พบผลลัพธ์ทั้งหมด 428 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็คในคดีล้มละลาย: คดีแพ่งไม่สะดุดจากคดีอาญา
การยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ตามเช็คในคดีล้มละลายไม่ใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดอาญาฐานออกเช็คนั้นโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค. เพราะความรับผิดทางแพ่งในกรณีนี้ไม่ได้อาศัยมูลของคดีอาญา. ฉะนั้นการฟ้องคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่ทำให้อายุความของคดีแพ่งนั้นสะดุดหยุดลง.เมื่อเช็คที่นำมาขอรับชำระหนี้มีอายุเกิน 1 ปีนับแต่วันสั่งจ่าย. เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิที่จะรับชำระหนี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็คในคดีล้มละลาย: การฟ้องคดีอาญาไม่สะดุดอายุความแพ่ง
การยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ตามเช็คในคดีล้มละลาย (หรือการฟ้องเรียกเงินตามเช็คเป็นคดีแพ่ง) ไม่ใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดอาญาฐานออกเช็คนั้นโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฉะนั้น การฟ้องคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่ทำให้อายุความของคดีแพ่งนั้นสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 ดังนั้น เมื่อเช็คที่นำมาขอรับชำระหนี้มีอายุเกิน 1 ปี นับจากวันสั่งจ่ายจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามกฎหมายล้มละลาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2511 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็คในคดีล้มละลาย: การฟ้องคดีอาญาไม่สะดุดอายุความแพ่ง
การยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ตามเช็คในคดีล้มละลาย (หรือการฟ้องเรียกเงินตามเช็คเป็นคดีแพ่ง) ไม่ใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดอาญาฐานออกเช็คนั้นโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฉะนั้นการฟ้องคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่ทำให้อายุความของคดีแพ่งนั้นสะดุดหยุดลง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 ดังนั้น เมื่อเช็คที่นำมาขอรับชำระหนี้มีอายุเกิน 1 ปี นับจากวันสั่งจ่ายจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามกฎหมายล้มละลาย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7 - 8 /2511)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7 - 8 /2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองตั๋วแลกเงิน: เฉพาะผู้จ่ายเท่านั้นที่ผูกพันตามคำรับรอง
การรับรองตั๋วแลกเงินจะมีได้เฉพาะตัวผู้จ่าย จึงจะมีความผูกพันต้องจ่ายเงินตามเนื้อความแห่งคำรับรอง. บุคคลที่มิได้เป็นผู้จ่าย. แม้เข้ามารับรองตั๋วแลกเงิน บุคคลนั้นก็ไม่ต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองตั๋วแลกเงิน: เฉพาะผู้จ่ายเท่านั้นที่ผูกพัน
การรับรองตั๋วแลกเงินจะมีได้เฉพาะตัวผู้จ่าย จึงจะมีความผูกพันต้องจ่ายเงินตามเนื้อความแห่งคำรับรองบุคคลที่มิได้เป็นผู้จ่ายแม้เข้ามารับรองตั๋วแลกเงิน บุคคลนั้นก็ไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองตั๋วแลกเงิน: เฉพาะผู้จ่ายเท่านั้นที่มีหน้าที่ผูกพันตามคำรับรอง
การรับรองตั๋วแลกเงินจะมีได้เฉพาะตัวผู้จ่าย จึงจะมีความผูกพันต้องจ่ายเงินตามเนื้อความแห่งคำรับรอง บุคคลที่มิได้เป็นผู้จ่าย แม้เข้ามารับรองตั๋วแลกเงิน บุคคลนั้นก็ไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354-355/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแถลงรับข้อเท็จจริงต่อศาลมีผลผูกพัน ห้ามเปลี่ยนเเปลงข้ออ้างภายหลัง
ตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2509 ปรากฏว่าผู้ร้องทั้ง 10 แถลงรับว่าได้เช่าบ้านจำเลยอยู่.ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ผู้ร้องทั้ง 10 ออกไปภายใน 2เดือนนับแต่วันนั้น (อันเป็นมูลให้ผู้ร้องอุทธรณ์ฎีกาต่อมา). นับจากนั้นมาภายในระยะเวลา 1 เดือน ผู้ร้องทั้ง 10 หาได้อุทธรณ์คำสั่งอย่างใด.ไม่. คำสั่งที่กล่าวจึงถึงที่สุด แม้ผู้ร้องทั้ง 10 จะได้ยื่นคำร้องลงวันที่ 30 มิถุนายน 2509 ในเวลาภายหลังต่อมา อ้างว่ามิใช่บริวารจำเลย. ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ซึ่งเป็นข้ออ้างอย่างอื่นขึ้นมาใหม่. อันเป็นคนละประเด็น และเป็นการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมข้อเท็จจริงที่ยุติในสำนวนที่.ศาลไม่ชอบที่จะฟังเป็นอย่างอื่นได้. ศาลจึงไม่จำต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้องที่ยื่นมาใหม่.
การที่ผู้ร้องแถลงรับต่อศาลไว้ว่า ได้เช่าบ้านจำเลยอยู่ โดยไม่ปรากฏข้ออ้างข้อเถียงอย่างอื่นนั้น. แสดงว่าผู้ร้องอ้างสิทธิการเช่าจากจำเลย จึงเป็นบริวารจำเลยนั่นเอง.
