คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
วันเวลากระทำผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1875/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความและการกำหนดวันเวลากระทำผิดในคดีอาญา การฟ้องโดยมีเจตนาเลี่ยงอายุความย่อมไม่ชอบ
เงินที่อยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยขาดบัญชีไประหว่างวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2504 ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2505 แต่โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2525 ว่าจำเลยกระทำผิดระหว่างวันที่ 17 มิถุนายน 2505 ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2505 โดยหาได้มีข้อเท็จจริงใด ๆ ที่แสดงว่าจำเลยเริ่มกระทำความผิดตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2505 ตามฟ้องไม่ เป็นเพียงแต่ถือเอาตามระยะเวลาดังกล่าวเพื่อมิให้คดีโจทก์ขาดอายุความเท่านั้น เพราะหากฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดก่อนวันที่ 17 มิถุนายน 2505 แล้วคำนวณถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 20 ปี คดีจะขาดอายุความ การที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดในช่วงระยะเวลาดังกล่าวในฟ้อง จึงปราศจากหลักเกณฑ์ที่แน่นอน และมิใช่วันเวลาที่จำเลยกระทำความผิดอันแท้จริง เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดที่แท้จริงเมื่อใดและการกระทำความผิดของจำเลยอยู่ในช่วงระยะเวลาที่ไม่ขาดอายุความแล้ว ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความคลาดเคลื่อนของวันเวลากระทำผิดในคดีอาญา ไม่กระทบต่อการรับฟังพยานหลักฐาน
เกี่ยวกับเวลากระทำผิดในคดีอาญา โจทก์บรรยายฟ้องว่าเหตุเกิดคืนวันที่ 19 ก.พ. 95 "ชั้นสอบสวนพยานให้การว่าเกิดเหตุเวลา 1.00 นาฬิกาวันที่ 20 ก.พ." ชั้นศาลพยานให้การว่าเหตุเกิด" เวลาราว 23.00 นาฬิกาวันที่ 19 ก.พ." ผิดเวลากันเพียง 2 ชั่วโมงดังนี้+

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2010/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ฟ้องวันเวลากระทำผิดก่อนสืบพยาน ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ หากจำเลยยังต่อสู้คดีตามวันเวลาใหม่
โจทก์ขอแก้ฟ้องฉะเพาะวันเวลากระทำผิดภายหลังที่จำเลยยื่นคำให้การแล้ว แต่ก่อนสืบพะยานนั้น ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ และสำเนาคำร้องขอแก้ฟ้อง ส่งให้ทนายจำเลยรับแทนได้.
คดีที่จำเลยให้การปฏิเสธอ้างฐานที่อยู่ เมื่อภายหลังโจทก์ขอแก้ฟ้องวันกระทำผิด ซึ่งจำเลยทราบแล้วมิได้ขอให้การใหม่ ทั้งจำเลยยังอ้างตัวเองเบิกความต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้ใหม่ ดังนี้ ถือว่าจำเลยให้การต่อสู้คดี และทำการสืบตามวันที่โจทก์ขอแก้ใหม่เต็มภูมิแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2010/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ฟ้องวันเวลากระทำผิดก่อนสืบพยาน ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ หากจำเลยยังคงต่อสู้คดีตามวันที่แก้ใหม่
โจทก์ขอแก้ฟ้องเฉพาะวันเวลากระทำผิดภายหลังที่จำเลยยื่นคำให้การแล้ว แต่ก่อนสืบพยานนั้น ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ และสำเนาคำร้องขอแก้ฟ้อง ส่งให้ทนายจำเลยรับแทนได้
คดีที่จำเลยให้การปฏิเสธอ้างฐานที่อยู่ เมื่อภายหลังโจทก์ขอแก้ฟ้องวันกระทำผิดซึ่งจำเลยทราบแล้วมิได้ขอให้การใหม่ ทั้งจำเลยยังอ้างตัวเองเบิกความต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้ใหม่ ดังนี้ ถือว่าจำเลยให้การต่อสู้คดี และทำการสืบตามวันที่โจทก์ขอแก้ใหม่เต็มภูมิแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ข้อเท็จจริงเฉพาะเจาะจงในวันเวลากระทำผิด หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ย่อมฟังไม่ได้ว่ากระทำผิด
ฟ้องโจทก์กล่าวเจาะจงหาว่าจำเลยกระทำผิดเฉพาะวันเดียวมิได้หาว่าจำเลยกระทำผิดในวันอื่น หรือกระทำผิดในระหว่างเดือนนั้นด้วย
เมื่อทางพิจารณาตลอดจนคำให้การของพยานโจทก์ชั้นสอบสวนก็ไม่ได้ความเลยว่าจำเลยได้กระทำผิดในวันที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้ย่อมถือว่าหลักฐานพยานโจทก์ ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดในวันที่กล่าวหา ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22725-22726/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกานี้แก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจร โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานและวันเวลากระทำความผิดที่ต่างกัน
วันเวลากระทำความผิดในสำนวนคดีแรกและในสำนวนคดีที่สองที่โจทก์บรรยายฟ้องทั้งในความผิดฐานลักทรัพย์และความผิดฐานรับของโจรนั้นต่างกัน โจทก์จะฟ้องรวมกันมาเป็นคดีเดียวกันหรือจะแยกฟ้องเป็นคนละคดีก็ได้ การที่โจทก์แยกฟ้องจำเลยในสำนวนคดีแรกและสำนวนคดีที่สองคนละคดีเป็นรายกระทงความผิดจึงกระทำได้ ประกอบกับวันที่จำเลยถูกจับกุมมิใช่วันกระทำความผิด และทรัพย์ที่ยึดได้ก็เป็นทรัพย์ของผู้เสียหายคนละคนต่างรายการกัน มิใช่ทรัพย์ของผู้เสียหายคนเดียวกัน นอกจากนี้เจ้าพนักงานตำรวจก็ตรวจค้นพบทรัพย์ของกลางที่บ้านพวกของจำเลยและที่ห้องพักของจำเลยคนละวันกัน แสดงว่าทรัพย์ของกลางที่ถูกตรวจค้นพบทั้งสองครั้งจำเลยมิได้รับไว้ในคราวเดียวกัน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดวันเดียวกัน คำฟ้องของโจทก์ในความผิดฐานรับของโจรจึงเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระคนละกระทงความผิดกัน
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร เป็นการฟ้องให้ศาลเลือกลงโทษจำเลยในข้อหาใดข้อหาหนึ่งตามที่พิจารณาได้ความ ศาลไม่อาจลงโทษจำเลยพร้อมกันทั้งสองข้อหาได้ เมื่อข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำความผิดฐานรับของโจร จึงเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้ว เพียงแต่ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ส่วนศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง ดังนั้นแม้โจทก์และโจทก์ร่วมมิได้ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจร ศาลฎีกามีอำนาจลงโทษจำเลยในข้อหาความผิดฐานรับของโจรได้ตามที่โจทก์บรรยายข้อเท็จจริงดังกล่าวมาในฟ้องแล้ว