พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพกับการฟังพยานโจทก์ในคดีอัตราโทษสูงกว่า 10 ปี ศาลต้องฟังพยานเสมอ
ในคดีที่กฎหมายบัญญัติลงโทษจำเลย มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปี นั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ศาล ก็ต้องฟังพยานโจทก์ต่อไป เพียงแต่โจทก์ส่งคำรับสารภาพชั้นสอบสวนแล้ว ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ และพิพากษาคดีนั้นยังไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 176.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้ต้องโทษจำคุกซ้ำ แม้พ้นโทษมานาน และการพิจารณาโทษกักกันตาม พ.ร.บ.กักกันฯ
การที่จำเลยเคยต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้ว ไม่น้อยกว่า 2 ครั้งนั้น ตาม พ.ร.บ.กักกันฯ พ.ศ.2479 หาได้
บัญญัติไว้ว่ากระทำแต่เมื่อใด และพ้นโทษมาแล้วนานเท่าใด แต่ได้ถือเอาความผิดที่จำเลยกระทำครั้งที่ฟ้องเป็น
หลักสำคัญ ส่วนความผิดในครั้งก่อน ๆ เพียงแต่เป็นเหตุเพื่อเพิ่มโทษกักกันอีกโสดหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นแม้จำเลยจะ
พ้นโทษครั้งสุดท้ายมาถึง 20 ปีแล้ว ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ศาลอาจจะเพิ่มโทษกักกันได้.
โทษกักกัน แม้จะมีถึง 10 ปี ก็ไม่ใช่เป็นคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป, จึงไม่เข้าอยู่ตาม ป.ม.วิ.อาญา
มาตาา 176.
บัญญัติไว้ว่ากระทำแต่เมื่อใด และพ้นโทษมาแล้วนานเท่าใด แต่ได้ถือเอาความผิดที่จำเลยกระทำครั้งที่ฟ้องเป็น
หลักสำคัญ ส่วนความผิดในครั้งก่อน ๆ เพียงแต่เป็นเหตุเพื่อเพิ่มโทษกักกันอีกโสดหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นแม้จำเลยจะ
พ้นโทษครั้งสุดท้ายมาถึง 20 ปีแล้ว ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ศาลอาจจะเพิ่มโทษกักกันได้.
โทษกักกัน แม้จะมีถึง 10 ปี ก็ไม่ใช่เป็นคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป, จึงไม่เข้าอยู่ตาม ป.ม.วิ.อาญา
มาตาา 176.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรเกี่ยวกับทรัพย์สาธารณะประโยชน์ ต้องลงโทษตามกฎหมายพิเศษ แม้จำเลยรับสารภาพ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ หรือรับของโจรทรัพย์สิ่งของที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2486 มาตรา 3 กำหนดโทษอย่างสูงไว้ถึงจำคุก 10 ปีขึ้นไป ดังนี้ แม้จำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดฐานรับของโจรแล้ว โจทก์ก็นำพยานมาสืบให้ศาลฟังพะยานต่อไปได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 176 ได้ และเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ อันเป็นความผิดที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ศาลก็ต้องลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามความผิดที่ได้กระทำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993-1997/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว โจทก์ต้องพิสูจน์จำเลยทราบประกาศก่อนกระทำผิด
คดีอาญาที่โจทก์หาว่า จำเลยกระทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉะบับที่ 2) โจทก์จะต้องนำสืบให้ปรากฎว่าจำเลยได้ทราบประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ฝ่าฝืนประกาศจึงจะเป็นผิด
ที่มีประกาศของคณะกรรมการฯในราชกิจจาฯ เป็นข้อเท็จจริงซึ่งโจทก์จะต้องนำสืบ ไม่มีหลักกฎหมายสันนิษฐานเด็ดขาดว่าราษฎรทั่วไปได้รู้แล้ว.
ที่มีประกาศของคณะกรรมการฯในราชกิจจาฯ เป็นข้อเท็จจริงซึ่งโจทก์จะต้องนำสืบ ไม่มีหลักกฎหมายสันนิษฐานเด็ดขาดว่าราษฎรทั่วไปได้รู้แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน
ของอากรชั้นในตามมาตรา 35 พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 หมายถึงสุราต่าง ๆ ตาม พ.ร.บ.ให้เสียภาษีชั้นใน ความประสงค์ของมาตรา 35 ก็เพื่อจะมิให้เจ้าของร้านซึ่งได้รับอนุญาตแล้ว ซื้อสุราจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายของเช่นนั้น หรือของอากรชั้นใน.
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุรา จำเลยบังอาจซื้อน้ำสุรามาจำหน่ายหรือขายจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่มีข้อแก้ตัวอย่างไร ซึ่งเท่ากับรับสารภาพว่า ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุราและบังอาจซื้อน้ำสุราอื่นมีชื่อต่าง ๆ ตามที่กล่าวในฟ้องจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น ตรงตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 มาตรา 35 แล้ว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุรา จำเลยบังอาจซื้อน้ำสุรามาจำหน่ายหรือขายจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่มีข้อแก้ตัวอย่างไร ซึ่งเท่ากับรับสารภาพว่า ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุราและบังอาจซื้อน้ำสุราอื่นมีชื่อต่าง ๆ ตามที่กล่าวในฟ้องจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น ตรงตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 มาตรา 35 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1705/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพความผิดเฉพาะบางส่วน ผลต่อการริบของกลางที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับความผิด
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยจำหน่ายไข่เป็ดจืด โดยมิได้ทำป้ายแสดงราคาไว้ และได้จำหน่ายไข่เป็ดไป 5 ฟอง ซึ่งเกินกว่าราคาควบคุม เจ้าพนักงานจับไข่เป็ดได้ 28650 ฟอง จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องทุกประการ และว่าไข่ได้ขายเกินราคาไปจริงเพียง 500 ฟอง นอกจากนี้ไม่ใช่เป็นทรัพย์ที่ทำผิดกฎหมายดังนี้ ถือว่าจำเลยไม่ได้รับสารภาพตลอดไปถึงคำฟ้องที่ว่า จำเลยไม่ได้ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายไข่เป็ดทั้ง 28650 ฟองด้วย จำเลยรับฉะเพาะไข่ 500 ฟองเท่านั้น จึงถือว่าไข่นอกจาก 500 ฟองเป็นของเกี่ยวเนื่องกับความผิด ควรริบตามกฎหมายหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพกับการพิจารณาโทษ ศาลไม่จำต้องสืบพยานเพิ่มเติมหากคำรับสารภาพสอดคล้องกับหลักฐาน
คดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่ถึง 10 ปี ซึ่งเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็ย่อมพิพากษาได้ โดยมิต้องฟังพะยานโจทก์ต่อไป แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลงโทษจำเลยตามคำรับสารภาพเสมอไปในเมื่อปรากฎตามหลักฐานในสำนวนขัดแย้งกับคำรับของจำเลย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ตามใบชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ปรากฎตามใบชันสูตรบาดแผลว่า รักษาในโรงพยาบาล 8 วันทุเลาอีกประมาณ 14 วันหาย รวมเป็น 22 วัน ข้อว่าไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ตามปรกติเกิน 20 วันนั้นเป็นข้อเท็จจริง ในวันที่จำเลยมาให้การรับสารภาพต่อศาลก็เป็นเวลาถึง 2 เดือนเศษจากวันที่ทำร้ายกัน จำเลยย่อมทราบความข้อนี้ดี โจทก์ไม่จำต้องสืบพะยานอะไรอีก ศาลก็ลงโทษจำเลยได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องรู้และวินิจฉัยถึงว่าผู้บาดเจ็บมีอาชีพอะไร.
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ตามใบชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ปรากฎตามใบชันสูตรบาดแผลว่า รักษาในโรงพยาบาล 8 วันทุเลาอีกประมาณ 14 วันหาย รวมเป็น 22 วัน ข้อว่าไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ตามปรกติเกิน 20 วันนั้นเป็นข้อเท็จจริง ในวันที่จำเลยมาให้การรับสารภาพต่อศาลก็เป็นเวลาถึง 2 เดือนเศษจากวันที่ทำร้ายกัน จำเลยย่อมทราบความข้อนี้ดี โจทก์ไม่จำต้องสืบพะยานอะไรอีก ศาลก็ลงโทษจำเลยได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องรู้และวินิจฉัยถึงว่าผู้บาดเจ็บมีอาชีพอะไร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานทำร้ายร่างกายแม้ฟ้องกล่าวถึงการวิวาท ศาลลงโทษตามมาตรา 254 ได้
แม้ฟ้องจะกล่าวว่าจำเลยสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันก็ดี แต่ก็ได้บรรยายโดยชัดแจ้งว่า จำเลยที่ 1 ได้ใช้มีดพับทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 2 ที่ 3 ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 ได้ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีหมักส่าเชื้อสุราเพื่อต้มกลั่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีหมักส่าเชื้อสุราผิดกฎหมายไว้ในความครอบครองไว้เพื่อต้มกลั่นสุราโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพ ดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 มาตรา 38 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2476 มาตรา 7.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองสุราผิดกฎหมายและการตีความฟ้อง: จำเลยต้องรับผิดแม้โจทก์ไม่ได้ระบุข้อยกเว้น
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยมีลูกแป้งเชื้อสุราไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานนั้น ย่อมเป็นองค์ความผิดชัดแจ้งตามกฎหมายแล้ว หาจำต้องกล่าวว่า การกระทำของจำเลยไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 16 พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม 2486 ด้วยไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาปรับจำเลยเพียงเล็กน้อย ศาลฎีกาจะไม่ลดโทษฐานรับสารภาพให้อีกก็ได้.
ศาลอุทธรณ์พิพากษาปรับจำเลยเพียงเล็กน้อย ศาลฎีกาจะไม่ลดโทษฐานรับสารภาพให้อีกก็ได้.