พบผลลัพธ์ทั้งหมด 548 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาโดยผู้ไม่มีอำนาจ ศาลมีอำนาจแก้ไขข้อบกพร่องเพื่อความยุติธรรม
ป้าเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาแทนหลาน ซึ่งเป็นผู้เยาว์โดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย จนศาลสืบพยานโจทก์ไปหมดแล้วจึงปรากฎว่าป้าไม่มีสิทธิฟ้อง ดังนี้ พึงถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติบกพร่องในเรื่องความสามารถ ถ้าศาลเห็นว่า เพื่อเป็นความยุติธรรมศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งแก้ไขข้อบกพร่องนั้นได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 56 คือสั่งตั้งผู้แทนโดยชอบธรรมเฉพาะคดีให้แก่ผู้เยาว์โดยมีผู้ขอเข้ามา หรือศาลจะพิจารณาตั้งเองดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 56 วรรค 4 แล้ว พิจารณาคดีในข้อหาของโจทก์ไปก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1153-1154/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบคิดก่อการกบถ: วันเวลาที่ระบุในฟ้อง และการล้มล้างรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ฟ้องหาว่าจำเลยได้สมคบกันพยายามจะก่อการกบถโดยจะกระทำการประทุษฐร้ายเพื่อทำลายรัฐบาล ฯลฯ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2491 เวลาใดไม่ปรากฎถึง วันที่ 2 ตุลาคม ปีเดียวกันเวลากลางวัน ฯลฯ ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่ระบุวันเวลาจำกัดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้แล้ว กฎหมายหาได้บังคับให้แยกเป็นเวลา เป็นรายตัวบุคคลไม่ และไม่จำเป็นต้องแยกว่า จำเลยคนใดกระทำผิดอย่างใด เมื่อได้บรรยายการกระทำผิดมาพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
การล้มล้างรัฐบาลเก่า ตั้งเป็นรัฐบาลขึ้นใหม่โดยใช้กำลังนั้น ในตอนต้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายจนกว่าประชาชนจะได้ยอมรับนับถือแล้ว เมื่อเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงคือหมายความว่า ประชาชนได้ยอมรับนับถือแล้ว ผู้ก่อการกบถล้มล้างรัฐบาลดั่งกล่าวก็ต้องเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 102
การล้มล้างรัฐบาลเก่า ตั้งเป็นรัฐบาลขึ้นใหม่โดยใช้กำลังนั้น ในตอนต้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายจนกว่าประชาชนจะได้ยอมรับนับถือแล้ว เมื่อเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงคือหมายความว่า ประชาชนได้ยอมรับนับถือแล้ว ผู้ก่อการกบถล้มล้างรัฐบาลดั่งกล่าวก็ต้องเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 102
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1153-1154/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีกบฏ และการเปลี่ยนแปลงสถานะของรัฐบาล
ฟ้องหาว่าจำเลยได้สมคบกันพยายามจะก่อการกบฏโดยจะกระทำการประทุษร้ายเพื่อทำลายรัฐบาล ฯลฯ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2491 เวลาใดไม่ปรากฏถึงวันที่ 2 ตุลาคมปีเดียวกันเวลากลางวัน ฯลฯ ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่ระบุวันเวลาจำกัดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้แล้วกฎหมายหาได้บังคับให้แยกเป็นเวลา เป็นรายตัวบุคคลไม่ และไม่จำเป็นต้องแยกว่า จำเลยคนใดกระทำผิดอย่างใด เมื่อได้บรรยายการกระทำผิดมาพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
