พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับจองที่ดินคร่อมทางหลวงไม่ชอบด้วยกฎหมาย การปิดกั้นทางหลวงเป็นความผิดอาญา แม้ได้รับอนุญาต
การที่จำเลยได้รับอนุญาตให้จับจองที่ดินคร่อมทางหลวงนั้นหาอาจทำให้เกิดสิทธิแก่จำเลยที่จะปิดกั้นทำประโยชน์ทางหลวงนั้นได้ไม่ เพราะการจับจองนั้นขัดต่อกฎหมาย หากจำเลยปิดกั้นทางหลวงนั้น ก็เป็นผิดทางอาญา
นายอำเภออนุญาตให้จำเลยจับจองที่ดินทางหลวง ภายหลังสั่งให้จำเลยรื้อสิ่งกีดขวางทางหลวง ซึ่งจำเลยทำไว้เมื่อได้รับใบเหยียบย่ำแล้ว จำเลยขัดขืนไม่ทำตามสั่งดังนี้ ไม่เป็นผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน เพราะคำสั่งของนายอำเภอไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นายอำเภออนุญาตให้จำเลยจับจองที่ดินทางหลวง ภายหลังสั่งให้จำเลยรื้อสิ่งกีดขวางทางหลวง ซึ่งจำเลยทำไว้เมื่อได้รับใบเหยียบย่ำแล้ว จำเลยขัดขืนไม่ทำตามสั่งดังนี้ ไม่เป็นผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน เพราะคำสั่งของนายอำเภอไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางน้ำส่วนบุคคลยังไม่เป็นทางสาธารณะ การปิดกั้นไม่ผิดกฎหมาย
ทางน้ำซึ่งมีน้ำไหลเข้าออกได้แต่ไม่มีผู้ใดใช้สายทางนี้ ยังไม่เป็นทางสาธารณ เมื่อจำเลยปิดกั้นทางนี้ จึงไม่มีผิดตามกฎหมายข้างต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละที่ดินเป็นทางสาธารณประโยชน์และการปิดกั้นทางหลวง
พฤตติการณ์อย่างไรฟังว่าเป็นการสละที่ดินให้เป็นทางเดิรสำหรับสาธารณใช้สัญจรไปมา ทางเดิรซึ่งเจ้าของที่สละให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นผู้ใดปิดกั้นเสียต้องมีผิดตามมาตรา 336 ข้อ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 791/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปิดกั้นทางน้ำส่วนบุคคลทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น เจ้าของที่ดินมีหน้าที่ต้องยอมรับน้ำจากที่สูง
ปิดลำรางซึ่งอยู่ในที่ของตนไม่ได้ เมื่อทำให้ผู้อื่นเสียหาย เจ้าของที่ดินจำต้องรับน้ำซึ่งใหลจากที่ดินสูงมาในที่ดินของตน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทาง (ทางเดิน) เกิดขึ้นได้จากการใช้ต่อเนื่องกว่า 10 ปี แม้เจ้าของที่ดินจะพยายามปิดกั้น
ที่ดิน ทางเดิร เดิรมา 10 ปีกว่าได้สิทธิที่จะเดิรต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14258/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในสถานที่ให้บริการสาธารณะต้องเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต หากไม่มีหลักฐานการหวงห้ามหรือปิดกั้น สถานที่นั้นไม่ถือเป็นสถานที่ที่เข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเข้าไปในบริเวณศาลาการเปรียญวัดหนองบัวอันเป็นสถานที่ที่จัดไว้เพื่อให้บริการสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วลักประตูเหล็กพับยืด 4 บาน ราคา 20,000 บาท ของวัดหนองบัว ซึ่งอยู่ในความดูแลของผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหนองบัวผู้เสียหาย และเก็บรักษาไว้ในสถานที่ดังกล่าวไป โดยใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างเป็นยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ซึ่งความผิดฐานลักทรัพย์ในสถานที่ที่จัดไว้เพื่อให้บริการสาธารณะตาม ป.อ. มาตรา 335 (8) นอกจากองค์ประกอบความผิดที่ว่าสถานที่ที่ลักทรัพย์ต้องเป็นสถานที่ที่จัดไว้เพื่อให้บริการสาธารณะแล้ว ผู้ที่เข้าไปลักทรัพย์ต้องเข้าในสถานที่ดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงจากการนำสืบของโจทก์ว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุลักทรัพย์วัดหนองบัวได้หวงห้ามหรือปิดกั้นมิให้ประชาชนซึ่งเข้าไปในวัดหนองบัวเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุ การที่จำเลยเข้าไปลักประตูเหล็กพับยืดในบริเวณที่เกิดเหตุจึงมิใช่เป็นการเข้าไปลักทรัพย์ในสถานที่ที่จัดไว้เพื่อให้บริการสาธารณะที่ตนได้เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยจึงไม่มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 335 (8) คงมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 334
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5659/2567
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปิดกั้นทางสาธารณะด้วยรั้ว การคุ้มครองทรัพย์ส่วนกลางอาคารชุด และผลกระทบของ พ.ร.บ.ปรับเป็นพินัย
เนื่องจากมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 โดยตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าวบัญญัติว่า "เมื่อพ้นกำหนดสามร้อยหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวตามกฎหมายในบัญชี 1 ท้ายพระราชบัญญัตินี้ เป็นความผิดทางพินัยตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาที่บัญญัติไว้ในกฎหมายดังกล่าว เป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัยตามพระราชบัญญัตินี้" และมาตรา 45 บัญญัติว่า "บรรดาความผิดอาญาที่เปลี่ยนเป็นความผิดทางพินัยมาตรา 39 มาตรา 40 หรือมาตรา 42 (1)...(3) ถ้าอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ให้ศาลพิจารณาปรับเป็นพินัยตามพระราชบัญญัตินี้" ดังนั้น เมื่อในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาบทบัญญัติมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัยฯ มีผลใช้บังคับ ย่อมมีผลให้ความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 19, 57 ซึ่งเป็นความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวและเป็นกฎหมายที่มีอยู่ในบัญชี 1 ท้าย พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัยฯ เปลี่ยนเป็นความผิดทางพินัย และเมื่อความผิดทางพินัยฐานดังกล่าวนี้เป็นการกระทำกรรมเดียวกับความผิดทางอาญาตาม ป.อ. มาตรา 385 ความผิดทางพินัยจึงเป็นอันยุติไปตามบทบัญญัติมาตรา 16 (1) แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัยฯ กรณีต้องลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 385