พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3644/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการร้องสอดคดีของผู้มีส่วนได้เสียจากการลงทุนร่วมและการเช่าทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องอ้างว่าได้เข้าหุ้นก่อสร้างอาคารร่วมกับผู้ร้อง ขอบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่ผู้เช่าในอัตราค่าเซ้งที่ต่ำกว่าค่าหุ้นที่ผู้ร้องลงทุนไป ถ้าหากศาลพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนการเช่าตามฟ้องผู้ร้องต้องขาดทุน ผลของคำพิพากษาย่อมกระทบต่อสิทธิหรือส่วนได้เสียของผู้ร้อง ดังนี้ ผู้ร้องมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57(2) จึงร้องสอด เข้ามาเป็นคู่ความในคดีได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3644/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการร้องสอดคดีของผู้มีส่วนได้เสียจากการลงทุนร่วมและการเช่าทรัพย์สิน
เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าได้เข้าหุ้นก่อสร้างอาคารร่วมกับผู้ร้องแล้ว หากโจทก์จะบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่ผู้เช่าในอัตราที่ต่ำกว่าค่าหุ้นที่ผู้ร้องลงทุนไป เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนการเช่าตามฟ้อง ผู้ร้องต้องขาดทุน ผลของคำพิพากษาย่อมกระทบต่อสิทธิหรือส่วนได้เสียของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงได้ชื่อว่ามีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(2) ผู้ร้องชอบที่จะร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธการสมรสและการเรียกคืนหมั้นเนื่องจากทำร้ายร่างกาย และการแบ่งทรัพย์สินจากการลงทุนร่วม
ชายหญิงทำพิธีแต่งงานกันตามประเพณี แต่หญิงไม่ยอมหลับนอนร่วมประเวณีกับชายฉันท์สามีภริยาโดยแยกไปนอนเสียคนละห้องกับชายอยู่มาประมาณ 10 วัน มารดาของหญิงบอกให้ชายพาหญิงเข้าห้องเอาเอง ชายจึงเข้าไปจับเอวหญิงออกมาจากห้องที่หญิงนอน หญิงฉวยแจกันตีศีร์ษะชายแตก โลหิตออกแจกันหักแล้วยังใช้แจกันตีชายถูกโหนกแก้มเป็นบาดแผลต้องเย็บถึง 7 เข็มชายจึงกลับบ้านและไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับหญิง ดังนี้ถือว่าการกระทำของหญิงเป็นเหตุผลสำคัญอันพอที่จะทำให้ชายปฏิเสธไม่ยอมสมรสด้วยหญิงตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1441 ได้ ชายจึงมีสิทธิเรียกของหมั้นคืนจากหญิงได้
โจทก์จำเลยร่วมกันนำสัมภาระและลงทุนปลูกสร้างเรือนขึ้น 1 หลัง แต่ไม่ได้ความพอจะชี้ได้ว่าสัมภาระชิ้นใดเป็นของผู้ใดได้ทุกชิ้น ทั้งไม่ได้ความว่าแต่ละฝ่ายได้มีส่วนเป็นเจ้าของอยู่เกินกว่าครึ่ง ดังนี้ต้องถือว่า โจทก์และจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของเรือนรายนี้เท่า ๆ กัน
โจทก์จำเลยร่วมกันนำสัมภาระและลงทุนปลูกสร้างเรือนขึ้น 1 หลัง แต่ไม่ได้ความพอจะชี้ได้ว่าสัมภาระชิ้นใดเป็นของผู้ใดได้ทุกชิ้น ทั้งไม่ได้ความว่าแต่ละฝ่ายได้มีส่วนเป็นเจ้าของอยู่เกินกว่าครึ่ง ดังนี้ต้องถือว่า โจทก์และจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของเรือนรายนี้เท่า ๆ กัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างระหว่างเจ้าของร่วมกับหุ้นส่วน และผลกระทบต่อการฟ้องแบ่งทรัพย์สิน
"เจ้าของร่วม" กับ "หุ้นส่วน" ต่างกันในข้อสำคัญที่ว่าการเข้าร่วมกันเพื่อกระทำกิจการด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แก่กิจการที่ทำนั้นหรือไม่ ถ้าไม่ประสงค์เช่นนั้นก็ไม่ใช้หุ้นส่วน เป็นแต่เจ้าของร่วมแต่ถ้าประสงค์จะแบ่งปันกำไรเช่นว่านั้น ก็เป็นหุ้นส่วนและเป็นเจ้าของร่วมด้วยในตัว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินและกิจการของ "แม่น้ำมอเตอร์โบ๊ต" โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลย แต่บรรยายฟ้องมาในในรูปว่า โจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน จึงเท่ากับเป็นการฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินในหุ้นส่วน ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อเลิกหุ้นส่วนเสียก่อนโจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้เลิกหุ้นส่วนศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินและกิจการของ "แม่น้ำมอเตอร์โบ๊ต" โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลย แต่บรรยายฟ้องมาในในรูปว่า โจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน จึงเท่ากับเป็นการฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินในหุ้นส่วน ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อเลิกหุ้นส่วนเสียก่อนโจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้เลิกหุ้นส่วนศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20400/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจร้องทุกข์ในคดีอาญา: ผู้เสียหายจากการลงทุนร่วมที่เสียหายจากยักยอก
คดีนี้ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์ร่วมเข้าร่วมลงทุนกับจำเลยในการประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ศาลชั้นต้น โดยนำเงินของ ว. มาทยอยมอบให้จำเลยเพื่อนำไปใช้เป็นหลักประกัน และตกลงกันว่าจำเลยจะแบ่งผลประโยชน์ที่ได้รับจากเงินที่จำเลยนำมาลงทุนเป็น 3 ส่วน จำเลยได้ 1 ส่วน โจทก์ร่วมและ ว. ได้คนละส่วน โดยโจทก์ร่วมต้องนำเงินที่ลงทุนดังกล่าวไปคืนให้แก่ ว. ด้วย เห็นว่า แม้เงินที่โจทก์ร่วมนำไปลงทุนกับจำเลยเป็นเงินของ ว. ก็ตาม แต่โจทก์ร่วมก็ต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมผลประโยชน์ไปคืนให้แก่ ว. ดังนี้ โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้นำเงินของ ว. ไปหาผลประโยชน์จากการร่วมลงทุนกับจำเลยและต้องรับผิดชอบต่อ ว. ในจำนวนเงินดังกล่าว โจทก์ร่วมจึงมิใช่เป็นตัวแทนของ ว. ที่มีหน้าที่นำเงินของ ว. ไปมอบให้แก่จำเลย ซึ่งเมื่อมอบเงินแล้วความรับผิดชอบในเงินจำนวนดังกล่าวของโจทก์ร่วมในฐานะตัวแทนก็หมดไป ดังนี้ เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นในจำนวนเงินที่ ว. มอบให้โจทก์ร่วมไปหาผลประโยชน์เพราะการกระทำผิดยักยอกของจำเลย โจทก์ร่วมในฐานะที่เป็นผู้นำเงินของ ว. ไปหาผลประโยชน์ย่อมได้รับความเสียหายจึงเป็นผู้เสียหายโดยตรง โจทก์ร่วมจึงมีอำนาจร้องทุกข์ พนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวน และโจทก์มีอำนาจฟ้อง