การที่ผู้ร้องแถลงรับต่อศาลไว้ว่า ได้เช่าบ้านจำเลยอยู่ โดยไม่ปรากฏข้ออ้างข้อเถียงอย่างอื่นนั้น. แสดงว่าผู้ร้องอ้างสิทธิการเช่าจากจำเลย จึงเป็นบริวารจำเลยนั่นเอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354-355/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแถลงรับข้อเท็จจริงในชั้นศาลมีผลผูกพัน ห้ามเปลี่ยนแปลงข้ออ้างภายหลัง
ตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2509 ปรากฏว่าผู้ร้องทั้ง 10 แถลงรับว่าได้เช่าบ้านจำเลยอยู่ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ผู้ร้องทั้ง 10 ออกไปภายใน 2 เดือนนับแต่วันนั้น (อันเป็นมูลให้ผู้ร้องอุทธรณ์ฎีกาต่อมา) นับจากนั้นมาภายในระยะเวลา 1 เดือน ผู้ร้องทั้ง 10 หาได้อุทธรณ์คำสั่งอย่างใดไม่ คำสั่งที่กล่าวจึงถึงที่สุด แม้ผู้ร้องทั้ง 10 จะได้ยื่นคำร้องลงวันที่ 30 มิถุนายน 2509 ในเวลาภายหลังต่อมาอ้างว่ามิใช่บริวารจำเลย ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ซึ่งเป็นข้ออ้างอย่างอื่นขึ้นมาใหม่อันเป็นคนละประเด็น และเป็นการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมข้อเท็จจริงที่ยุติในสำนวนที่ศาลไม่ชอบที่จะฟังเป็นอย่างอื่นได้ศาลจึงไม่จำต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้องที่ยื่นมาใหม่
การที่ผู้ร้องแถลงรับต่อศาลไว้ว่า ได้เช่าบ้านจำเลยอยู่ โดยไม่ปรากฏข้ออ้างข้อเถียงอย่างอื่นนั้นแสดงว่าผู้ร้องอ้างสิทธิการเช่าจากจำเลย จึงเป็นบริวารจำเลยนั่นเอง
การที่ผู้ร้องแถลงรับต่อศาลไว้ว่า ได้เช่าบ้านจำเลยอยู่ โดยไม่ปรากฏข้ออ้างข้อเถียงอย่างอื่นนั้นแสดงว่าผู้ร้องอ้างสิทธิการเช่าจากจำเลย จึงเป็นบริวารจำเลยนั่นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354-355/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแถลงรับข้อเท็จจริงต่อศาลมีผลผูกพัน การเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงภายหลังไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2509 ปรากฏว่าผู้ร้องทั้ง 10 แถลงรับว่าได้เช่าบ้านจำเลยอยู่ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ผู้ร้องทั้ง 10 ออกไปภายใน 2 เดือนนับแต่วันนั้น (อันเป็นมูลให้ผู้ร้องอุทธรณ์ฎีกาต่อมา) นับจากนั้นมาในระยะเวลา 1 เดือน ผู้ร้องทั้ง 10 หาได้อุทธรณ์คำสั่งอย่างใดไม่ คำสั่งที่กล่าวถึงที่สุด แม้ผู้ร้องทั้ง 10 จะได้ยื่นคำร้องลงวันที่ 30 มิถุนายน 2509 ในเวลาภายหลังต่อมา อ้างว่ามิใช่บริวารจำเลย ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 ซึ่งเป็นข้ออ้างอย่างอื่นขึ้นมาใหม่ อันเป็นคนละประเด็น และเป็นการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมข้อเท็จจริงที่ยุติในสำนวนที่ศาลไม่ชอบที่จะฟังเป็นอย่างอื่นได้ ศาลจึงไม่จำต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้องที่ยื่นมาใหม่
การที่ผู้ร้องแถลงรับต่อศาลไว้ว่า ได้เช่าบ้านจำเลยอยู่ โดยไม่ปรากฏข้ออ้างข้อเถียงอย่างอื่นนั้น แสดงว่าผู้ร้องอ้างสิทธิการเช่าจากจำเลย จึงเป็นบริวารจำเลยนั่นเอง
การที่ผู้ร้องแถลงรับต่อศาลไว้ว่า ได้เช่าบ้านจำเลยอยู่ โดยไม่ปรากฏข้ออ้างข้อเถียงอย่างอื่นนั้น แสดงว่าผู้ร้องอ้างสิทธิการเช่าจากจำเลย จึงเป็นบริวารจำเลยนั่นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้นและวางแผน
จำเลยโกรธผู้ตายซึ่งเป็นแม่ยายของจำเลย. เพราะเคยหาว่าจำเลยลักเงิน และเคยให้จำเลยกับภริยาแยกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น. คืนเกิดเหตุตอนหัวค่ำ จำเลยเอามีดไปซ่อนไว้ครั้นตอนดึกจำเลยกลับมา.ได้ใช้มีดที่ซ่อนไว้ไปฟันผู้ตายขณะนอนหลับ. ทั้งจำเลยเคยให้การในชั้นสอบสวนว่าจำเลยได้หาโอกาสจะฆ่าผู้ตายมาก่อน. และจำเลยเคยจ้างผู้มีชื่อฆ่าผู้ตายด้วย. เช่นนี้ เป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.