาวของสินค้าเครื่องจักรได้จึงตกลงบนพื้น จำเลยรับฝากสินค้าโจทก์โดยไม่มีบำเหน็จและได้ใช้ความระมัดระวังเช่นผู้ประกอบวิชาชีพ ตามคำให้การดังกล่าวเท่ากับจำเลยรับตามฟ้องโจทก์ จึงรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้จัดให้คนงานและรถยกยกสินค้าเครื่องจักรออกจากตู้บรรจุสินค้า แต่เนื่องจากสินค้าเครื่องจักรมีขนาดใหญ่และรถยกมีขนาดเล็กเป็นเหตุให้สินค้าเครื่องจักรตกจากรถยกลงบนพื้นและเกิดความเสียหาย การกระทำดังกล่าวนับเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลย เมื่อโจทก์ร่วมได้รับประกันภัยสินค้าเครื่องจักรรายนี้ และได้ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ไปแล้ว ย่อมรับช่วงสิทธิจากโจทก์ที่จะเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
โจทก์ฝากสินค้าเครื่องจักรไว้กับจำเลย แต่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เนื่องจากโจทก์ให้จำเลยทำการขนย้ายสินค้าเครื่องจักรออกจากตู้บรรจุสินค้า ในการขนย้ายจำเลยได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้สินค้าเครื่องจักรเสียหาย อันเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อและเสียหายต่อโจทก์เป็นการกระทำละเมิดด้วย จึงมีอายุความ ๑ ปี ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๔๔๘ วรรคหนึ่ง
โจทก์ฝากสินค้าเครื่องจักรไว้กับจำเลย แต่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เนื่องจากโจทก์ให้จำเลยทำการขนย้ายสินค้าเครื่องจักรออกจากตู้บรรจุสินค้า ในการขนย้ายจำเลยได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้สินค้าเครื่องจักรเสียหาย อันเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อและเสียหายต่อโจทก์เป็นการกระทำละเมิดด้วย จึงมีอายุความ ๑ ปี ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๔๔๘ วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5492/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรักษาความปลอดภัยสินค้าฝากเก็บและการไม่ต้องรับผิดในฐานผู้ฝากเก็บ
คดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่สินค้าที่รับฝากไว้อย่างเข้มงวดเป็นการใช้ความระมัดระวังและใช้ฝีมือสงวนทรัพย์สินเหมือนเช่นวิญญูชนจะพึงประพฤติโดยพฤติการณ์เช่นนั้นจึงไม่ต้องรับผิด เป็นฎีกาในข้อเท็จจริงอันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2694/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงมอบข้าวเปลือกสีเป็นข้าวสารถือเป็นการซื้อขาย ไม่ใช่ฝากเก็บ โจทก์มีอำนาจฟ้อง
การที่โจทก์มอบข้าวเปลือกไว้กับจำเลยที่ 1 และให้สิทธิแปรสภาพเป็นข้าวสารออกขายได้ หากโจทก์ต้องการขายราคาข้าวเปลือกดังกล่าวจำเลยจะใช้ราคาเป็นเงินสดโดยคิดราคาข้าวเปลือกชนิดและประเภทเดิมในปริมาณเดียวกันเป็นข้อตกลงที่ให้กรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกตกเป็นของจำเลยแล้ว เพียงแต่จะคิดราคากันในภายหลังและต้องใช้ราคาโดยไม่ต้องคืนทรัพย์ที่รับไว้ ดังนี้ เป็นการซื้อขายวิธีหนึ่งหาใช่รับฝากทรัพย์ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2508/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้เจตนา: การฝากเก็บโดยผู้อื่นและการไม่มีเจตนาในการครอบครอง
