คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การทำงาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 77 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2052/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบงานล่าช้า, การยอมรับมอบงานโดยไม่มีข้อโต้แย้ง, และผลกระทบต่อการลดหย่อนค่าจ้างตามสัญญา
ฟ้องแย้งมีทุนทรัพย์ 29,500 บาทศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นต้องห้ามมิให้ฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
โจทก์ส่งมอบงานเกินกำหนดเวลาตามสัญญาและจำเลยยอมรับมอบงานจากโจทก์โดยมิได้อิดเอื้อน โจทก์จึงไม่ต้องรับผิดเพื่อการส่งมอบที่เนิ่นช้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 597
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 596 ให้ถือเอาการส่งมอบการงานเป็นการทำงานเสร็จสิ้น การขนย้ายปั้นจั่นล่าช้าของโจทก์เกิดขึ้นภายหลังการส่งมอบการงานเสร็จสิ้นแล้วจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก ไม่ใช่เหตุแห่งการส่งมอบงานที่เนิ่นช้าซึ่งจะเป็นเหตุให้ลดสินจ้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2335/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางไม่ใช่ค่าจ้างสำหรับคำนวณค่าทดแทนกรณีประสบภัยจากการทำงาน
เมื่อ ม. ลูกจ้างทำงานประจำอยู่ที่สำนักงานของโจทก์เงินเดือนปกติที่โจทก์จ่ายให้แก่ ม. จึงเป็นการตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงานอยู่แล้ว ส่วนเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางซึ่งโจทก์จ่ายให้ ม. เมื่อออกไปทำงานต่างจังหวัดเป็นครั้งคราวนั้น เป็นการตอบแทนการออกไปทำงานในต่างจังหวัดนอกเหนือจากการทำงานในเวลาปกติของวันทำงาน ไม่มีพฤติการณ์ใดส่อแสดงว่า โจทก์จ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางให้แก่ ม.. เป็นส่วนหนึ่งของการตอบแทนการทำงานในเวลาปกติของวันทำงานด้วยเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางกรณีนี้จึงหาใช่ค่าจ้างอันอาจนำมารวมคำนวณค่าทดแทนได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบสวนทางวินัยต้องมีผู้แทนสหภาพแรงงานเฉพาะกรณีจับกุมเท่านั้น
แม้ระเบียบข้อบังคับของกรมโรงงานอุตสาหกรรมผู้ให้จำเลยเช่าโรงงานจะวางข้อกำหนดให้มีการสอบสวนโดยมีผู้แทนสหภาพแรงงานของโรงงานเข้าร่วมด้วยเมื่อมีการจับกุมคนงานหรือสมาชิกสหภาพแรงงานของโรงงานในกรณีที่สงสัยว่ากระทำการทุจริตในบริเวณโรงงานแต่กรณีของโจทก์หาได้มีการจับกุมโจทก์หรือผู้ใดไม่จำเลยตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาโทษโจทก์ทั้งสองทางวินัยตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเท่านั้นกรณีจึงไม่ต้องตั้งผู้แทนสหภาพแรงงานเข้าร่วมสอบสวนด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1799/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตายจากการทำร้ายร่างกายโดยเจตนา ไม่ถือเป็นการประสบอันตรายจากการทำงาน
แม้จะฟังว่า ผู้ช่วยผู้จัดการบริษัท อ. สั่งให้ผู้ตายดำเนินการให้ ป. ย้ายออกไปจากห้องพักของบริษัท ซึ่ง ป. อยู่โดยไม่มีสิทธิ ผู้ตายสั่งให้คนตาม ป. ไป พบ ป.ไม่ไป ผู้ตายจึงไปพบ ป. เพื่อเจรจาเรียกห้องพักคืน แต่ในการเจรจานั้นได้ความว่า ผู้ตายได้ทำร้ายร่างกาย ป. ก่อน โดยไม่จำเป็น ดังนี้ เป็นเรื่องผู้ตายทำร้ายร่างกาย ป.ไปตามเจตนาของผู้ตายเอง หาเกี่ยวเนื่องกับการเจรจาเรียกห้องพักคืนอันเป็นการทำงานให้นายจ้างไม่ เมื่อ ป. บันดาลโทสะ ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ความตายของผู้ตายจึงเกิดขึ้นเนื่องจากผู้ตายทำร้ายร่างกาย ป.ก่อน ถือไม่ได้ว่าผู้ตายประสบอันตรายถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างอันจะทำให้ภริยาของผู้ตายมีสิทธิได้รับเงินจากกองทุนเงินทดแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายเงินทดแทนกรณีลูกจ้างเสียชีวิตจากเหตุส่วนตัว แม้เกิดขณะทำงาน
