คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นิติธรรมประกรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 548 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธมีด: ศาลฎีกาพิพากษาเพิ่มโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยใช้มีดปลายแหลมทั้งตัวทั้งด้ามยาวราว 1 ศอก แทงเขาถูกที่หน้าท้องเหนือสดือแผลยาว 6 เซ็นติเมตร กว้าง 3 เซ็นติเมตร ลึกทะลุหลังด้านซ้ายเหนือสะเอว แผลยาว 4 เซ็นติเมตร กว้าง2 เซ็นติเมตร ไส้ไหล นับว่าเป็นแผลฉกรรจ์มากและต้องแทงโดยแรง แม้จะแทงเพียงทีเดียว ก็ย่อมแสดงอยู่ว่า จำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าให้ตาย ต้องด้วยมาตรา 249 แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากลักษณะบาดแผลร้ายแรง
จำเลยใช้มีดปลายแหลมทั้งตัวทั้งด้ามยาวราว 1 ศอกแทงเขาถูกที่หน้าท้องเหนือสะดือ แผลยาว 6 เซ็นติเมตรกว้าง3เซ็นติเมตร ลึกทะลุหลังด้านซ้ายเหนือสะเอวแผลยาว4เซ็นติเมตรกว้าง2เซ็นติเมตรไส้ไหล นับว่าเป็นแผลฉกรรจ์มากและต้องแทงโดยแรง แม้จะแทงเพียงทีเดียว ก็ย่อมแสดงอยู่ว่า จำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าให้ตาย ต้องด้วยมาตรา 249 แห่งกฎหมายลักษณะอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ของผู้ตายให้แก่ภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นการปฏิบัติที่ไม่รอบคอบ
ผู้ตายทำงานอยู่องค์การรับส่งสินค้าและพัศดุภัณฑ์ ในกรมรถไฟ ครั้นเมื่อถึงแก่กรรมลง มีสิทธิได้รับเงินหลายประเภทตามระเบียบข้อบังคับขององค์การและทางการวางไว้ บิดาผู้ตายจึงได้ร้องขอรับเงินจำนวนนี้ โดยแสดงว่าตนเป็นบิดา และกำลังร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายอยู่ แต่ทางกรมรถไฟกลับจ่ายเงินให้แก่ภริยาผู้ตายซึ่งปรากฎในทะเบียนประวัติว่า เป็นภริยาผู้ตาย แต่ปรากฎว่าภริยาผู้นี้มิได้จดทะเบียนสมรสกับผู้ตายตามกฎหมายนั้น เป็นการจ่ายที่ไม่รอบคอบขาดความระมัดระวัง จึงได้ชื่อปฏิบัติไม่ถูกต้องตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 315 ฉะนั้นบิดาของผู้ตายในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ย่อมมีสิทธิ์ฟ้องเรียกเงินจำนวนนั้นจากกรมรถไฟอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ของผู้ตายให้แก่บุคคลที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ผู้ตายทำงานอยู่องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ในกรมรถไฟครั้นเมื่อถึงแก่กรรมลง มีสิทธิได้รับเงินหลายประเภทตามระเบียบข้อบังคับขององค์การและทางการวางไว้ บิดาผู้ตายจึงได้ร้องขอรับเงินจำนวนนี้ โดยแสดงว่าตนเป็นบิดา และกำลังร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายอยู่แต่ทางกรมรถไฟกลับจ่ายเงินให้แก่ภริยาผู้ตายซึ่งปรากฏในทะเบียนประวัติว่าเป็นภริยาผู้ตาย แต่ปรากฏว่าภริยาผู้นี้มิได้จดทะเบียนสมรสกับผู้ตายตามกฎหมายนั้น เป็นการจ่ายที่ไม่รอบคอบขาดความระมัดระวัง จึงได้ชื่อว่าปฏิบัติไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 315 ฉะนั้นบิดาของผู้ตายในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกเงินจำนวนนั้นจากกรมรถไฟอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกเงินตามเช็คของผู้กู้ แม้ไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือ ก็ฟ้องได้ตามอายุความมาตรา 1002
กู้ยืมเงินกัน แล้วออกเช็คสั่งจ่ายล่วงหน้าให้แก่ผู้ให้กู้ ครั้นถึงกำหนดผู้ให้กู้นำเช็คไปรับเงินปรากฎว่า ผู้กู้ไม่มีเงินในธนาคารผู้ให้กู้จึงมาฟ้องผู้กู้เรียกเงินตามเช็คนั้น ดังนี้ แม้จะเป็นหนี้เรื่องกู้ยืม ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ตาม แต่ผู้ให้กู้ฟ้องเรียกเงินตามที่ผู้กู้ทำให้ผู้ให้กู้ต่างหาก จึงฟ้องบังคับได้ และมีอายุความตามมาตรา 1002.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องบังคับตามเช็คแม้ไม่มีหลักฐานหนี้กู้ยืมเป็นหนังสือ ได้ใช้ อายุความตาม ม.1002
กู้ยืมเงินกัน แล้วออกเช็คสั่งจ่ายล่วงหน้าให้แก่ผู้ให้กู้ ครั้นถึงกำหนดผู้ให้กู้นำเช็คไปรับเงิน ปรากฏว่า ผู้กู้ไม่มีเงินในธนาคาร ผู้ให้กู้จึงมาฟ้องผู้กู้เรียกเงินตามเช็คนั้น ดังนี้ แม้จะเป็นหนี้เรื่องกู้ยืม ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ตาม แต่ผู้ให้กู้ฟ้องเรียกเงินตามเช็คที่ผู้กู้ทำให้ผู้ให้กู้ต่างหาก จึงฟ้องบังคับได้ และมีอายุความตาม มาตรา 1002

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ ทนายความทำแทนผู้ให้เช่าได้
การบอกเลิกการเข่าตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 566 นั้น กฎหมายมิได้บังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือ ฉะนั้นทนายความมีหนังสือบอกเลิกการเช่าแทนผู้ให้เช่า จึงเป็นการสมบูรณ์ให้บังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ ทนายความทำแทนเจ้าของได้
การบอกเลิกการเช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566นั้น กฎหมายมิได้บังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือ ฉะนั้นทนายความมีหนังสือบอกเลิกการเช่าแทนผู้ให้เช่า จึงเป็นการสมบูรณ์ใช้บังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์แม้จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร ศาลต้องลงโทษตามความผิดที่พิสูจน์ได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ หรือรับของโจรทรัพย์สิ่งของที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ในภาวะคับขัน พ.ศ.2486 มาตรา 3 กำหนดโทษอย่างสูงไว้ถึงจำคุก 10 ปีขึ้นไป ดังนี้ แม้จำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดฐานรับของโจรแล้ว โจทก์ก็นำพยานมาสืบให้ศาลฟังพยานต่อไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 76 ได้ และเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ อันเป็นความผิดที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ศาลก็ต้องลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามความผิดที่ได้กระทำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรเกี่ยวกับทรัพย์สาธารณะประโยชน์ ต้องลงโทษตามกฎหมายพิเศษ แม้จำเลยรับสารภาพ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ หรือรับของโจรทรัพย์สิ่งของที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2486 มาตรา 3 กำหนดโทษอย่างสูงไว้ถึงจำคุก 10 ปีขึ้นไป ดังนี้ แม้จำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดฐานรับของโจรแล้ว โจทก์ก็นำพยานมาสืบให้ศาลฟังพะยานต่อไปได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 176 ได้ และเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ อันเป็นความผิดที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ศาลก็ต้องลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามความผิดที่ได้กระทำ
of 55