การล้มล้างรัฐบาลเก่า ตั้งเป็นรัฐบาลขึ้นใหม่โดยใช้กำลังนั้น ในตอนต้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายจนกว่าประชาชนจะได้ยอมรับนับถือแล้ว เมื่อเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงคือหมายความว่า ประชาชนได้ยอมรับนับถือแล้วผู้ก่อการกบฏล้มล้างรัฐบาลดังกล่าวก็ต้องเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 102
การล้มล้างรัฐบาลเก่า ตั้งเป็นรัฐบาลขึ้นใหม่โดยใช้กำลังนั้น ในตอนต้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายจนกว่าประชาชนจะได้ยอมรับนับถือแล้ว เมื่อเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงคือหมายความว่า ประชาชนได้ยอมรับนับถือแล้วผู้ก่อการกบฏล้มล้างรัฐบาลดังกล่าวก็ต้องเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 102
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์สลากกินแบ่ง – การซื้อโดยสุจริต – ผู้ถือสลากเป็นเจ้าของ
สลากกินแบ่งของรัฐบาลจัดว่า เป็นทรัพย์สินชะนิดหนึ่งซึ่งซื้อขายเปลียนมือกันได้ ผู้ใดถือสลากย่อมถือว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ เว้นแต่าจะมีเหตุผลแสดงให้เห็นว่า ผู้นั้นมีไว้โดยไม่สุจริต
ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากผู้มีอาชีพทางค้าขายสลากกินแบ่งโดยสุจริต ไม่ทราบว่า เป็นสลากของผู้อื่นที่รับไปาจำหน่ายแล้วศูนย์หายไป โดยเจ้าของได้แจ้งความและอาศัยกับสำนักงานสลากกินแบ่งไว้แล้ว ดังนี้ พออนุโลมเข้า ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1332 ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิได้รับรางวัล เมื่อสลากถูกรางวัล
ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากผู้มีอาชีพทางค้าขายสลากกินแบ่งโดยสุจริต ไม่ทราบว่า เป็นสลากของผู้อื่นที่รับไปาจำหน่ายแล้วศูนย์หายไป โดยเจ้าของได้แจ้งความและอาศัยกับสำนักงานสลากกินแบ่งไว้แล้ว ดังนี้ พออนุโลมเข้า ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1332 ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิได้รับรางวัล เมื่อสลากถูกรางวัล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์สลากกินแบ่ง - สิทธิผู้ซื้อโดยสุจริต - การได้รับรางวัล
สลากกินแบ่งของรัฐบาลจัดว่า เป็นทรัพย์สินชนิดหนึ่งซึ่งซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้ ผู้ใดถือสลากย่อมถือว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ เว้นแต่จะมีเหตุแสดงให้เห็นว่า ผู้นั้นมีไว้โดยไม่สุจริต
ซื้อสลากกินแบ่งของรัฐบาลจากผู้มีอาชีพทางค้าขายสลากกินแบ่งโดยสุจริต ไม่ทราบว่า เป็นสลากของผู้อื่นที่รับไปจำหน่ายแล้วสูญหายไปโดยเจ้าของได้แจ้งความและอายัดกับสำนักงานสลากกินแบ่งไว้แล้ว ดังนี้ พออนุโลมเข้าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิได้รับรางวัล เมื่อสลากถูกรางวัลได้
ซื้อสลากกินแบ่งของรัฐบาลจากผู้มีอาชีพทางค้าขายสลากกินแบ่งโดยสุจริต ไม่ทราบว่า เป็นสลากของผู้อื่นที่รับไปจำหน่ายแล้วสูญหายไปโดยเจ้าของได้แจ้งความและอายัดกับสำนักงานสลากกินแบ่งไว้แล้ว ดังนี้ พออนุโลมเข้าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิได้รับรางวัล เมื่อสลากถูกรางวัลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116-1117/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจมอบอำนาจช่วง: การมอบอำนาจเกินขอบเขตเดิม
