คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หักล้างพยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6416/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามตามมาตรา 218 วรรคหนึ่ง: ข้อพิรุธพยานหลักฐานและการหักล้างพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานจำหน่าย เมทแอมเฟตามีนและความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย รวม 2 กระทง ให้จำคุกกระทงละ 5 ปี ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสามแล้ว คงจำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวมเป็นจำคุก 6 ปี 8 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยยังคงลงโทษจำคุกจำเลยแต่ละกระทง ไม่เกินห้าปี การพิจารณาว่าคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่ ต้องแยกพิจารณาโทษในความผิดแต่ละกระทงไปความผิดทั้งสองกระทงดังกล่าวต่างต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคหนึ่ง จำเลยฎีกาว่า พยานหลักฐานของโจทก์ทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารมีข้อพิรุธน่าสงสัยหลายประการและพยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพราง: การซื้อขายที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้การยกให้, การหักล้างพยานเอกสารด้วยพยานบุคคล
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้ยกที่พิพาทให้ ศ. แต่เป็นการขายที่พิพาทให้ ช. โดยให้ ศ. ถือกรรมสิทธิ์ไว้แทน เท่ากับเป็นการกล่าวอ้างว่าโจทก์ทำนิติกรรมอำพรางต้องบังคับตามนิติกรรมซื้อขายที่ถูกอำพราง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 155 วรรคสอง นิติกรรมยกให้เป็นการแสดงเจตนาลวงย่อมตกเป็นโมฆะตามมาตรา 155 วรรคหนึ่ง สัญญาหรือหนี้ที่ระบุไว้ในเอกสารนั้นไม่สมบูรณ์ จำเลยจึงนำสืบพยานบุคคลหักล้างพยานเอกสารได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5516/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารบัญชีผู้ถือหุ้นเป็นหลักฐานทางราชการมีน้ำหนักหักล้างพยานอื่นไม่ได้ การชำระค่าหุ้นต้องมีหลักฐานชัดเจน
บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่บริษัทจำเลยส่งไว้ต่อสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เป็นเอกสารราชการ กฎหมายสันนิษฐานว่าเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1141 เมื่อบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นดังกล่าวระบุว่าผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นและยังคงค้างค่าหุ้นอยู่ และผู้ร้องไม่อาจนำพยานหลักฐานมาสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมายได้ จึงต้องฟังว่าผู้ร้องถือหุ้นและค้างค่าหุ้นตามที่ระบุไว้
บริษัทจำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ผู้ร้องซึ่งถือหุ้นและค้างค่าหุ้นบริษัทจำเลยอยู่ต้องชำระเงินค่าหุ้นที่ค้างต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุการใช้ทางภารจำยอม การครอบครองปรปักษ์ และการหักล้างพยาน
การที่โจทก์ใช้ทางพิพาทเดินมาเพียง 6 ปี เท่านั้น(ไม่ถึง 10 ปี)ยังหาทำให้เกิดสิทธิเป็นทางภารจำยอมไม่
โจทก์ฟ้องขอให้เปิดทางภารจำยอม จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีทางในที่ของจำเลย โจทก์ไม่เคยเดินในที่จำเลยเช่นนี้ก็คือจำเลยปฏิเสธว่าไม่มีทางภารจำยอมตามฟ้องนั่นเอง เมื่อโจทก์นำสืบว่าได้เดินผ่านที่จำเลยมา 18 ปี ตั้งแต่เข้าอยู่ในที่ที่ซื้อนายปัด จำเลยก็ย่อมนำสืบคัดค้านได้ว่าโจทก์ซื้อและเข้าอยู่ในที่นายปัดเมื่อ 6 ปีมานี้เอง เป็นการสืบหักล้างพยานโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความทางภารจำยอม: การใช้ทางไม่ต่อเนื่องและการหักล้างพยาน
การที่โจทก์ใช้ทางพิพาทเดินมาเพียง 6 ปี เท่านั้น(ไม่ถึง 10 ปี)ยังหาทำให้เกิดสิทธิเป็นทางภารจำยอมไม่
โจทก์ฟ้องขอให้เปิดทางภารจำยอม จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีทางในที่ของจำเลย โจทก์ไม่เคยเดินในที่จำเลยเช่นนี้ก็คือจำเลยปฏิเสธว่าไม่มีทางภารจำยอมตามฟ้องนั่นเอง เมื่อโจทก์นำสืบว่าได้เดินผ่านที่จำเลยมา 18 ปี ตั้งแต่เข้าอยู่ในที่ที่ซื้อนายปัด จำเลยก็ย่อมนำสืบคัดค้านได้ว่าโจทก์ซื้อและเข้าอยู่ในที่นายปัดเมื่อ 6 ปีมานี้เอง เป็นการสืบหักล้างพยานโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานหักล้างพยานโจทก์ในคดีลักทรัพย์ การสืบพยานที่ไม่เป็นการพิสูจน์พยาน
ลักษณะพะยานสืบพิศูจน์พะยานสืบหักล้างพะยานในเรื่องลักทรัพย์จำเลยขอสืบพะยานว่ารู้เห็นว่าพะยานโจทก์เอาของกลางไปซุกใส่ที่จำเลยได้ไม่เป็นการพิศูจน์พะยานฎีกาอุทธรณ์คดีคนบังคับอังกฤษคดีอาญาคนบังคับอังกฤษเป็นเจ้าทรัพย์ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับศาลชั้นต้นโจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2560

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักล้างพยานเอกสารต้องด้วยข้อเท็จจริง พยานโจทก์ต้องเบิกความเกี่ยวกับเอกสารนั้นโดยตรง การฎีกาที่ไม่ชัดเจนถือเป็นเหตุต้องห้ามมิให้รับวินิจฉัย
ที่จำเลยฎีกาในข้อกฎหมายว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 9 รับฟังคำเบิกความโจทก์ที่ 1 ขัดแย้งกับพยานเพื่อหักล้างพยานเอกสารดังกล่าวไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 94 นั้น ในทางนำสืบไม่ปรากฏว่ามีพยานโจทก์คนใดที่เบิกความเกี่ยวกับเอกสาร มีเพียงจำเลยที่ตอบทนายโจทก์ทั้งสิบเอ็ดซึ่งนำเอกสารดังกล่าวมาถามค้าน จึงไม่อาจฟังได้ว่าคำเบิกความพยานโจทก์ทั้งสิบเอ็ดขัดแย้งกับเอกสาร ดังที่จำเลยฎีกา ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป ส่วนฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงของจำเลยนั้น ล้วนเป็นการคัดลอกข้อความในอุทธรณ์ของจำเลยมาทั้งสิ้น โดยมิได้ระบุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงให้เห็นว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ไม่ถูกต้อง คลาดเคลื่อน หรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร และที่ถูกแล้วศาลอุทธรณ์ภาค 9 ควรวินิจฉัยอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง