คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 159

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1639/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยมีดเล็ก ผลกระทบต่อการพิจารณาเจตนาฆ่าและการลงโทษ
มีดที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหาย ยาวทั้งตัวและด้ามประมาณคืบเศษ แผลที่แทงลึก 8 เซนติเมตร เป็นมีดเล็กไม่ร้ายแรง จำเลยเมาสุรามากจึงแทงไป 1 ที แม้ถูกที่หน้าอกก็หาได้เกิดอันตรายร้ายแรงไม่ ฟังไม่ถนัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1639/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด ศาลพิจารณาจากขนาดอาวุธ ความรุนแรงของบาดแผล และสภาพจิตของผู้กระทำ
มีดที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหาย ยาวทั้งตัวและด้ามประมาณคืบเศษ แผลที่แทงลึก 8 เซนติเมตร เป็นมีดเล็กไม่ร้ายแรง จำเลยเมาสุรามากจึงแทงไป 1 ทีแม้ถูกที่หน้าอกก็หาได้เกิดอันตรายร้ายแรงไม่ ฟังไม่ถนัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596-598/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จและการพิจารณาพยานหลักฐาน: ฟ้องยังไม่ถึงที่สุด พยานจากสำนวนอื่นใช้ไม่ได้
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์เมื่อศาลตรวจฟ้องถูกต้องตาม ป.วิ.อาญา ม.158และสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องแล้วก็ถือเป็นฟ้องตาม ก.ม.และจะถือว่าผู้ถูกฟ้องยังไม่เป็นจำเลยหาได้ไม่ หากแต่ได้รับผ่อนผันยกเว้นสำหรับการดำเนินคดีในเบื้องต้นเท่านั้น ฉนั้นถ้าจะเป็นฟ้องเท็จก็อาจเป็นผิดตาม ก.ม.อาญา ม.158,159 ได้คดีอาญาที่คู่ความเพียงแต่อ้างสำนวนการพิจารณาในคดีอื่นมาเป็นพยานหลักฐานในคดีหลังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการพิจารณาและสืบพยานในศาลตาม ป.วิ.อาญา. ม.172

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีแพ่งเท็จไม่เป็นความผิดตามมาตรา 158, 159 อาญา หากไม่มีคำขอให้ลงอาญา
ฟ้องกล่าวโทษหรือฟ้องว่าเกิดการกระทำผิดขึ้นตามความในกฎหมายอาญามาตรา 158, 159 นั้นเป็นเรื่องฟ้องว่ากระทำความผิดในทางอาญา
ฟ้องคดีแพ่ง แม้จะกล่าวว่าเป็นเรื่องยักยอก แม้จะเป็นเท็จก็ไม่มีผิดฐานฟ้องเท็จตาม ม.158, 159.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จว่าถูกฉุดคร่า ศาลฎีกาตัดสินผิดตามบทหนัก
เอาความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าบุตรสาวของตนถูกฉุดคร่าไป ความจริงไม่มีการกระทำผิดเกิดขึ้นเลยดั่งนี้ เป็นผิดตามมาตรา 118 และ 159 ต้องลงโทษจำเลยตามมาตรา 159 ซึ่งเป็นบทที่หนัก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 151/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องเรียนกล่าวโทษเท็จต่อรัฐมนตรี ไม่เข้าข่ายความผิดฐานใส่ความต่อเจ้าพนักงาน แต่ผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยนำความซึ่งรู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปร้องเรียนกล่าวโทษเจ้าพนักงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยจำเลยมิได้ร้องฟ้องว่าเจ้าพนักงานกระทำผิดทางอาญา หรือว่าจำเลยได้ใส่เท็จทำพะยานเพื่อให้เห็นว่าความผิดทางอาญาได้เกิดขึ้นดังนี้ จำเลยไม่มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 159 แต่มีความผิดตามมาตรา118

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จต้องระบุรายละเอียดการแจ้งความเท็จและเจตนาของผู้แจ้ง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จทำให้เสื่อมเสียอิศรภาพและทำให้เสียทรัพย์ โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยโกรธเคืองโจทก์ จึงจับโจทก์ส่งตำรวจหาว่าโจทก์ขุดมันและสับฟันรั้วสวนของจำเลย โจทก์ต้องถูกคุมขังอยู่ 3 วันจึงมีประกันไป โจทก์ต้องเสียทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้อง ภายหลังเจ้าพนักงานเห็นว่าคดีไม่มีมูลจึงปล่อยโจทก์ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ไม่มีมูล ที่ศาลจะรับไว้พิจารณาต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใส่ความผู้อื่นต่อเสนาบดี – การแสดงความเห็น – การนำสืบพยานหลักฐาน – ไม่ผิด
ทำหนังหนังสือยื่นเรื่องราวต่อเสนาบดีโดยแสดงความคิดเห็น ยังไม่มีผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จและการให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน โดยจำเลยทราบว่าไม่มีความผิดเกิดขึ้นจริง
จำเลยเบิกความเปนพะยานต่ออำเภอว่าเขาเปนผู้ร้ายลักทรัพย์ ซึ่งความจริงจำเลยทราบแล้วว่ามิได้มีการทำผิดเกิดขึ้นเลยดังนี้ จำเลยมีผิดตาม ม.118 จำเลยรับบอกเล่าจากเจ้าทรัพย์ว่ามีผู้ร้ายลักทรัพย์ไป จึงนำความไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าเขาเปนผู้ร้ายดังนี้ จำเลยไม่มีผิด พรบ ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.8 ศาลเดิมวางบท 118 ให้จำคุกจำเลย 2 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้วางบท 58 ให้จำคุก 1 ปี จำเลยฎีกาได้ วิธีพิจารณาอาญา จำเลยผู้ซึ่งยังมิได้ฟังคำตัดสินมีฎีกาขึ้นมา คดีส่วนตัวจำเลยเหล่านี้ ต้องงดการวินิจฉัยไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2471

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จเพื่อใส่ร้ายผู้อื่น: ความผิดฐานให้ข้อมูลเท็จต่อเจ้าพนักงาน
ศาลล่างวางบทผิดทำหลักฐานเท็จแล้วไปแจ้งต่ออำเภอ
of 2