คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หลักฐานหนังสือ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 66 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเข้าอยู่อาศัยหลังมติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า และการมีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือ
การที่โจทก์ทราบมติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ฯ ให้จำเลยเข้าอยู่ได้แล้วกลับขัดขวางไม่ยอมออกไปดังนี้ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของจำเลยในอันที่จะเข้าอยู่ในห้องพิพาท
เมื่อในคำฟ้องซึ่งโจทก์ลงซึ่งมีข้อความปรากฏชัดว่าได้มีการเช่าห้องรายนี้ทั้งระบุจำนวนเงินค่าเช่าระหว่างโจทก์ ผู้เช่า กับจำเลยจริงดังนี้ย่อมถือได้ว่าการเช่ารายนี้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ตาม ป.พ.พ. ม.538 แล้ว
บรรยายฟ้องในเรื่องเรียกค่าเสียหายเป็นใจความว่าโจทก์ไม่ยอมออกจากบ้านเช่าของจำเลย จำเลยเข้าไปอยู่ไม่ได้ย่อมเสียหายเช่นนี้ถือได้ว่าฟ้องนั้นแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาแล้ว หาเคลือบคลุมไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายเงินส่วนแบ่งทนายความโดยไม่มีหลักฐานหนังสือ ศาลรับฟังพยานบุคคลได้ และการฎีกาในข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อย
การที่ทนายความจ่ายเงินส่วนได้ของลูกความที่ตนรับมาจากศาลให้แก่ลูกความนั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้นแม้ตัวความจะไม่ได้ออกใบรับเงินให้ ทนายก็นำสืบพยานบุคคลได้
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์ 900 บาทเศษ จำเลยกลับฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้เงินให้จำเลย 1800 บาทเศษ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย คู่ความก็ย่อมจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1396/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกเงินที่ให้ยืมโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เมื่อจำเลยปฏิเสธ ย่อมไม่สามารถบังคับให้ชำระหนี้ได้
ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์กล่าวว่าได้ให้จำเลยไปทำทุนตามฟ้อง ดังนี้เป็นเรื่องให้ยืมเงินไปคราวเดียว 393 บาท โดยไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้ ผู้ให้ยืมฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้คืนไม่ได้เลยไม่เฉพาะแต่ที่เกิน 50 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ให้เช่ามีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ แม้ไม่มีหลักฐานหนังสือ
ในกรณีที่ผู้ให้เช่าเดิมฟ้องขับไล่ผู้เช่าช่วง ซึ่งได้เช่าช่วงไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเดิมนั้น ผู้เช่าช่วงโดยมิชอบนี้จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ให้เช่าเดิมว่า ผู้ให้เช่าเดิมไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงว่ามีการเช่าช่วง จึงจะนำสืบพะยานบุคคลไม่ได้ ดังนี้ หามีสิทธิยกขึ้นต่อสู้ได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชดใช้เงินทดรองจ่ายในฐานะตัวแทน แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
ตัวแทนออกเงินทดรองไปในกิจการที่ได้รับมอบหมายจากตัวการย่อมมีสิทธิเรียกเงินชดใช้จากตัวการได้ตามมาตรา 816 และการทดรองเงินก็ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 653 ซึ่งเป็นบทเรื่องกู้ยืมเงินโดยเฉพาะ
โจทก์จ่ายเงินให้แก่ผู้มีชื่อไปแทนจำเลยตามคำร้องขอของจำเลยถือว่าเป็นการกระทำแทนจำเลยในกิจการของจำเลยซึ่งเป็นตัวการ แม้การจ่ายเงินนั้นจะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือโจทก์ก็ฟ้องเรียกเงินจำนวนนั้นจากจำเลยได้ตามมาตรา 816

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินด้วยวาจา มีหลักฐานหนังสือแสดงเจตนาเพียงพอต่อการบังคับคดีได้
จะซื้อขายที่ดินและตึกแถว เพียงแต่มีหลักฐานเป็นหนังสือแสดงว่าได้มีการจะซื้อขายกันจริงก็เป็นการเพียงพอเพราะกฎหมายมิได้บังคับว่าต้องทำสัญญาเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายเกิน 500 บาท แม้ไม่มีหลักฐานหนังสือ ก็ฟ้องได้หากมีการชำระราคาแล้ว การนำสืบถึงแหล่งที่มาของทรัพย์ไม่ถือเป็นการสืบนอกประเด็น
การซื้อขางสังหาริมทรัพย์ ราคาเกินห้าร้อยบาท ผู้ซื้อได้ชำระราคาแล้ว แม้ไม่มีหลักถานเปนหนังสือฟ้องขอไห้ผู้ขายส่งทรัพย์ที่ซื้อได้
ฟ้องว่าจำเลยขายทรัพย์ไห้ แล้วนำสืบว่าจำเลยไปซื้อมาจากอื่นแล้วเอามาขายเอากำไรจากโจทดังนี้ ไม่เปนการสืบนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 965/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อจะขายและเช่าที่ดิน: หลักฐานเป็นหนังสือและความรับผิดทางสัญญา
จำเลยให้คำมั่นจะขายแลจะให้เช่าที่ดิน แต่มิได้มีหนังสือเป็นหลักฐานต่อกันไว้ โจทก์ยอมรับซื้อแลเช่าภายหลังจำเลยไม่ยอมโจทก์จะฟ้องขอให้บังคับการซื้อขายและการเช่าไม่ได้ เพราะขาดหลักฐานดังกล่าวแล้ว โจทก์จำเลยตกลงกันว่า ถ้าโจทก์ขายที่ดินให้จำเลย ๆจะยอมให้โจทก์ซื้อที่คืนได้ภายหลัง โดยจำเลยมิได้ตั้งใจหลอกลวงโจทก์ในขณะนั้นโจทก์จึงขายที่ให้จำเลยแล้วจำเลยกลับไม่ยอมให้โจทก์ซื้อคืนดังนี้ เป็นเรื่องผิดสัญญาหาเป็นกลฉ้อฉลอันจะให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะไม่
ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.148 ศาลพิพากษาให้โจทก์โอนขายที่ดินให้จำเลยแล้วภายหลังโจทก์มาฟ้องอ้างว่ามีข้อตกลงให้โจทก์ซื้อที่ดินคืนได้ จึงขอให้จำเลยโอนที่ดินคืนดังนี้ ฟ้องได้ไม่ต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2521/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์: การแก้ไขเพิ่มเติมข้อตกลงด้วยวาจาขัดกับหลักฐานหนังสือ และผลของการผิดสัญญา
การจะซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นการจะซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกฎหมายกำหนดรูปแบบและหลักฐานในการทำสัญญากันไว้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 456 วรรคสอง ว่า สัญญาจะขายหรือจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญ หรือได้วางประจำไว้ หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ จากบทกฎหมายดังกล่าว หากคู่สัญญาจะทำสัญญาจะซื้อขายให้มีผลทางกฎหมายในการฟ้องร้องบังคับกันได้ ต้องเลือกกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ทำหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญ หรือวางประจำหรือมัดจำ หรือมีการชำระหนี้บางส่วน เมื่อโจทก์และจำเลยเลือกรูปแบบของสัญญาโดยทำสัญญาจะซื้อขายหรือสัญญาวางมัดจำกันไว้ ถือเป็นกรณีทำหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใด โดยลงลายมือชื่อโจทก์และจำเลยไว้เพื่อให้คู่สัญญาฟ้องบังคับฝ่ายที่ผิดสัญญาได้ จึงเป็นกรณีที่หากฟ้องร้องบังคับคดีต้องมีสัญญาจะซื้อขายมาแสดงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94 ดังนั้น การที่โจทก์นำสืบพยานบุคคลประกอบข้ออ้างเพิ่มเติมว่ายังมีข้อตกลงด้วยวาจาว่า ก่อนทำสัญญาจำเลยแจ้งต่อโจทก์ว่ามีถนนทางผ่านเข้าออกไปยังที่ดินพิพาทเชื่อมกับถนนสาธารณะ จึงต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94 (ข) ปัญหาข้อนี้แม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 8 แต่เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งคู่ความที่เกี่ยวข้องย่อมมีสิทธิที่จะยกขึ้นอ้างได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคสอง (เดิม) ซึ่งใช้บังคับขณะยื่นฟ้อง ข้อเท็จจริงแห่งคดีจึงรับฟังไม่ได้ว่ามีข้อตกลงเรื่องถนนเชื่อมผ่านตามที่โจทก์กล่าวอ้าง จำเลยมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์จึงไม่อาจบอกเลิกสัญญาและเรียกร้องเงินมัดจำคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8522/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายกำหนดเวลาไถ่ที่ดินขายฝากต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การไม่มีหลักฐานหนังสือไม่อาจรับฟังได้
ป.พ.พ. มาตรา 496 วรรคสอง บัญญัติว่า "การขยายกำหนดเวลาไถ่ตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้รับไถ่..." บทบัญญัติดังกล่าวมีวัตถุประสงค์โดยชัดแจ้ง เพื่อป้องกันข้อพิพาทโต้เถียงของคู่สัญญาว่า มีการตกลงขยายกำหนดเวลาไถ่แก่กันหรือไม่ จึงได้บัญญัติว่า หากมีการขยายกำหนดเวลาไถ่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้รับไถ่ โจทก์มีแต่พยานบุคคลมาสืบประกอบสำเนาบันทึกแจ้งเหตุขัดข้องต่อผู้ใหญ่บ้านและสำเนารายงานประจำวันว่า จำเลยขยายกำหนดเวลาไถ่ให้ แต่โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยมาแสดง ไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยได้ตกลงขยายกำหนดเวลาไถ่ให้ เมื่อพ้นกำหนดเวลาไถ่แล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิไถ่ที่ดินที่ขายฝากและจำเลยย่อมมีสิทธิขับไล่โจทก์พร้อมบริวารออกจากที่ดินตามฟ้องแย้งได้
of 7