โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นลูกจ้างของเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้กระทำผิดกฎหมายต่างกรรมต่างวาระกัน คือ เมื่อระหว่างตั้งแต่วันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๐๕ ถึง ๒๔ ตุลาคม ๒๕๐๕ เวลากลางวันและกลางคืนจำเลยได้ลักปากกาหมึกซึม ติดต่อ และนาฬิกา รวม ๔๙ รายการ รวมราคา ๒๐,๑๕๐ บาท ซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาและรับผิดชอบของนายกะจี่ นางสาวศิริและเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยไป ในการลักทรัพย์ดังกล่าวจำเลยลักไปครั้งละ ๑ และ ๒ รายการ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕,๙๑ และให้ใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นสอบโจทก์ว่า ตามฟ้องโจทก์ว่าจำเลยทำผิดต่างกรรมต่างวาระกันนั้น ตามทางสอบสวนได้ความว่า จำเลยลักทรัพย์ไปต่างกรรมต่างวาระกันสักกี่ครั้ง โจทก์แถลงว่าตามทางสอบสวนได้ความว่า จำเลยลักทรัพย์รายนี้ไปรวม ๔๐ ครั้ง ศาลสอบจำเลย ๆ แถลงรับว่าลักทรัพย์รายนี้ไปรวม ๔๐ ครั้งจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๕ จำเลยลักทรัพย์รวม ๔๐ ครั้ง ทุกครั้งเป็นความผิดมีโทษเสมอกัน ไม่มีกระทงโทษหนักที่สุดต้องระวางโทษทุกกระทงความผิดกระทงละ ๖ เดือน รวม ๔๐ กระทง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๑ เป็นโทษจำคุก ๒๐ ปี รับ ลดกึ่ง คงจำคุก ๑๐ ปี กับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยเรียงกระทงนั้นเป็นโทษหนักไปแม้โทษทั้ง ๔๐ กระทงจะหนักเท่ากัน ศาลย่อมใช้ดุลพินิจลงโทษจำเลยกระทงเดียวได้ พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยกระทงเดียว คงจำคุก ๕ ปี ลดโทษให้ ๑ ใน ๕ คงจำคุก ๔ ปี
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
๑. ที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยทุกกรรม เรียงกระทงลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น เห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นสอบถามโจทก์จำเลย และโจทก์จำเลยแถลงว่าจำเลยลักทรัพย์รายนี้ไปรวม ๔๐ ครั้งนั้น เป็นการสอบถามนอกประเด็น แม้จำเลยจะแถลงรับเช่นนั้น ก็ลงโทษจำเลยทุกกรรมเรียงกระทงรวม ๔๐ กระทงมิได้ เพราะฟ้องมิได้บรรยายไว้ดังคำแถลงของโจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยกระทงเดียวจึงชอบแล้ว
๒. ที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องเคลือบคลุม โดยอ้างเหตุว่าโจทก์มิได้ระบุให้ชัดเจนว่าที่จำเลยลักทรัพย์ ๔๙ รายการและลักไปครั้งละ ๑ และ ๒ รายการนั้น รวมทั้งหมดกี่ครั้ง ครั้งไหนกี่รายการ และครั้งไหนลักอะไร นั้น เห็นว่า ฟ้องของโจทก์เพียงแต่มิได้ระบุว่าจำเลยลักทรัพย์รายนี้ไปรวมกี่ครั้งเท่านั้น ซึ่งศาลฎีกาก็ได้วินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยแล้ว ทั้งจำเลยเข้าใจข้อกล่าวหาได้ดี และมิได้หลงต่อสู้ ฟ้องของโจทก์จึงมิใช่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
พิพากษาแก้ เป็นว่าให้ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกสองปีหกเดือน