พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2549 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องรับของโจรต้องระบุหลังการลักทรัพย์ การบรรยายฟ้องที่ขัดแย้งทำให้คำฟ้องไม่ชอบ
ความผิดฐานรับของโจรเป็นความผิดที่เกิดจากการกระทำอันเป็นการอุปการะความผิดฐานลักทรัพย์ หรือความผิดอื่นดังที่บัญญัติไว้ใน ป.อ. มาตรา 357 เช่น ช่วย ซื้อ จำหน่าย หรือรับไว้โดยประการอื่นใด ความผิดฐานรับของโจรจึงต้องเกิดหลังจากมีการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่า การกระทำความผิดฐานรับของโจรเกิดขึ้นก่อนย่อมเป็นคำฟ้องที่ขัดต่อสภาพและลักษณะของการกระทำความผิดอย่างชัดเจน จึงเป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1923/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกสถานที่ก่อสร้างและการประเมินเวลาการกระทำผิดฐานบุกรุก
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยกับพวกร่วมกันบุกรุกเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุข เกิดขึ้นตั้งแต่เวลากลางวันต่อเนื่องถึงเวลากลางคืนและวันต่อมาทั้งเวลากลางวันและกลางคืน จึงเป็นผลของการกระทำผิดฐานบุกรุกในเวลากลางวันเท่านั้น จะถือว่าจำเลยกระทำผิดฐานบุกรุกในเวลากลางคืนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(3) ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3145/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเงินตราปลอมออกใช้หลังทราบว่าเป็นของปลอม มีรายละเอียดเวลาการกระทำความผิดตามกฎหมาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2525 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ดังนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(11)เวลาเกิดเหตุตามฟ้องของโจทก์ ก็คือตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกันเป็นระยะเวลานาน 6 ชั่วโมง เข้าใจได้ว่าจำเลยได้รู้อยู่ว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินตราซึ่งมีผู้ทำปลอมขึ้นไม่สามารถใช้ได้ ตามกฎหมายแต่จำเลยได้ขืนนำออกใช้เมื่อเวลาระหว่าง พระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 จนถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกันอันเป็นระยะเวลาหลังจาก จำเลยได้มาซึ่งเงินตราที่มีผู้ทำปลอมขึ้น ฟ้องโจทก์จึง มีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องอาญาต้องระบุเวลาที่เกิดการกระทำผิด โดยเฉพาะคดีเช็ค การระบุวันที่ออกเช็คไม่เพียงพอ
การกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497 มาตรา 3 จะเกิดขึ้นต่อเมื่อธนาคารผู้มีชื่อเป็นผู้ใช้เงินตามเช็คปฏิเสธการใช้เงินตามเช็คนั้นแต่ฟ้องโจทก์ไม่ได้ระบุวันเวลาที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คและไม่ได้แนบสำเนาเช็คและใบคืนเช็คมากับคำฟ้องด้วยฟ้องของโจทก์ไม่มีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิด จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เวลาการกระทำผิดเป็นข้อสำคัญในฟ้อง หากต่างจากที่กล่าวอ้างในฟ้อง ต้องยกฟ้อง
รายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดนั้นเป็นข้อสำคัญซึ่งโจทก์จะต้องกล่าวในฟ้องให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เมื่อปรากฏจากคำพยานว่า จำเลยทำผิดวันอื่น ไม่ใช่วันที่โจทก์กล่าวหาในฟ้องต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ศาลยกฟ้องเนื่องจากความไม่ชัดเจนของเวลาการกระทำผิด
ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีก่อน โดยวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยที่โจทก์กล่าวอ้างมาในฟ้องนั้น ไม่แน่ชัดว่าจำเลยได้กระทำผิดในเวลาใดซึ่งจะลงโทษจำเลยสำหรับความผิดที่ขอให้ลงโทษไม่ได้ ดังนี้ถือได้ว่าศาลได้พิพากษาคดีในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว จะฟ้องอีกไม่ได้เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6014/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของคำฟ้องอาญา: การระบุเวลาการกระทำผิดและหน้าที่ของพนักงานอัยการ
แม้โจทก์จะไม่ได้ระบุเวลากระทำผิด แต่จำเลยเป็นพนักงานอัยการก็เห็นได้ว่าหมายถึงระหว่างเวลาปฏิบัติราชการตามปกตินั่นเอง ซึ่งจำเลยที่ 3 และที่ 4 ย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4 ได้ดำเนินการเกี่ยวกับคดีของโจทก์ข้างต้นในวันเวลาใด เพราะจำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคดีของโจทก์ดังกล่าวด้วยตนเอง คำฟ้องของโจทก์มีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยที่ 3 และที่ 4 เข้าใจข้อหาได้ดี เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) แล้ว