พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6320/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารชำระหนี้ที่ไม่ตรงกับฟ้อง ย่อมใช้เป็นหลักฐานการชำระหนี้ไม่ได้ และการเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารเป็นสิ่งต้องห้าม
เอกสารการชำระหนี้ของจำเลย แม้จะมีโจทก์ในฐานะ ผู้ให้กู้ได้ลงลายมือชื่อไว้ แต่เมื่ออ่านข้อความทั้งหมดแล้วกลับได้ความว่าโจทก์ได้รับเงินจากจำเลยเนื่องในกรณีที่จำเลยค้ำประกันหนี้รายที่ ฉ. เป็นผู้กู้เงินไปจากโจทก์ เท่ากับว่าจำเลยได้ชำระหนี้เงินกู้ตามสัญญากู้ฉบับอื่นไม่ใช่ชำระหนี้ตามที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้ดังนั้นเอกสารดังกล่าวจะรับฟังเป็นหลักฐานการใช้เงินรายนี้ไม่ได้ และจำเลยจะนำสืบว่าเงินที่ชำระแทนฉ. กับเงินที่กู้โจทก์ตามฟ้องเป็นหนี้รายเดียวกันก็เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้ไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ ศาลรับฟังพยานบุคคลเปลี่ยนแปลงข้อความหนังสือรับสภาพหนี้ได้
การรับสภาพหนี้ไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 172 เดิม (มาตรา 193/14 (1)ใหม่) ดังนั้นการที่ศาลรับฟังพยานบุคคลแล้วนำไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความตามหนังสือรับสภาพหนี้ จึงไม่ต้องห้ามตามป.วิ.พ. มาตรา 94 (ข)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญาซื้อขายโดยพยานบุคคล และผลกระทบต่อสินสมรสในคดีล้มละลาย
แม้การนำพยานบุคคลมาสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาซื้อขายว่า น. ซื้อบ้านพิพาทแทน ก. จะเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 และเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อศาลฎีกาไม่เห็นสมควร ศาลฎีกาก็ไม่ยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2016/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญาเช่า: ข้อห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94(ข)
จำเลยทำสัญญาเช่าตึกแถวในนามของตนเองเป็นผู้เช่าจากโจทก์จำเลยและจำเลยร่วมจะนำสืบพยานบุคคลว่าที่จำเลยลงชื่อในสัญญาเช่าเป็นการกระทำแทนจำเลยร่วม จำเลยเป็นตัวแทนเชิดของจำเลยร่วมไม่ได้เพราะเท่ากับนำสืบว่าความจริงจำเลยไม่ใช่ผู้เช่า แต่จำเลยร่วมเป็นผู้เช่า จึงเป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารสัญญาเช่า ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94(ข).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามตามมาตรา 249 พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง, การเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสาร, และการพิสูจน์สภาพอาคาร
จำเลยให้การต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้และจำเลยก็มิได้โต้แย้ง จึงถือว่าจำเลยยินยอมดำเนินกระบวนพิจารณาเท่าที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นไว้เท่านั้น เมื่อจำเลยยกข้อต่อสู้นี้ขึ้นในชั้นฎีกาจึงเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และมิใช่ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249
สัญญาจะซื้อขายระบุชัดว่าโจทก์วางมัดจำเป็นเงิน 400,000บาทจำเลยจะนำสืบโต้เถียงเพื่อให้ศาลฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นอันมีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความที่ปรากฏในเอกสารหาได้ไม่ ต้องห้ามตามป.วิ.พ. มาตรา 94.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
สัญญาจะซื้อขายระบุชัดว่าโจทก์วางมัดจำเป็นเงิน 400,000บาทจำเลยจะนำสืบโต้เถียงเพื่อให้ศาลฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นอันมีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความที่ปรากฏในเอกสารหาได้ไม่ ต้องห้ามตามป.วิ.พ. มาตรา 94.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์: การเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารสัญญาเช่าเป็นไปตามเงื่อนไขของ ป.วิ.แพ่ง ม.94
การเช่าโรงเก็บสินค้าและการเช่าที่ดิน ก.ม.บังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือตาม ป.พ.พ. ม.538
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเอง สัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองได้ว่าเซ็นชื่อเป็นผู้เช่าในสัญญาเช่านั้นจริง ดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์ เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉย ๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไร เมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความชัดแจ้งอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม ม.94 วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง ก.ม.มีให้ศาลรับฟังพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499).
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเอง สัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองได้ว่าเซ็นชื่อเป็นผู้เช่าในสัญญาเช่านั้นจริง ดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์ เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉย ๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไร เมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความชัดแจ้งอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม ม.94 วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง ก.ม.มีให้ศาลรับฟังพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเช่าทรัพย์สิน: การเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญาเช่าที่ทำเป็นหนังสือ
การเช่าโรงเก็บสินค้าและการเช่าที่ดิน กฎหมายบังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเองสัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองว่าได้เซ็นชื่อเป็นผู้เช่านั้นในสัญญาเช่านั้นจริงดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉยๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไรเมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความแจ้งชัดอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม มาตรา 94วรรคท้ายแต่กรณีนี้ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นใน มาตรา94วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง กฎหมาย มิให้ศาลรับฟังเป็นพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499)
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเองสัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองว่าได้เซ็นชื่อเป็นผู้เช่านั้นในสัญญาเช่านั้นจริงดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉยๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไรเมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความแจ้งชัดอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม มาตรา 94วรรคท้ายแต่กรณีนี้ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นใน มาตรา94วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง กฎหมาย มิให้ศาลรับฟังเป็นพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญายอมความ และผลของการยอมความตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
โจทก์ฟ้องขับไล่ จำเลยได้ทำยอมต่ออำเภอมีความว่า "เมื่อครบกำหนด 3 เดือนจะออกไป" จำเลยจะนำสืบว่า จำเลยได้ตกลงว่า "ถ้าหาที่อยู่ใหม่ได้ก็จะออกไปภายใน 3 เดือน" นั้นไม่ได้เพราะเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญา ต้องห้ามตาม วิ.แพ่ง ม.94 (ข)
ทำยอมต่ออำเภอขอผัดออกจากที่เช่า ถือว่าเป็นการยอมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ได้
ทำยอมต่ออำเภอขอผัดออกจากที่เช่า ถือว่าเป็นการยอมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญากู้ จำเลยต้องแสดงเหตุผลให้สัญญาไม่สมบูรณ์
โจทย์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้จริงแต่ไม่ได้รับเงิน แต่ก็มิได้กล่าวว่า สัญญากู้นั้นไม่สมบูรณ์เพราะเหตุใดดังนี้ จำเลยจะนำสืบไม่ได้.