พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3667/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามลำดับคำพิพากษา และสิทธิการเข้าใช้หนี้แทนจำเลยเมื่อมีการจำนองทรัพย์
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์โดยปราศจากภาระผูกพันโดยให้โจทก์ชำระค่าที่ดินส่วนที่เหลือและให้หักค่าธรรมเนียม ค่าภาษีในการโอนกับค่าเสียหายด้วย หากจำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยปราศจากภาระผูกพันไม่ได้ จำเลยต้องคืนเงินมัดจำและชำระค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ การบังคับคดีจึงต้องเป็นไปตามลำดับที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาไว้ แต่ปรากฏว่าจำเลยได้จดทะเบียนจำนองที่ดินพิพาทไว้เพื่อเป็นประกันหนี้ที่จำเลยมีต่อธนาคาร ซึ่งธนาคารได้ฟ้องและนำยึดที่ดินพิพาทไว้ในคดีแพ่งอื่น โจทก์ซึ่งต้องเสี่ยงภัยเสียสิทธิตามคำพิพากษาในคดีนี้ จึงมีสิทธิเข้าใช้หนี้ของจำเลยแทนได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 230 วรรคหนึ่ง เมื่อโจทก์ได้ชำระหนี้แทนจำเลยไปครบถ้วนแล้ว หนี้ที่จำเลยจำนองที่ดินพิพาทเป็นประกันจึงระงับสิ้นไป แม้ก่อนหน้านั้นศาลชั้นต้นจะเคยมีคำสั่งให้โอนที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์โดยติดจำนองก็ตาม แต่คำสั่งดังกล่าวก็มีผลเป็นคำสั่งให้โอนที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์โดยปลอดจำนองหรือปราศจากภาระผูกพัน อันเป็นการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลในลำดับแรกนั้นเอง หาใช่เป็นการบังคับคดีในลำดับหลังอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามลำดับในการบังคับคดีไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามลำดับคำพิพากษา: คืนทรัพย์สินก่อนชำระราคา
คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาให้จำเลยคืนรถแทรกเตอร์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา 150,000 บาท ในการบังคับคดีจะต้องอาศัยคำพิพากษาเป็นหลักแห่งคำบังคับ ดังนั้น จึงต้องดำเนินการบังคับคดีก่อนหลังกันไปตามลำดับดังที่ระบุไว้ในคำพิพากษา เมื่อจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยวิธีคืนรถแทรกเตอร์แก่โจทก์จึงเป็นการปฏิบัติตามลำดับของคำพิพากษาแล้ว โจทก์จะเลือกวิธีการเรียกร้องให้จำเลยชำระราคารถแทรกเตอร์แก่โจทก์โดยจำเลยไม่ตกลงด้วยไม่ได้ แม้รถ-แทรกเตอร์จะมีสภาพใช้งานไม่ได้ โจทก์เสียหายอย่างไรก็จะต้องไปว่ากล่าวเอาแก่จำเลยเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามลำดับคำพิพากษา: คืนรถแทรกเตอร์ก่อนชำระราคา แม้สภาพรถไม่ดี โจทก์ต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายต่างหาก
การบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลที่ให้จำเลยคืนรถแทรกเตอร์หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา150,000บาทแก่โจทก์ต้องดำเนินการบังคับคดีก่อนหลังกันไปตามลำดับดังที่ระบุไว้ในคำพิพากษาเมื่อจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยวิธีคืนรถแทรกเตอร์แก่โจทก์ได้โจทก์จะเลือกวิธีการเรียกร้องให้จำเลยชำระราคาแก่โจทก์โดยจำเลยไม่ตกลงด้วยไม่ได้แม้รถแทรกเตอร์จะมีสภาพไม่สามารถใช้งานได้โจทก์เสียหายอย่างไรก็จะต้องไปว่ากล่าวเอาแก่จำเลยเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามคำพิพากษาเรื่องแบ่งทรัพย์มรดก จำเลยต้องปฏิบัติตามลำดับในคำพิพากษา
แม้ศาลจะมีคำพิพากษาและคดีถึงที่สุดเกี่ยวกับที่ดินมรดกว่าให้จำเลยแบ่งที่ดินมรดกแก่โจทก์ทั้งสามคนละ 1 ใน 4 ส่วนหรือให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินแก่โจทก์ส่วนละ 1,250 บาท หรือมิฉะนั้นให้ขายที่ดินทั้งแปลงเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วนก็ตาม ในการบังคับคดีจำเลยจะต้องปฏิบัติการชำระหนี้ตามลำดับของคำพิพากษาทั้งข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยไม่สามารถจะแบ่งที่ดินมรดกให้แก่โจทก์ทั้งสามตามคำพิพากษาได้ ดังนี้ จำเลยจะเลือกวิธีการนำเงินค่าที่ดินมาชำระให้โจทก์ส่วนละ 1,250 บาท โดยโจทก์ไม่ตกลงด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2512 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนบังคับคดีเมื่อจำเลยไม่ทราบการดำเนินคดีและศาลบังคับคดีไม่เป็นไปตามลำดับในคำพิพากษา
ตามคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยอ้างว่า การดำเนินคดีของโจทก์ตั้งแต่ฟ้องจนมีการบังคับคดี จำเลยไม่ทราบเพราะจำเลยไปอยู่ที่อื่นเพิ่งทราบเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์จำเลยในวันที่ 7 เมษายน 2511 แล้วในวันที่ 22 เดือนเดียวกัน จำเลยก็ได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ จึงเป็นการยื่นคำขอภายใน 15 วันนับแต่วันที่จำเลยทราบถึงการยึดทรัพย์ เพราะก่อนนั้นเป็นเวลาที่จำเลยยังไม่ทราบอันเป็นพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้(อ้างฎีกาที่ 1296/2510)
แม้ศาลยังมิได้อนุญาตในการที่จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ แต่โจทก์ก็ได้ขอให้ศาลดำเนินการบังคับคดีข้ามชั้นไม่เรียกตามลำดับในคำพิพากษาคือ ศาลพิพากษาให้จำเลยโอนขายที่ดินให้โจทก์และให้จำเลยรับเงินที่ยังเหลือ 2,000 บาทจากโจทก์ หากจำเลยไม่จัดการโอน ให้จำเลยคืนเงินมัดจำ 13,000 บาท และให้จำเลยเสียค่าปรับอีก 13,000 บาทแก่โจทก์ จึงต้องบังคับให้จำเลยโอนที่ดินและรับเงินจากโจทก์เสียก่อน แต่โจทก์กลับขอให้ยึดที่ดินของจำเลยขาดทอดตลาดชำระหนี้ให้โจทก์ทีเดียวและศาลชั้นต้นได้สั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลย จึงเป็นการปฏิบัติที่มิได้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาเป็นชั้น ๆ จึงเป็นกรณีที่ดำเนินการบังคับคดีผิดไปจากคำพิพากษาศาลมีอำนาจสั่งเพิกถอนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27
แม้ศาลยังมิได้อนุญาตในการที่จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ แต่โจทก์ก็ได้ขอให้ศาลดำเนินการบังคับคดีข้ามชั้นไม่เรียกตามลำดับในคำพิพากษาคือ ศาลพิพากษาให้จำเลยโอนขายที่ดินให้โจทก์และให้จำเลยรับเงินที่ยังเหลือ 2,000 บาทจากโจทก์ หากจำเลยไม่จัดการโอน ให้จำเลยคืนเงินมัดจำ 13,000 บาท และให้จำเลยเสียค่าปรับอีก 13,000 บาทแก่โจทก์ จึงต้องบังคับให้จำเลยโอนที่ดินและรับเงินจากโจทก์เสียก่อน แต่โจทก์กลับขอให้ยึดที่ดินของจำเลยขาดทอดตลาดชำระหนี้ให้โจทก์ทีเดียวและศาลชั้นต้นได้สั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลย จึงเป็นการปฏิบัติที่มิได้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาเป็นชั้น ๆ จึงเป็นกรณีที่ดำเนินการบังคับคดีผิดไปจากคำพิพากษาศาลมีอำนาจสั่งเพิกถอนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9056/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามลำดับคำพิพากษา กรณีจดทะเบียนโอนไม่ได้ ต้องขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบการครอบครองพร้อมจดทะเบียนโอนเปลี่ยนชื่อในที่ดินจากชื่อจำเลยเป็นชื่อ ส. มิฉะนั้นให้ถือคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย หากไม่สามารถจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อได้ให้จำเลยคืนเงิน 1,350,000 บาท แก่โจทก์ ดังนี้ การชำระหนี้ต้องเป็นไปตามลำดับในคำพิพากษา มิใช่กรณีให้สิทธิจำเลยเลือกชำระหนี้ดังที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 198, 199 เมื่อการจดทะเบียนโอนเปลี่ยนชื่อในที่ดินไม่อาจปฏิบัติได้ เพราะกรมที่ดินไม่อนุญาตเนื่องจากเป็นการถือครองที่ดินแทนสามีคนต่างด้าว และไม่เข้าเงื่อนไขการได้มาซึ่งที่ดินของคนต่างด้าวตามประมวลกฎหมายที่ดิน จึงต้องขายทอดตลาดที่ดินพิพาทแล้วนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์