คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาทุน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3713/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาทุนการศึกษา: การยุติการศึกษาจากคำสั่งสถาบัน ไม่ถือเป็นผิดสัญญา
จำเลยทำสัญญาการรับทุนเพื่อศึกษาในประเทศกับโจทก์ โดยข้อความในสัญญาดังกล่าวจะถือว่าจำเลยผิดสัญญาต่อเมื่อจำเลยเป็นผู้ยุติหรือเลิกการศึกษาเสียเองแต่กรณีตามคำฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือเป็นผู้ออกคำสั่งให้จำเลยพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาตามระเบียบของสถาบัน การยุติหรือเลิกการศึกษาไม่ได้เกิดจากการกระทำของจำเลย จำเลยจึงไม่ผิดสัญญาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาทุนรัฐบาลต่างประเทศ: การชดใช้ทุนเมื่อลาออกก่อนครบกำหนด และการกำหนดเบี้ยปรับ
จำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตให้ไปศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์โดยทำสัญญากับกรมอาชีวศึกษาว่า เมื่อเสร็จการศึกษาไม่ว่าการศึกษาจะสำเร็จหรือไม่ จำเลยที่ 1 จะกลับมารับราชการในกรมอาชีวศึกษาหรือในกระทรวง ทบวง กรม อื่น ตามที่ทางราชการเห็นสมควรเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่า ของเวลาที่ได้รับทุน ถ้าผิดสัญญาจำเลยที่ 1จะชดใช้คืนทุนและเงินที่ได้รับในระหว่างการศึกษาพร้อมเบี้ยปรับเมื่อจำเลยที่ 1 กลับมารับราชการต่อแล้วลาออกจากราชการในขณะที่รับราชการชดใช้ทุนไม่ครบตามสัญญา จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ผิดนัดแม้ภายหลังจำเลยที่ 1 จะกลับเข้ารับราชการใหม่แต่โจทก์ก็มิได้ยินยอมให้จำเลยเข้ารับราชการเพื่อชดใช้ทุนต่อ จึงไม่อาจนับเวลาราชการต่อกันเพื่อชดใช้ทุนตามสัญญาได้ จำเลยที่ 1 ไม่หลุดพ้นความรับผิด จำเลยที่ 1 กลับเข้ารับราชการใหม่เป็นเวลามากกว่าเวลาราชการที่ยังขาดตามสัญญาเกือบเท่าตัว เมื่อคำนึงถึงเวลาราชการที่ขาดและเวลาราชการที่จำเลยที่ 1 เข้ารับราชการใหม่ประกอบกับทางได้เสียของโจทก์แล้ว ศาลไม่กำหนดเบี้ยปรับให้ ตามสัญญาระบุว่าหากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระเงินที่ต้องชำระคืนและเบี้ยปรับแก่โจทก์ ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากโจทก์ จำเลยที่ 1 ยอมให้คิดดอกเบี้ยจากเงินนั้น เมื่อโจทก์เคยแจ้งให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินแล้วแต่ไม่พบตัวจำเลยที่ 1 และภายหลังที่โจทก์รับจำเลยที่ 1 เข้ารับราชการใหม่ โจทก์มีหนังสือแจ้งไปยังจำเลยที่ 1 แต่ไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยที่ 1 ได้รับแจ้งจากโจทก์แล้วเมื่อใด จึงชอบที่จะให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป ปัญหาการคิดอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศเป็นเงินไทยเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและกำหนดให้ถูกต้องโดยให้คิดอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ศาลฎีกาพิพากษาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3244/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาทุนรัฐบาล: ความผูกพันชดใช้ทุนแม้มีการเปลี่ยนแปลงงานราชการ - การรับผิดตามสัญญา
มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 ออกจากราชการสืบเนื่องมาจากจำเลยที่ 1 ทำบันทึกแจ้งความประสงค์จะออกจากราชการไปเป็นพนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำเลยที่ 1 จะอ้างว่ามหาวิทยาลัยได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการตามความในข้อ 10 และข้อ 24แห่งกฎทบวง ฉบับที่ 2(พ.ศ. 2519) ออกตามความใน พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2507 ประกอบด้วยมาตรา 96(2) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2518ซึ่งเป็นกรณีสั่งให้ออกจากราชการเมื่อข้าราชการผู้นั้นสมัครไปปฏิบัติงานใด ๆ ตามความประสงค์ของทางราชการเพื่อให้จำเลยที่ 1พ้นจากความรับผิดที่มีต่อโจทก์ตามสัญญาการรับทุนหาได้ไม่ จำเลยที่ 1ยังคงมีความผูกพันตามสัญญาการรับทุนเมื่อจำเลยที่ 1 รับราชการไม่ครบกำหนดเวลาตามที่ตกลงไว้ จำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดใช้ทุน ก.พ. ที่โจทก์จ่ายไปแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3244/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาทุนรัฐบาล: การชดใช้ทุนเมื่อลาออกจากราชการก่อนกำหนด แม้มีคำสั่งอนุมัติจากหน่วยงานก็ยังต้องรับผิด
ตามสัญญาการรับทุน ก.พ. เพื่อไปศึกษาวิชาในต่างประเทศถ้าจำเลยรับราชการไม่ครบกำหนดเวลาตามที่ตกลงไว้ จำเลยจะต้องรับผิดใช้ทุน ก.พ.ที่โจทก์จ่ายไปแล้วรวมทั้งเบี้ยปรับโดยลดลงตามส่วนจำนวนเวลาที่จำเลยรับราชการชดใช้ไปบ้างแล้ว เว้นแต่ในกรณีซึ่ง ก.พ.และกระทรวงการคลังจะใช้ดุลพินิจเห็นว่ามีเหตุผลอันสมควรให้จำเลยพ้นความรับผิด เมื่อจำเลยออกจากราชการก่อนครบกำหนดตามสัญญาโดยที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีคำสั่งให้จำเลยออกจากราชการอันสืบเนื่องมาจากจำเลยแจ้งความประสงค์จะออกจากราชการไปเป็นพนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำเลยจะอ้างว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นออกคำสั่งให้จำเลยออกจากราชการ เพื่อให้จำเลยพ้นจากความรับผิดที่จำเลยมีต่อโจทก์ตามสัญญาการรับทุนหาได้ไม่ และแม้ว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มีคำสั่งให้จำเลยออกจากราชการตามความในข้อ 10 และข้อ 24 แห่งกฎทบวง ฉบับที่ 2(พ.ศ.2519)ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัยพ.ศ. 2507 ประกอบด้วยมาตรา 96(2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็นกรณีสั่งให้ออกจากราชการเมื่อข้าราชการผู้นั้นสมัครไปปฏิบัติงานใด ๆ ตามความประสงค์ของทางราชการก็ตามแต่จำเลยยังคงมีความผูกพันตามสัญญาการรับทุนดังกล่าว เมื่อ ก.พ.และกระทรวงการคลังยืนยันให้จำเลยรับผิดตามสัญญา อีกทั้งกรณีของจำเลยไม่ได้รับการยกเว้นตามมติคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2523 จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินแก่โจทก์ตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3244/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยต้องรับผิดตามสัญญาทุนคืน แม้ถูกสั่งออกจากราชการด้วยความสมัครใจ
การที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีคำสั่งให้จำเลยออกจากราชการก็สืบเนื่องมาจากจำเลยแจ้งความประสงค์จะออกจากราชการไปเป็นพนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ดังนั้น จำเลยจะอ้างว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นออกคำสั่งให้จำเลยออกจากราชการ เพื่อให้จำเลยพ้นจากความรับผิดที่จำเลยมีต่อโจทก์ตามสัญญาการรับทุนหาได้ไม่ ตามสัญญาการรับทุน ก.พ.เพื่อไปศึกษาวิชาในต่างประเทศถ้าจำเลยรับราชการไม่ครบกำหนดเวลาตามที่ตกลงไว้ จำเลยจะต้องรับผิดใช้ทุน ก.พ.ที่โจทก์จ่ายไปแล้วรวมทั้งเบี้ยปรับ โดยลดลงตามส่วนจำนวนเวลาที่จำเลยรับราชการชดใช้ไปบ้างแล้ว เว้นแต่ในกรณีซึ่งก.พ.