คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4663/2529

ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยข้อหาพยายามฆ่าและริบอาวุธปืน กระสุนปืนและปลอกกระสุนปืนของกลาง ยกฟ้องข้อหาตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน โดยวินิจฉัยว่าไม่ปรากฏตามทางนำสืบว่า จำเลยไม่มีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องข้อหาพยายามฆ่าด้วยแต่คงให้ริบของกลางโดยมิได้วินิจฉัยเรื่องอาวุธปืนของกลางว่าเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนหรือไม่ คดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะข้อหาพยายามฆ่า ดังนี้เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยว่าพยานโจทก์รับฟังไม่ได้ว่า จำเลยเป็นคนร้ายที่ยิงผู้เสียหายและจำเลยไม่ได้นำของกลางมาใช้ในการกระทำผิดตามฟ้องศาลย่อมไม่มีอำนาจ ริบของกลาง

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนพกสั้น ชนิดทำเองขนาด .๓๒ ใช้ยิงได้ ไม่มีหมายเลขทะเบียนของนายทะเบียนประทับ ๑ กระบอกและกระสุนปืนขนาด .๓๒ จำนวน ๓ นัดไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมาย จำเลยได้พาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นนหรือเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ แล้วจำเลยใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายสุพจน์ สุครีพ ๒ นัดโดยเจตนาฆ่าแต่กระสุนปืนเกิดด้าน ๑ นัด ส่วนอีก ๑ นัด จำเลยยิงไม่แม่นพอ กระสุนปืนจึงไม่ถูกนายสุพจน์ สุครีพ ตามวันเวลาเกิดเหตุ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมอาวุธปืนที่จำเลยใช้กระทำผิด และกระสุนปืนขนาด .๓๒ จำนวน ๒ นัด ปลอกกระสุนปืน .๓๒ จำนวน ๑ ปลอก ที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๙๑ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๓, ๖, ๗ และริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๘๐ จำคุก ๑๒ ปี ริบของกลาง คำขออื่นให้ยก

โจทก์จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงและวินิจฉัยว่าประจักษ์พยานและพยานประกอบของโจทก์เบิกความแตกต่างกันในข้อที่เป็นสาระสำคัญแห่งคดีรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ยิงผู้เสียหาย

อนึ่งสำหรับของกลางนั้นเห็นว่าจำเลยไม่ได้นำมาใช้ในการกระทำผิดตามฟ้อง ศาลไม่มีอำนาจริบ

พิพากษาแก้เป็นว่าไม่ริบของกลาง นอกจากที่แก้คงให้เป็นตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์