ส.ลูกจ้างโจทก์ถูกแทงทำร้ายถึงแก่ความตาย เพราะสาเหตุเรื่องส่วนตัวแม้การตายของ ส. ได้เกิดขึ้นขณะปฏิบัติงานทำความสะอาดตู้รถสินค้าและบริเวณที่ทำการรับส่งสินค้าของโจทก์ผู้เป็นนายจ้างก็ตาม แต่เมื่อมีสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัวก็ถือไม่ได้ว่า ส. ประสบอันตรายถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่โจทก์ผู้เป็นนายจ้างตามนัยแห่งประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 2 โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างจึงไม่จำต้องจ่ายเงินทดแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกจ้างประสบอันตรายระหว่างเดินทางไปทำงาน ไม่ถือว่าเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน จึงไม่ต้องจ่ายเงินทดแทน
ลูกจ้างของโจทก์ออกเดินทางจากบ้านพักจะไปโรงกุลีเพื่อเอาป้ายสำหรับเดินตรวจทางซึ่งอยู่ในหน้าที่ แต่ยังเดินทางไปไม่ถึงโรงกุลีก็ถูกรถไฟชนถึงแก่ความตายเป็นกรณีที่ผู้ตายยังมิได้เริ่มเดินตรวจทางตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากโจทก์ เพียงแต่กำลังเดินทางจะไปโรงกุลีซึ่งเท่ากับเป็นสถานที่ที่ผู้ตายจะเริ่มต้นทำงานเมื่อผู้ตายได้รับอันตรายในขณะที่ยังเดินทางไปไม่ถึงสถานที่ที่จะเริ่มต้นทำงานและยังมิได้ลงมือทำงานให้แก่โจทก์จะถือว่าประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง หรือป้องกันรักษาประโยชน์ให้แก่นายจ้าง ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16 มีนาคม2515 ข้อ 2(6) และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดนายจ้างต่อลูกจ้างที่ประสบอันตรายระหว่างเดินทางไปทำงาน แม้ไม่ได้ทำงานโดยตรง
โจทก์ประกอบกิจการสร้างถนน ผู้ตายเป็นลูกจ้างของโจทก์มีหน้าที่เก็บรากไม้เก็บหิน ดูหลักระดับผิวถนนวันเกิดเหตุ เวลา 6 นาฬิกา ผู้ตายกับลูกจ้างอื่นของโจทก์ได้มารอที่สำนักงานของโจทก์เพื่อจะไปทำงานตามหน้าที่ เวลา 6.45 นาฬิกา หัวหน้าคนงานของโจทก์สั่งให้ผู้ตายและลูกจ้างอื่นเดินไปทำงานที่จุดกำหนด ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงานประมาณ 300 เมตร โดยมีลูกจ้างของโจทก์คนหนึ่งควบคุมไป ระหว่างทาง มีรถบดของโจทก์วิ่งมา ผู้ตายขอโดยสารไปด้วย พอรถบดออกวิ่ง ผู้ตายก็ตกจากรถบด ถูกรถบดทับถึงแก่ความตาย แม้การตายของผู้ตายมิได้เกิดขึ้นในระหว่างทำงาน ผู้ตายก็ประสบอันตรายถึงแก่ความตายระหว่างเดินทางไปทำงาน นับได้ว่าการเดินทางไปทำงานให้โจทก์เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานให้โจทก์ ถือว่าผู้ตายประสบอันตรายถึงตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างและมิใช่อันตรายที่ลูกจ้างจงใจก่อให้เกิดขึ้นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส และผลกระทบต่อการทำงาน
ถูกทำร้ายปรากฎตามใบชัณสูตรบาดแผลว่ารักษา 22 วัน สมองได้รับการกระเทือน นายแพทย์มาเบิกความรับรองและปรากฎว่า ผู้เสียหายถูกทำร้ายแล้วปวดมึนศีร์ษะ ชั้นแรกไปทำแผลที่โรงพยาบาลได้ 6-7 วัน อาการไม่ดีขึ้น แพทย์เลยเอาตัวไว้โรงพยาบาลรักษาอยู่โรงพยาบาล อีก 17 วัน จึงกลับบ้าน ผู้เสียหายมีอาชีพขับรถยนต์ประจำทาง เกิดเหตุแล้ว 2 เดือนจึงทำงานได้ แต่ขับรถไม่ได้เพราะเกิดมีความกลัว ทางบริษัทจึงให้เป็นนายตรวจ ดังนี้ วินิจฉัยว่าเป็นบาดแผลบาดเจ็บถึงสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงขั้นสาหัส: บาดเจ็บต้องรักษาตัวนาน และส่งผลกระทบต่อการทำงาน
ถูกทำร้ายปรากฏตามใบชันสูตรบาดแผลว่ารักษา 22 วัน สมองได้รับการกระเทือน นายแพทย์มาเบิกความรับรองและปรากฏว่า ผู้เสียหายถูกทำร้ายแล้วปวดมึนศีรษะ ขั้นแรกไปทำแผลที่โรงพยาบาลได้ 6-7 วัน อาการไม่ดีขึ้น แพทย์เลยเอาตัวไว้โรงพยาบาลรักษาอยู่โรงพยาบาลอีก 17 วันจึงกลับบ้าน ผู้เสียหายมีอาชีพขับรถยนต์ประจำทาง เกิดเหตุแล้ว2 เดือนจึงทำงานได้แต่ขับรถไม่ได้เพราะเกิดมีความกลัว ทางบริษัทจึงให้เป็นนายตรวจ ดังนี้ วินิจฉัยว่าเป็นบาดแผลบาดเจ็บถึงสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินความสาหัสของการบาดเจ็บเพื่อกำหนดฐานความผิดทางอาญา
บาดแผลของผู้เสียหายรักษา 1 เดือนเศษหาย ระหว่างแผลยังไม่หาย เดินไปไหนมาไหนได้ ไม่ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ แต่ทำงานหนักไม่ได แต่ 20 วันแล้วทำงานหนักได้ 20 วันไถนาได้แต่ไม่ปรกติแท้ ดังนี้ยังฟังไม่ถนัดนักว่า บาดเจ็บนั้นจะถึงไม่สามารจะประกอบการหาเลี้ยงชีพได้โดยปรกติเกิน 20 วัน จึงไม่เป็นบาดเจ็บสาหัสตามมาตรา 256
ศาลชั้นต้นลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254 ศาลอุทธรณ์ลงโทษตามมาตรา 256 เป็นแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
of 8