พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จ – การพิจารณาหลักฐานใหม่ชั้นฎีกา – ข้อสำคัญแห่งคดี
ฟ้องว่าเบิกความเท็จแต่เท่าที่ปรากฎในฟ้องและในคำให้การ จำเลยเบิกความเท็จในข้อสำคัญอย่างใดไม่ได้ความ ดังนี้แม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อไม่ได้อ้างคำนวนเป็นพะยาน จะขอให้ศาลเรียกมาประกอบการพิจารณาชั้นฎีกานั้นเป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
เมื่อไม่ได้อ้างคำนวนเป็นพะยาน จะขอให้ศาลเรียกมาประกอบการพิจารณาชั้นฎีกานั้นเป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเรื่องราคาซื้อขายม้า โจทก์ต้องพิสูจน์ราคาที่แท้จริง ไม่ใช่แค่หลักฐานการทำธุรกรรม
คดีหาว่าจำเลยเบิกความเท็จ ฟ้องตอนท้ายกล่าวว่า'ซึ่งความจริงจำเลยซื้อม้าดังกล่าวมาจากนายพานราคาเพียง 200 บาทเท่านั้น หาใช่ราคา 600 บาท ดังจำเลยเบิกความไม่' เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่า ความจริงจำเลยซื้อม้าราคา 200 บาท ดังฟ้อง แต่โจทก์นำสืบเพียงว่าในต้นขั้วตั๋วพิมพ์รูปพรรณม้า ลงไว้ว่า ซื้อขายกันราคา 200 บาท เพียงเท่านี้ยังลงโทษจำเลย ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาหลังเจ้าของสิทธิถึงแก่กรรม และการอนุญาตฎีกาของผู้พิพากษาที่ย้ายศาล
ผู้พิพากษาซึ่งเคยนั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น แม้จะถูกย้ายไปอยู่ศาลอื่นก็ตาม ถ้าหากยังคงเป็นผู้พิพากษาอยู่ ก็ย่อมอนุญาตให้คู่ความในคดีนั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
คดีของโจทก์มีพยานเอกสารมากมาย เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานบุคคลรับฟังไม่ได้ แม้มีพยานเอกสารมาเจือสมก็ไม่มีผลดีแก่คดีของโจทก์แล้ว ศาลอุทธรณ์จะไม่พิจารณาพยานเอกสารนั้นๆ ต่อไปก็ได้ ไม่เป็นการผิดกฎหมาย
คดีลักทรัพย์ ถ้าปรากฏว่าจำเลยได้กระทำผิดก่อนเจ้าทรัพย์ถึงแก่กรรมทายาทหรือผู้จัดการมรดกของเจ้าทรัพย์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องร้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ฟ้องโจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยปลอมหนังสือสัญญากู้และกระทำพยานหลักฐานเท็จตั้งแต่ระยะเวลาก่อนผู้เสียหายถึงแก่กรรมตลอดมาจนภายหลังถึงแก่กรรม คดีไม่อาจชี้ได้ว่าจำเลยกระทำผิดในระยะใด คดีไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าโจทก์จะมีอำนาจฟ้องได้หรือไม่ เช่นนี้ในชั้นฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป
ในข้อหาที่ว่าจำเลยอ้างหลักฐานเท็จในคดีแพ่ง คือหาว่าจำเลยอ้างสัญญากู้ที่จำเลยทำปลอมขึ้นโดยเจตนาจะใช้แทนสัญญากู้ฉบับที่จำเลยกู้เงินจากผู้ตาย ดังนี้เมื่อเป็นคดีที่จำเลยฟ้องร้องกันเองในคดีแพ่ง โจทก์ซึ่งเป็นทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ย่อมไม่ใช่เป็นผู้เสียหายในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในข้อหาฐานอ้างหลักฐานเท็จ
คดีของโจทก์มีพยานเอกสารมากมาย เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานบุคคลรับฟังไม่ได้ แม้มีพยานเอกสารมาเจือสมก็ไม่มีผลดีแก่คดีของโจทก์แล้ว ศาลอุทธรณ์จะไม่พิจารณาพยานเอกสารนั้นๆ ต่อไปก็ได้ ไม่เป็นการผิดกฎหมาย
คดีลักทรัพย์ ถ้าปรากฏว่าจำเลยได้กระทำผิดก่อนเจ้าทรัพย์ถึงแก่กรรมทายาทหรือผู้จัดการมรดกของเจ้าทรัพย์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องร้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ฟ้องโจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยปลอมหนังสือสัญญากู้และกระทำพยานหลักฐานเท็จตั้งแต่ระยะเวลาก่อนผู้เสียหายถึงแก่กรรมตลอดมาจนภายหลังถึงแก่กรรม คดีไม่อาจชี้ได้ว่าจำเลยกระทำผิดในระยะใด คดีไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าโจทก์จะมีอำนาจฟ้องได้หรือไม่ เช่นนี้ในชั้นฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป
ในข้อหาที่ว่าจำเลยอ้างหลักฐานเท็จในคดีแพ่ง คือหาว่าจำเลยอ้างสัญญากู้ที่จำเลยทำปลอมขึ้นโดยเจตนาจะใช้แทนสัญญากู้ฉบับที่จำเลยกู้เงินจากผู้ตาย ดังนี้เมื่อเป็นคดีที่จำเลยฟ้องร้องกันเองในคดีแพ่ง โจทก์ซึ่งเป็นทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ย่อมไม่ใช่เป็นผู้เสียหายในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในข้อหาฐานอ้างหลักฐานเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสำคัญของข้อความเบิกความในคดีอาญา: ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย
ไนคดีเบิกความเท็ด ปัญหาที่ว่าข้อความนั้นสำคันหรือไม่ ย่อมเปนปัญหาข้อเท็ดจิง โจทดีกาไม่ได้
แม้สาลล่างฟังว่าคำเบิกความของพยานไม่ไช่ข้อสำคันไนคดีเพราะเปนพยานบอกเล่า ก็คงถือว่าเปนข้อเท็ดจิงดุจกัน
แม้สาลล่างฟังว่าคำเบิกความของพยานไม่ไช่ข้อสำคันไนคดีเพราะเปนพยานบอกเล่า ก็คงถือว่าเปนข้อเท็ดจิงดุจกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษคดีเบิกความเท็จ: ฟ้องชัด-รับสารภาพเพียงพอ แม้ศาลสงสัยข้อสำคัญก็ไม่ต้องสืบเพิ่ม
คดีซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่ถึงสิบปี เมื่อฟ้องโจทก์ระบุความผิดไว้ชัดแจ้ง และจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลก็พิพากษาลงโทษจำเลยได้คดีเบิกความเท็จ ถ้าศาลสงสัยว่าคำเบิกความในคดีก่อนจะมิใช่ข้อสำคัญก็อาจเรียกสำนวนมาดูในฐานเป็นพะยานของศาลได้ตาม ประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 228