และกระทรวงการคลังจะใช้ดุลพินิจเห็นว่ามีเหตุผลอันสมควรให้จำเลยพ้นความรับผิดเมื่อจำเลยออกจากราชการก่อนครบกำหนดตามสัญญาแม้ว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มีคำสั่งให้จำเลยออกจากราชการตามความในข้อ 10 และข้อ 24 แห่งกฎทบวง ฉบับที่ 2(พ.ศ. 2519)ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัยพ.ศ. 2507 ประกอบด้วยมาตรา 96(2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็นกรณีสั่งให้ออกจากราชการเมื่อข้าราชการผู้นั้นสมัครไปปฏิบัติงานใด ๆ ตามความประสงค์ของทางราชการก็ตาม แต่จำเลยยังคงมีความผูกพันตามสัญญาการรับทุนดังกล่าว เมื่อ ก.พ.และกระทรวงการคลังยืนยันให้จำเลยรับผิดตามสัญญาอีกทั้งกรณีของจำเลยไม่ได้รับการยกเว้นตามมติคณะรัฐมนตรี ลงวันที่11 สิงหาคม 2523 จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินแก่โจทก์ตามสัญญา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2005/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาทุนรัฐบาลกับการชดใช้ค่าทุนและค่าใช้จ่ายเมื่อผิดสัญญา
จำเลยที่ 1 ได้รับทุน เอ.ไอ.ดี. ซึ่งเป็นทุนที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลไทย ไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ โดยจำเลยที่ 1 สัญญาว่าเมื่อเสร็จการศึกษาแล้วจะกลับมารับราชการในหน่วยงานของโจทก์ที่ 1 หรือกระทรวง ทบวง กรมอื่นตามที่โจทก์ที่ 1 เห็นสมควรเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของเวลาที่ได้รับทุน หลังจากสำเร็จการศึกษา ณ ต่างประเทศแล้ว จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาลาออกจากราชการก่อนครบกำหนดรับราชการใช้ทุนคืนดังนี้จำเลยที่ 1 จะต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะเงินทุนที่ได้รับมิใช่ของรัฐบาลไทยและค่าเครื่องบินก็เป็นของโจทก์ที่ 2 หาได้ไม่ เพราะทุนดังกล่าวรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้มอบให้แก่รัฐบาลไทย และเมื่อมีการผิดสัญญา เงินที่ได้รับชดใช้จากผู้ได้รับทุนจะได้นำไปจัดสรรเป็นทุนใหม่ต่อไป ส่วนค่าเครื่องบินนั้นแม้จะเป็นเงินของโจทก์ที่ 2 ก็เป็นเงินของทางราชการ ซึ่งจำเลยที่ 1 ทำสัญญาผูกพันให้ไว้แก่โจทก์ที่ 1 ว่าจะชำระคืนให้โจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 จึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1940/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาทุนรัฐบาล: การผิดสัญญาเนื่องจากประพฤติชั่วในต่างประเทศ และการเรียกร้องค่าชดใช้
สำนักงาน ก.พ. โจทก์ที่ 1 ซึ่งมีอำนาจหน้าที่จัดการควบคุมการศึกษาของนักเรียนฝ่ายพลเรือนที่ศึกษาอยู่ในต่างประเทศ ทำสัญญากับจำเลยที่ 1 ผู้รับทุน โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เรื่องการรับทุนรัฐบาลไปศึกษาต่อในต่างประเทศตามความต้องการของกรมไปรษณีย์โทรเลขของโจทก์ที่ 2 ตามสัญญาการรับทุนนั้น เห็นได้ว่าเป็นเรื่องกระทำตามอำนาจหน้าที่ของโจทก์ที่ 1 มิใช่กระทำในฐานะตัวแทนโจทก์ที่ 2 โจทก์ที่ 1 กับจำเลยทั้งสองเป็นคู่สัญญาต่อกัน เมื่อจำเลยผิดสัญญาโจทก์ที่ 1 ย่อมมีอำนาจฟ้อง
ตามข้อบังคับของ ก.พ. กำหนดให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนักเรียนทุนในความดูแลของรัฐบาล ต้องรักษาชื่อเสียงมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว จำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานพยายามลักทรัพย์จนถูกศาลอาญาแห่งประเทศฝรั่งเศสพิพากษาลงโทษจำคุกและปรับ ย่อมถือว่าเป็นเรื่องผิดวินัยของ ก.พ. อันเป็นการผิดสัญญาที่ได้กระทำไว้แล้ว ต้องรับผิดชดใช้เงินทุนและเบี้ยปรับ
เงินทุนและเบี้ยปรับเป็นหนี้เงิน โจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดได้ตามกฎหมาย