พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2282/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าบ้านและมอบหมายให้ดูแลทรัพย์สินไม่ถือเป็นการลักทรัพย์ แต่เป็นการยักยอก
ผู้เสียหายให้จำเลยเช่าบ้านและบอกให้จำเลยช่วยดูแลทรัพย์สินในบ้านถือเป็นการมอบหมายให้จำเลยครอบครองทรัพย์ที่อยู่ในบ้านแทนผู้เสียหายแล้ว เมื่อจำเลยเอาทรัพย์นั้นไป การกระทำของจำเลยจึงต้องด้วยความผิดฐานยักยอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเช่าบ้าน: สิทธิผู้เช่าหลังครบกำหนดสัญญา และการบังคับคดีซ้ำ
การที่โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า แล้วโจทก์จำเลยตกลงประนีประนอมกันให้จำเลยเช่าอยู่ต่อไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แม้จะไม่มีข้อความว่า เมื่อครบกำหนดตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว จำเลยยอมออกจากห้องเช่าที่ฟ้องขับไล่นั้นก็ตามแต่ก็ย่อมเห็นความประสงค์ของคู่กรณีว่าเป็นการยอมให้อยู่ต่อไปได้ชั่วระยะเวลาที่ระบุไว้เท่านั้น หมายความว่าเมื่อครบกำหนดนั้นแล้ว ผู้เช่าต้องออกจากห้องเช่าไป
คำสั่งศาลในการบังคับคดี หากปรากฏไม่ถูกต้อง ย่อมแก้ไขใหม่ได้จึงไม่เป็นการต้องห้ามทีโจทก์จะมีคำร้องขึ้นใหม่ โดยที่โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งเดิม
คำสั่งศาลในการบังคับคดี หากปรากฏไม่ถูกต้อง ย่อมแก้ไขใหม่ได้จึงไม่เป็นการต้องห้ามทีโจทก์จะมีคำร้องขึ้นใหม่ โดยที่โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1709/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าบ้าน: สิทธิของผู้เช่าและบริวารเมื่อผู้เช่าย้ายไปทำงานต่างจังหวัด การเช่ายังไม่ระงับโจทก์ไม่มีสิทธิขับไล่
ผู้เช่าเป็นตำรวจรถไฟ ได้เช่าห้องพิพาทเพื่ออยู่อาศัยในเขตเทศบาลเมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาผู้เช่าถูกทางราชการสั่งย้ายให้มารับราชการจังหวัดพระนคร โดยไปพักอยู่ที่กองรักษาการณ์รถไฟ จำเลยเป็นภริยาผู้เช่า ไปเรียนวิชาการช่างที่จังหวัดพระนคร และไปอยู่หอพัก ทั้ง 2 คนไปแต่ตัวมิได้ขนสิ่งของเครื่องใช้สำหรับครอบครัว มิได้อพยพเอาบุตรและแม่ยายของผู้เช่าตามไปด้วย ที่อยู่ของผู้เช่าและจำเลยในจังหวัด พระนครยังมิได้เป็นหลักแหล่ง โดยเฉพาะที่จำเลยไปเรียนการช่างก็เป็นไปชั่วคราวแล้วจะกลับมาประกอบอาชีพทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนฟ้องคดีนี้จำเลยก็ได้กลับมาอยู่ในห้องพิพาทแล้ว แม้พลตำรวจเกษมย้ายขาดจากตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปประจำกองตำรวจรถไฟ แต่ก็ไม่ปรากฏชัดว่า ต้องไปประจำที่ จังหวัดที่พระนครเป็นเด็ดขาดหรือจะต้องควบคุมขบวนรถไฟไป ๆ มา ๆ ทางไหนบ้าง ในสำมะโนครัวมีชื่อผู้เช่าจำเลยและบุตรอยู่ในห้องพิพาท ผู้เช่ายังคงใช้สิทธิเป็นผู้เช่า โดยให้จำเลยกับบุตรและแม่ยายอยู่ในฐานะบริวาร การเช่ายังไม่ระงับ โจทก์ยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งเป็นบริวารของผู้เช่า (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 32/2503 และ ครั้งที่ 35/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเช่าบ้านและการสิ้นสุดความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้ให้เช่าบ้านและผู้เช่า ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อคณะกรมการอำเภอ โดยผู้เช่าขอเช่าอยู่ต่อ ไปอีก 6 เดือน แล้วผู้เช่าจะออกจากบ้านรายนี้ไป ดังนี้ ย่อมเป็นการแสดงความยินยอมของผู้เช่าที่จะออกจากบ้าน เช่า ต้องตามข้อยกเว้นของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489 มาตรา 16 (5) แล้ว เมื่อครบกำหนดแล้ว ไม่ยอมออกจากบ้านเช่า ผู้ให้เช่าย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเช่าบ้านและการสิ้นสุดความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้ให้เช่าบ้านและผู้เช่า ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อคณะกรมการอำเภอ โดยผู้เช่าขอเช่าอยู่ต่อไปอีก6 เดือน แล้วผู้เช่าจะออกจากบ้านรายนี้ไป ดังนี้ย่อมเป็นการแสดงความยินยอมของผู้เช่าที่จะออกจากบ้านเช่า ต้องตามข้อยกเว้นของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันพ.ศ.2489 มาตรา 16(5) แล้ว เมื่อครบกำหนดแล้วไม่ยอมออกจากบ้านเช่า ผู้ให้เช่าย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าบ้านและการเปลี่ยนแปลงภูมิลำเนา ผู้เช่าหมดสิทธิคุ้มครองค่าเช่า
เช่าบ้านอยู่ในจังหวัดธนบุรี แล้วย้ายไปรับราชการและไปมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเสียถึง 3 ปีคงมีบริวารอยู่ในบ้านเช่าเท่านั้นดังนี้ ผู้เช่าย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯเพราะไปมีภูมิลำเนาอยู่ที่อื่นเสียหลายปีแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าบ้านผ่านตัวแทนที่แต่งตั้งโดยการแสดงออก แม้ไม่มีหนังสือก็ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไปต่างประเทศเสีย ได้มอบบ้านให้ภรรยาดูแลแทน แม้ภรรยานั้นจะไม่ใช่ภรรยาเจ้าของบ้านตามกฎหมายก็ตาม เมื่อภรรยานั้นให้คนเช่าบ้านนั้นแยู่อาศัย ผู้เช่านั้นก็ย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ เพราะถือได้ว่าเป็นการตั้งภรรยาเป็นตัวแทนด้วยการแสดงออก จึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือ