พบผลลัพธ์ทั้งหมด 262 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปืนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและข้อพิพาทเกี่ยวกับประเภทของอาวุธปืนตามกฎหมายอาวุธปืน
ปืนของกลางเป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2500เมื่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ฉบับที่3 พ.ศ.2501 ออกใช้และรัฐมนตรีได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ปืนชนิดนี้เป็นที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามแล้วเจ้าของก็มิได้นำไปมอบให้กับนายทะเบียนท้องที่ตามมาตรา10 ปืนนี้จึงเป็นของมีไว้เป็นความผิดอันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32. จำเลยรับฝากปืนนี้ไว้จากเจ้าของก็ต้องมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ลงโทษปรับจำเลยตามศาลชั้นต้นจำเลยฎีกาว่าปืนของกลางไม่ใช่ปืนเล็กยาวแบบ 83 ซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน เป็นการโต้เถียงคำวินิจฉัยและดุลพินิจของศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ลงโทษปรับจำเลยตามศาลชั้นต้นจำเลยฎีกาว่าปืนของกลางไม่ใช่ปืนเล็กยาวแบบ 83 ซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน เป็นการโต้เถียงคำวินิจฉัยและดุลพินิจของศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธปืนสงครามที่ไม่ได้แจ้งการครอบครองและการรับฝากอาวุธปืนเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย
ปืนของกลางเป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2500 เมื่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2501 ออกใช้และรัฐมนตรีได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ปืนชนิดนี้เป็นปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามแล้ว เจ้าของก็มิได้นำไปมอบให้กับนายทะเบียนท้องที่ตามมาตรา 10 ปืนนี้จึงเป็นของมีไว้เป็นความผิดอันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32 จำเลยรับฝากปืนนี้ไว้จากเจ้าของก็ต้องมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ลงโทษปรับจำเลยตามศาลชั้นต้น จำเลยฎีกาว่าเป็นของกลางไม่ใช่ปืนเล็กยาวแบบ 83 ซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน เป็นการโต้เถียงคำวินิจฉัยและดุลพินิจของศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท้จจริง ต้องห้ามฎีกา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ลงโทษปรับจำเลยตามศาลชั้นต้น จำเลยฎีกาว่าเป็นของกลางไม่ใช่ปืนเล็กยาวแบบ 83 ซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน เป็นการโต้เถียงคำวินิจฉัยและดุลพินิจของศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท้จจริง ต้องห้ามฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้สักทำเป็นสิ่งปลูกสร้างไม่ต้องริบตามพ.ร.บ.ป่าไม้
ไม้สักที่ได้ทำเป็นบานประตูและหน้าต่างสำเร็จรูปแล้วเป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้าง หาใช่เป็นไม้แปรรูปอันจะต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้สักทำเป็นสิ่งปลูกสร้างไม่ต้องริบตามพ.ร.บ.ป่าไม้ หากไม่ใช่ไม้แปรรูป
ไม้สักที่ได้ทำเป็นบานประตูและหน้าต่างสำเร็จรูปแล้ว เป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้าง หาใช่เป็นไม้แปรรูปอันจะต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิขอคืนไม้ของกลาง: เจ้าของไม้มีสิทธิแม้ศาลตัดสินแล้วว่าไม้เป็นไม้หวงห้าม หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นไม้ในสวนของตน
ถึงแม้ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าไม่ของกลางเป็นไม้หวงห้าม จำเลยมีไว้เป็นความผิดและให้ริบไม้ของกลางแล้วก็ดี เจ้าของไม่ยอมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 ขอคืนไม้ของกลางโดยอ้างว่าไม่ใช่เป็นไม้หวงห้าม เพราะขึ้นอยู่ในสวนของตนได้ เพราะเจ้าของไม้ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีกับโจทก์ คำพิพากษานั้นไม่มีผลผูกพันเจ้าของไม้
เมื่อผู้ร้องร้องขอคืนไม้ของกลางในกรณีเช่นนี้ ถึงแม้ศาลแขวงสั่งยกคำร้องก็ดี ผู้ร้องมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 ที่ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2504
เมื่อผู้ร้องร้องขอคืนไม้ของกลางในกรณีเช่นนี้ ถึงแม้ศาลแขวงสั่งยกคำร้องก็ดี ผู้ร้องมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 ที่ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2504
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุและการริบอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน
จำเลยยิงขณะผู้เสียหายยกมีดจะฟันจำเลย มีดนั้นขนาดใหญ่ถ้าฟันได้อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตจำเลยยิงนัดเดียว ดังนี้ เป็นการป้องกันชีวิตจำเลยพอสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยพยายามฆ่าคนโดยใช้ปืนยิงขอให้ลงโทษเฉพาะฐานพยายามฆ่าและขอให้สั่งริบปืนทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิด แต่ปืนที่ไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานอนุญาตให้มีได้นั้นเป็นของร้ายอยู่ในตัวผู้ใดมีไว้เป็นความผิด จึงเป็นของที่ต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2504)
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยพยายามฆ่าคนโดยใช้ปืนยิงขอให้ลงโทษเฉพาะฐานพยายามฆ่าและขอให้สั่งริบปืนทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิด แต่ปืนที่ไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานอนุญาตให้มีได้นั้นเป็นของร้ายอยู่ในตัวผู้ใดมีไว้เป็นความผิด จึงเป็นของที่ต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการริบอาวุธปืน: การยิงเพื่อป้องกันชีวิตจากมีด และการครอบครองอาวุธปืนเถื่อน
จำเลยยิงขณะผู้เสียหายยกมีดจะฟังจำเลยมีดนั้นขนาดใหญ่ ถ้าฟันได้อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิติจำเลยยิงนัดเดียว ดังนี้ เป็นการป้องกันชีวิตจำเลยพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าตนโดยใช้ปืนยิง ขอให้ลงโทษเฉพาะฐานพยายามฆ่าและขอให้สั่งริบปืน ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด แต่ปืนที่ไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานอนุญาตให้มีได้นั้น เป็นของร้ายอยู่ในตัว ผู้ใดมีไว้เป็นความผิด จึงเป็นของที่ต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32
ประชุมใหญ่ ครั้ง 1/2504
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าตนโดยใช้ปืนยิง ขอให้ลงโทษเฉพาะฐานพยายามฆ่าและขอให้สั่งริบปืน ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด แต่ปืนที่ไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานอนุญาตให้มีได้นั้น เป็นของร้ายอยู่ในตัว ผู้ใดมีไว้เป็นความผิด จึงเป็นของที่ต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32
ประชุมใหญ่ ครั้ง 1/2504
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลาง: พิจารณาจากสภาพของกลางและความเชื่อมโยงกับการกระทำผิด แม้ฟ้องไม่ระบุชัด
ถึงแม้ฟ้องของโจทก์ไม่ได้เน้นความไว้ ของกลางที่จับได้พร้อมกับจำเลย เป็นของที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดก็ดี ย่อมต้องเข้าใจว่าเป็นสิ่งของที่แสดงถึงความผิดหรือพิรุธของจำเลยอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งอาจเป็นของที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดก็ได้ เมื่อโจทก์ขอให้ริบของกลางทั้งหมดและจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลต้องพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบกับสภาพของกลางว่า รายการใดพออนุมานได้ว่าจำเลยได้ใช้กระทำผิดอันเป็นของควรริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาการริบของกลางในคดีอาญา: พิจารณาความเชื่อมโยงของของกลางกับการกระทำผิด
ถึงแม้ฟ้องของโจทก์ไม่ได้เน้นความไว้ ของกลางที่จับได้พร้อมกับจำเลย เป็นของที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดก็ดี ย่อมต้องเข้าใจว่าเป็นของที่แสดงถึงความผิดหรือพิรุธของจำเลยอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นของที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดก็ได้ เมื่อโจทก์ขอให้ริบของกลางทั้งหมดและจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลต้องพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบกับสภาพของกลางว่า รายการใดพออนุมานได้ว่า จำเลยได้ใช้กระทำผิดอันเป็นควรริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบสุราของกลางในความผิดตาม พ.ร.บ.สุรา: กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ริบสุราที่นำออกแสดงเพื่อขาย
จำเลยนำสุราต่างประเทศออกแสดงเพื่อขายโดยมิได้รับอนุญาตอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 มาตรา17 นั้น มาตรา 45 ไม่ได้บัญญัติให้ริบสุราดังกล่าวแสดงว่ากฎหมายไม่ประสงค์จะให้ริบสุราของกลางในกรณีเช่นนี้ด้วยเลย
(อ้างฎีกาที่ 508/2494)
(อ้างฎีกาที่ 508/2494)