ทำใบมอบอำนาจให้เขามีอำนาจแต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจช่วงให้ฟ้องความได้ ดังนี้ เมื่อผู้รับมอบอำนาจได้แต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจช่วง เพื่อฟ้องคดีแล้ว ผู้รับมอบอำนาจช่วงจะมอบอำนาจช่วงให้แก่บุคคลอื่นต่อไปในการฟ้องคดียังโรงศาลอีกต่อหนึ่งนั้นย่อมอยู่นอกเขตในใบมอบอำนาจดังกล่าวแล้ว ผู้รับมอบอำนาจช่วงคนหลังนี้ จึงไม่มีอำนาจที่จะฟ้องคดีได้(ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้รับจ้างที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา โดยไม่ต้องรอแก้ไขงานก่อน
โจทก์จ้างเหมาจำเลยทำเคียวเกี่ยวข้าว จำเลยทำแล้วมาส่งมอบแต่ไม่ถูกต้องตามที่ตกลงสัญญากัน ดังนี้ กรณีเข้าตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 215 ที่ว่า เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ให้ต้องต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งลูกหนี้ เจ้าหนี้จะเรียกเอาสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การนั้นได้และเมื่อโจทก์นำสืบถึงจำนวนค่าเสียหายที่โจทก์จะได้รับได้แน่นอนแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิที่จะฟ้องเรียกจากจำเลยได้ทีเดียว หาจำต้องนำเคียวไปจ้างผู้อื่นแก้ไขและจ่ายค่าจ้างไปแล้วก่อน จึงจะฟ้องเรียกจากจำเลยได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการชำระหนี้ไม่ถูกต้อง เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ทันที
โจทก์จ้างเหมาจำเลยทำเคียวเกี่ยวข้าว จำเลยทำแล้วมาส่งมอบแต่ไม่ถูกต้องตามที่ตกลงสัญญากัน ดังนี้ กรณีเข้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 215 ที่ว่า เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ให้ต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ เจ้าหนี้จะเรียกเอาสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การนั้นได้ และเมื่อโจทก์นำสืบถึงจำนวนค่าเสียหายที่โจทก์จะได้รับได้แน่นอนแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิที่จะฟ้องเรียกจากจำเลยได้ทีเดียว หาจำต้องนำเคียวไปจ้างผู้อื่นแก้ไขและจ่ายค่าจ้างไปแล้วก่อน จึงจะฟ้องเรียกจากจำเลยได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนขายฝาก & ลำดับสิทธิระหว่างผู้ซื้อฝาก ผู้รับโอนสิทธิ & ผู้ทำสัญญาจะซื้อขาย
ทำสัญญาขายฝากที่ดินกันโดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ต่อมาได้ตกลงกันขายที่ดินแปลงนั้นแก่ผู้รับซื้อฝาก โดยทำสัญญากันเองดังนี้สัญญาขายขาดฉะบับหลังนี้ไม่เกิดผลเป็นสัญญาซื้อขายที่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้น ผู้ขายฝากยังมีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากรายนี้ ได้ภายในกำหนดเวลาไถ่ถอนตามสัญญาขายฝากอยู่ และผู้ที่รับโอนสิทธิจากผู้ขายฝาก ก็ย่อมมีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากรายนี้ได้เช่นเดียวกัน
คู่ความอ้างเอกสารในสำนวนของศาลเป็นพยาน ไม่ต้องเรียกเอกสารมาจากที่อื่น เมื่อปรากฎว่าผู้อ้างยังไม่ได้เสียค่าอ้าง ศาลก็ชอบที่จะเรียกให้ผู้อ้างชำระค่าธรรมเนียมการอ้างเอกสารนั้นเสียก่อนที่จะพิพากษาคดี ต่อผู้อ้างขัดขืนไม่ชำระตามคำสั่ง ศาลจึงควรไม่รับฟังเป็นพยาน
ในคดีที่มีผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 สู้คดีกับโจทก์จำเลยนั้น แม้ในศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ผู้ร้องสอดโจทก์แพ้คดีจำเลย โจทก์ไม่อุทธรณ์คงอุทธรณ์เฉพาะผู้ร้องสอดเท่านั้น ก็ตาม ก็ต้องถือว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่บังคับเฉพาะที่เกี่ยวถึงสิทธิของผู้ร้องสอดด้วย ยังหายุติไม่
คู่ความอ้างเอกสารในสำนวนของศาลเป็นพยาน ไม่ต้องเรียกเอกสารมาจากที่อื่น เมื่อปรากฎว่าผู้อ้างยังไม่ได้เสียค่าอ้าง ศาลก็ชอบที่จะเรียกให้ผู้อ้างชำระค่าธรรมเนียมการอ้างเอกสารนั้นเสียก่อนที่จะพิพากษาคดี ต่อผู้อ้างขัดขืนไม่ชำระตามคำสั่ง ศาลจึงควรไม่รับฟังเป็นพยาน
ในคดีที่มีผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 สู้คดีกับโจทก์จำเลยนั้น แม้ในศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ผู้ร้องสอดโจทก์แพ้คดีจำเลย โจทก์ไม่อุทธรณ์คงอุทธรณ์เฉพาะผู้ร้องสอดเท่านั้น ก็ตาม ก็ต้องถือว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่บังคับเฉพาะที่เกี่ยวถึงสิทธิของผู้ร้องสอดด้วย ยังหายุติไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขายฝาก-ขายขาด: สิทธิไถ่ถอนยังคงมีผล, ค่าธรรมเนียมเอกสาร, ผู้ร้องสอด
ทำสัญญาขายฝากที่ดินกันโดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ต่อมาได้ตกลงกันขายขาดที่ดินแปลงนั้นแก่ผู้รับซื้อฝาก โดยทำสัญญากันเอง ดังนี้สัญญาขายขาดฉบับหลังนี้ไม่เกิดผลเป็นสัญญาซื้อขายที่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้น ผู้ขายฝากยังมีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากรายนี้ได้ภายในกำหนดเวลาไถ่ถอนตามสัญญาขายฝากอยู่ และผู้ที่รับโอนสิทธิจากผู้ขายฝาก ก็ย่อมมีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากรายนี้ได้เช่นเดียวกัน
คู่ความอ้างเอกสารในสำนวนของศาลเป็นพยาน ไม่ต้องเรียกเอกสารมาจากที่อื่น เมื่อปรากฏว่าผู้อ้างยังไม่ได้เสียค่าอ้าง ศาลก็ชอบที่จะเรียกให้ผู้อ้างชำระค่าธรรมเนียมการอ้างเอกสารนั้นเสียก่อนที่จะพิพากษาคดี ต่อผู้อ้างขัดขืนไม่ชำระตามคำสั่ง ศาลจึงควรไม่รับฟังเป็นพยาน
ในคดีที่มีผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 สู้คดีกับโจทก์จำเลยนั้น แม้ในศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ผู้ร้องสอดและโจทก์แพ้คดีจำเลย โจทก์ไม่อุทธรณ์คงอุทธรณ์เฉพาะผู้ร้องสอดเท่านั้น ก็ตาม ก็ต้องถือว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่บังคับเฉพาะที่เกี่ยวถึงสิทธิของผู้ร้องสอดด้วย ยังหายุติไม่
คู่ความอ้างเอกสารในสำนวนของศาลเป็นพยาน ไม่ต้องเรียกเอกสารมาจากที่อื่น เมื่อปรากฏว่าผู้อ้างยังไม่ได้เสียค่าอ้าง ศาลก็ชอบที่จะเรียกให้ผู้อ้างชำระค่าธรรมเนียมการอ้างเอกสารนั้นเสียก่อนที่จะพิพากษาคดี ต่อผู้อ้างขัดขืนไม่ชำระตามคำสั่ง ศาลจึงควรไม่รับฟังเป็นพยาน
ในคดีที่มีผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 สู้คดีกับโจทก์จำเลยนั้น แม้ในศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ผู้ร้องสอดและโจทก์แพ้คดีจำเลย โจทก์ไม่อุทธรณ์คงอุทธรณ์เฉพาะผู้ร้องสอดเท่านั้น ก็ตาม ก็ต้องถือว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่บังคับเฉพาะที่เกี่ยวถึงสิทธิของผู้ร้องสอดด้วย ยังหายุติไม่