การที่กระสุนปืนของกลางอยู่ที่บ้านจำเลยโดยเจ้าของนำมาฝาก ธ.ไว้พร้อมด้วยถุงทะเลที่บรรจุสิ่งของต่าง ๆ และ ธ. ได้นำมาฝากจำเลยไว้อีกทอดหนึ่งเพราะ ธ. จะไปเที่ยวกลัวของจะหาย กระสุนปืนของกลางตั้งอยู่ที่โต๊ะจำเลยมิได้แตะต้องเคลื่อนย้ายเหตุที่ของกลางถูกเจ้าพนักงานพบเห็นเพราะ ธ. เที่ยวงานดึกแล้วไม่ได้มารับคืน พฤติการณ์ดังกล่าวไม่พอ ที่จะถือว่าจำเลยมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2152/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นสัญญาต่างตอบแทน มีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สัญญารายพิพาทเรียกว่าสัญญารับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นสัญญาระหว่างโจทก์ ซึ่งในสัญญาเรียกว่าผู้ฝากกับโรงสี ม. โดยจำเลยผู้เป็นเจ้าของและผู้จัดการ ซึ่งในสัญญาเรียกว่าผู้รับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าว โดยผู้รับฝากฯ ตกลงจะรับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าวเปลือกทุกชนิดของผู้ฝาก และผู้รับฝากจะส่งมอบข้าวกลับคืนให้แก่ผู้ฝากเป็นข้าวสารตามชนิด จำนวนและระยะเวลาที่คณะกรรมการสำรองข้าวสั่ง โดยผู้ฝากให้ประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้รับฝากเป็นต้นข้าวปลายข้าวและรำข้าวที่เหลือจากการส่งให้แก่ผู้ฝาก สัญญาเช่นนี้หาใช่สัญญาฝากทรัพย์ไม่ แต่เป็นสัญญาที่จำเลยตกลงรับฝากเก็บข้าวเปลือกไว้เพื่อสีแปรสภาพจนสำเร็จเป็นข้าวสารให้แก่โจทก์และโจทก์ตกลงให้ต้นข้าว ปลายข้าว และรำข้าวเป็นการตอบแทนที่จำเลยสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่งซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370-1371/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำพินัยกรรมตามแบบธรรมดา มิใช่เอกสารลับ แม้จะฝากเก็บรักษาไว้กับอำเภอ
พินัยกรรมนั้นจะทำได้ก็แต่ตามแบบใดแบบหนึ่ง (ม. 1655) โดยลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คนพร้อมกัน (ม.1656) โดยทำเป็นเอกสารเขียนเองทั้งฉบับก็ได้ (ม.1657) ฯลฯ
เมื่อปรากฎว่าพินัยกรรมนั้นทำขึ้นโดยเปิดเผยเป็นสามฉบับข้อความตรงกัน มอบให้ผู้รับพินัยกรรมไว้ 1 ฉบับ ผู้ทำเก็บไว้ 1 ฉบับ การทำมิได้มีการปิดบังอย่างใด เช่นนี้มิใช่เป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับ แม้จะระบุไว้ว่าฉบับหนึ่งให้ฝากอำเภอเก็บเป็นเอกสารลับนั้นก็เป็นการเข้าใจของผู้ทำว่าเอกสารที่ฝากอำเภอนั้น อำเภอย่อมเก็บลับเท่านั้นเอง ผู้ทำมิได้เจตนาทำเป็นแบบเอกสารลับและเพียงเท่านี้ยังมิทำให้พินัยกรรมนั้นกลายเป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับไปไม่ +
เมื่อปรากฎว่าพินัยกรรมนั้นทำขึ้นโดยเปิดเผยเป็นสามฉบับข้อความตรงกัน มอบให้ผู้รับพินัยกรรมไว้ 1 ฉบับ ผู้ทำเก็บไว้ 1 ฉบับ การทำมิได้มีการปิดบังอย่างใด เช่นนี้มิใช่เป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับ แม้จะระบุไว้ว่าฉบับหนึ่งให้ฝากอำเภอเก็บเป็นเอกสารลับนั้นก็เป็นการเข้าใจของผู้ทำว่าเอกสารที่ฝากอำเภอนั้น อำเภอย่อมเก็บลับเท่านั้นเอง ผู้ทำมิได้เจตนาทำเป็นแบบเอกสารลับและเพียงเท่านี้ยังมิทำให้พินัยกรรมนั้นกลายเป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับไปไม่ +
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 35/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับมอบหมายทรัพย์สินโดยเจตนา: การแก้กะเป๋าเงินและการฝากเก็บ
แก้กะเป๋าใส่เงินไปจากเอวเจ้าทรัพย์ว่าจะเอาไปเก็บไว้ให้เจ้าทรัพย์มิได้ว่ากะไรดังนี้ ถือว่า ได้รับมอบหมายเงินไว้จากเจ้าทรัพย์ได้.