พบผลลัพธ์ทั้งหมด 223 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1231/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากชกต่อยเป็นทำร้ายด้วยอาวุธ แม้ต่างจากฟ้องแต่ไม่ถึงกับยกฟ้องได้
ใช้ปืนสั้นตีเขามีบาดแผลฟกช้ำโลหิตซับที่ใต้ขมับขวา 1 แห่ง ฟกช้ำที่แก้มซ้าย 3 แห่ง และที่ข้อมือซ้ายถูกของมีคมอีก 1 แห่ง ย่อมถือได้ว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังกายชกต่อยผู้เสียหายถึงบาดเจ็บทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยใช้ปืนสั้นตีผู้เสียหายถึงบาดเจ็บ ดังนี้ การชกต่อยกับการใช้ปืนสั้นตีเป็นกิริยาอาการที่ใกล้ชิดกัน ยังไม่พอจะชี้ขาดว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ถึงกับยกฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยข้อกฎหมายว่าโจทก์นำสืบข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง แม้ศาลอุทธรณ์จะยกฟ้องในข้อเท็จจริง โจทก์ก็ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังกายชกต่อยผู้เสียหายถึงบาดเจ็บทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยใช้ปืนสั้นตีผู้เสียหายถึงบาดเจ็บ ดังนี้ การชกต่อยกับการใช้ปืนสั้นตีเป็นกิริยาอาการที่ใกล้ชิดกัน ยังไม่พอจะชี้ขาดว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ถึงกับยกฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยข้อกฎหมายว่าโจทก์นำสืบข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง แม้ศาลอุทธรณ์จะยกฟ้องในข้อเท็จจริง โจทก์ก็ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ศาลลงโทษฐานทำร้ายร่างกายและฆ่าคนตายได้ แม้ไม่มีการปล้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์ และว่าในการปล้นจำเลยได้ใช้สาตราวุธตีและแทงผู้เสียหายคนหนึ่งโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย จนผู้เสียหายคนนั้นตาย และตีและแทงทำร้ายผู้เสียหายอีกคนหนึ่งถึงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 301249250 ดังนี้แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าไม่มีการปล้น แต่เป็นเรื่องสมัครใจวิวาทซึ่งกันและกัน จำเลยบางคนแทงอีกฝ่ายหนึ่งถึงตายบ้าง บางคนแทงอีกฝ่ายหนึ่งถึงบาดเจ็บบ้างดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยผู้ที่ทำร้ายเขาถึงตายและบาดเจ็บตามความผิดที่ตนได้กระทำไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1122/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลตามรายงานชัณสูตรไม่ถึงขั้นเป็นบาดเจ็บทุพพลภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 254
ถูกทำร้ายมีบาดแผลปรากฎตามรายงานชัณสูตรบาดแผลว่าตรงกึ่งกลางสันหน้าแข้งขวากว้าง 1 ซ.ม. ยาว 2 ซ.ม. ถลอกบวม และที่คอด้านหลังเป็นแผลบวมฟกช้ำ รักษาประมาณ 7 วันหาย เพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าเป็นบาดแผลถึง บาดเจ็บทุพพลภาพตามมาตรา 254.
ฟ้องว่า จำเลยทำร้ายผู้เสียหายมีบาดแผลบาดเจ็บตามรายการชัณสูตรบาดแผลเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วย.
บาดแผลตามรายงานชัณสูตรท้ายฟ้องเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย.
ฟ้องว่า จำเลยทำร้ายผู้เสียหายมีบาดแผลบาดเจ็บตามรายการชัณสูตรบาดแผลเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วย.
บาดแผลตามรายงานชัณสูตรท้ายฟ้องเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1122/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลทางร่างกายไม่ถึงขั้น 'บาดเจ็บ' ตามกฎหมายอาญา แม้จำเลยรับสารภาพ
ถูกทำร้ายมีบาดแผลปรากฏตามรายงานชันสูตรบาดแผลว่า ตรงกึ่งกลางสันหน้าแข้งขวากว้าง 1 ซ.ม. ยาว 2 ซ.ม. ถลอกบวม และที่คอด้านหลังเป็นแผลบวมฟกช้ำ รักษา ประมาณ7 วันหาย เพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บทุพพลภาพตามมาตรา 254
ฟ้องว่า จำเลยทำร้ายผู้เสียหายมีบาดแผลบาดเจ็บตามรายการชันสูตรบาดแผลเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วย
บาดแผลตามรายงานชันสูตรท้ายฟ้องเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ฟ้องว่า จำเลยทำร้ายผู้เสียหายมีบาดแผลบาดเจ็บตามรายการชันสูตรบาดแผลเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วย
บาดแผลตามรายงานชันสูตรท้ายฟ้องเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดเจ็บจากการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาความสาหัสของบาดแผลและการหยุดราชการ
พนักงานดูเงินถูกทำร้ายหลายแห่ง แต่สำคัญที่ตาแห่งเดียวนอกนั้นเป็นบาดแผลเล็กน้อย ปรากฏตามคำชันสูตรบาดแผลว่าที่ตาข้างขวาขอบตาบวมช้ำ กดเจ็บภายในดวงตามีการอักเสบมีเลือดขังอยู่ในเยื่อตา รักษาประมาณ 15 วันหาย แต่นายแพทย์ยืนยันว่า เมื่อรักษาจริงๆ แล้ว 15 วันไม่หายและก็ไม่ยืนยันว่า ผู้เสียหายไม่สามารถจะใช้ตาดูเงินได้ภายใน 20 วันถ้าดูอะไรเพียงเล็กน้อย ก็ใช้ตานั้นดูได้เพียงแต่ผู้เสียหายลาหยุดราชการ21 วันโดยอ้างว่าใช้ตาตรวจดูเงินตามหน้าที่ไม่ได้ยังไม่พอฟังว่าผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกาย: บาดเจ็บสาหัสหรือไม่ พิจารณาจากอาการและระยะเวลาพักฟื้น
พนักงานดูเงินถูกทำร้ายหลายแห่ง แต่สำคัญที่ตาแห่งเดียว นอกนั้นเป็นบาดแผลเล็กน้อย ปรากฎตามคำชัณสูตร บาดแผลว่าที่ตาข้างขวาขอบตาบวมช้ำ กดเจ็บ ภายในดวงตามีการอักเสบ มีเลือดขังอยู่ในเยื่อตา รักษาประมาณ 15 วันหาย แต่นายแพทย์ยืนยันว่า เมื่อรักษาจริง ๆ แล้ว 15 วันไม่หาย และก็ไม่ยืนยันว่า ผู้เสียหายไม่สามารถจะใช้ ตาดูเงินได้ภายใน 20 วัน ถ้าดูอะไรเพียงเล็กน้อย ก็ใช้รานั้นดูได้เพียงแต่ผู้เสียหายลาหยุดราชการ 21 วัน โดย อ้างว่าใช้ตาตรวจดูเงินตามหน้าที่ไม่ได้ ยังไม่พอฟังว่าผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัส./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องไม่ตรงตามมาตราที่ใช้ลงโทษ
ฟ้องใช้ถ้อยคำว่า 'จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกันโดยจำเลยที่ 1-2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสาหัสจำเลยที่ 3-4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1-2ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ' ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา254,256 นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 258 ด้วย แม้ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องทำร้ายร่างกาย: ศาลใช้บทบัญญัติมาตรา 258 แม้ฟ้องไม่ระบุ หากพิจารณาได้ความจริง
ฟ้องใช้ถ้อยคำว่า "จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจเข้า
วิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 1 - 2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสา หัส จำเลยที่ 3 -4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1 - 2 ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ" ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.
ลักษณะอาญามาตรา 254, 256, นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 258 ด้วย แม้ ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้./
วิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 1 - 2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสา หัส จำเลยที่ 3 -4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1 - 2 ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ" ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.
ลักษณะอาญามาตรา 254, 256, นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 258 ด้วย แม้ ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาอันตรายจากอาวุธและบาดแผล
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249,60 ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงพิพากษายกฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 จำคุก 2 ปี ดังนี้ โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฐานพยายามฆ่าคนตามมาตรา 249,60 ได้ไม่ต้องห้าม
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบกระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วาถูกผู้เสียหายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่าฝังอยู่ตื้นๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วันหายอีกคนหนึ่งรักษา 6-7 วันหายประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้ถึงตายได้หรือไม่นั้นควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตายคงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บเท่านั้น
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบกระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วาถูกผู้เสียหายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่าฝังอยู่ตื้นๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วันหายอีกคนหนึ่งรักษา 6-7 วันหายประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้ถึงตายได้หรือไม่นั้นควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตายคงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การกระทำเป็นกรรมเดียวกัน แม้เปลี่ยนฐานความผิด
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมและวาระเดียวกัน เมื่ออัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษและศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย คดีถึงที่สุดแล้วผู้เสียหายจะมาฟ้องจำเลยหาว่าชิงทรัพย์ โดยใช้กำลังทำร้ายร่างกายอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา39(4)(อ้างฎีกาที่ 168/2489)